ASTVผู้จัดการรายวัน - “วสท.” ยันโครงการน้ำผิดหลักวิศวกรรม ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนเริ่มโครงการ ด้าน 132 ส.ส.ประชาธิปัตย์ เข้าชื่อยื่นถอดถอน "ครม.ปู 2" ยกชุดจากกรณีโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ส่อทุจริต ผิดกฎหมาย “พงศ์เทพ” เตรียมหารือก่อนยื่นอุทธรณ์ศาลปค.
นายสุวัฒนา จิตตลดากร ประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า การดำเนินโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาลนั้น เป็นการดำเนินการที่ผิดหลักขั้นตอนของวิศวกรรมสถาน ซึ่งอย่างน้อยต้องมีการศึกษาความเหมาะสมด้านต่างๆ ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาเริ่มดำเนินโครงการ โดยควรศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามขั้นตอนเป็นอันดับแรก
นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งพิพากษา เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ให้รัฐบาลรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ก่อนเซ็นสัญญาเริ่มดำเนินโครงการจัดการบริหารน้ำนั้น ยืนยันว่า รัฐบาลจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ก่อนเริ่มดำเนินโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
** วิศกรรมสถานฯพร้อมให้คำปรึกษารัฐบาล
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าววา ขณะนี้รัฐบาลมีความพยายามที่จะเดินหน้าอย่างไม่มีทางถอย ซึ่งทางวิศวกรรมสถานฯ จะต้องเร่งหาแนวทาง เพื่อเสนอไปยังรัฐบาลให้เดินหน้าไปตามแนวทางที่ถูกต้อง ในฐานะที่เป็นมืออาชีพ
ด้าน ผศ.ดร.คมสัน มาลีสี รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ในขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีการศึกษาถึงความสอดคล้องของแต่ละโมดูล ขณะที่นักวิชาการหลายด้านก็ยืนยันว่า โครงการแต่ละโมดูลในขณะนี้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหากไม่สามารถเชื่อมโยงกัน และการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ ไม่ควรทำเพื่อไล่น้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำให้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากจะทำให้พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร น้ำท่วมขัง โดยควรมีการทำเป็นแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ำมากกว่า
*** ปชป.ยื่นถอดถอนครม.ปู
เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้(2 ก.ค. ) ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารรัฐสภา2 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กว่า 20 คน นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เข้ายื่นหนังสือถอดถอน"ครม.ยิ่งลักษณ์ 2 " ต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในกรณีคณะรัฐมนตรีกระทำผิดกฎหมาย ในแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท
ส่วนที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งว่า การดำเนินตามโครงการนี้ ต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อน แต่กระทรวงการคลัง โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ได้ลงนามเซ็นสัญญากู้เงินไปแล้วนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า นั่นเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่ง และเป็นประเด็นเพิ่มเติมที่จะต้องไต่สวน
เมื่อถามอีกว่า คำร้องถอดถอนนี้เชื่อมโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไปพบผู้บริหาร บริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น ( เค วอเตอร์ ) ด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นที่มาของนายกฯหุ่นเชิด ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
ทั้งนี้ การยื่นถอดถอนครม.ยกชุดครั้งนี้ เพราะในโครงการบริการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท มีการส่อทุจริต และกระทำผิดกฎหมาย 5 ฉบับ คือ 1. ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 57และ 67 , 2. ผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103/7 , 3. พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 , 4. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) และ 5. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเลยการปฏิบัติหน้าที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน มีการกระทำ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 57 และ มาตรา 67 และอาจจะสอดคล้องกับสิ่งที่ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า รัฐบาลไม่ได้ทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเรื่องของกฎหมาย ป.ป.ช. ว่าด้วยการเปิดเผยราคากลาง
**เตรียมหารือก่อนยื่นอุทธรณ์ศาลปค.
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้เป็นประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ให้รัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชนก่อนดำเนินการบริหารจัดการน้ำว่า ตนได้นัดประชุมคณะทำงานทั้งหมดในวันจันทร์หน้า ซึ่งจะมาดูว่าแนวทางในการดำเนินการต่อไปให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และคำพิพากษานั้นจะต้องทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่า หากโครงการไหนไม่เข้าเงื่อนไขการทำ EIA หรือ HIA ก็เดินหน้าได้เลย ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่าง กฎหมายมีบอกไว้ว่า โครงการไหนต้องทำ EIA หรือ HIA อย่างนั้น ก็ต้องทำ แต่ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ ก็ไม่ต้องทำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอดูรายละเอียดของคำพิพากษาของศาลปกครองก่อน เพื่อแนะนำไปยังคณะของ นายปลอดประสพ ได้
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า ควรจะมีการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางหน่วยงานต้นสังกัดที่เป็นเจ้าของเรื่อง และอัยการ จะหารือกัน ว่าสมควรจะอุทธรณ์หรือไม่ แต่เรื่องนี้เมื่อมีการตั้งคณะทำงานที่มีตนเป็นประธานขึ้นมาแล้ว ก็คงจะช่วยให้คำแนะนำด้วยว่า ควรจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีเวลาที่กำหนดไว้ 30 วัน แต่ตอนนี้ขอดูคำพิพากษาทั้งหมดก่อน
นายสุวัฒนา จิตตลดากร ประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า การดำเนินโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาลนั้น เป็นการดำเนินการที่ผิดหลักขั้นตอนของวิศวกรรมสถาน ซึ่งอย่างน้อยต้องมีการศึกษาความเหมาะสมด้านต่างๆ ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาเริ่มดำเนินโครงการ โดยควรศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามขั้นตอนเป็นอันดับแรก
นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งพิพากษา เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ให้รัฐบาลรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ก่อนเซ็นสัญญาเริ่มดำเนินโครงการจัดการบริหารน้ำนั้น ยืนยันว่า รัฐบาลจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ก่อนเริ่มดำเนินโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
** วิศกรรมสถานฯพร้อมให้คำปรึกษารัฐบาล
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าววา ขณะนี้รัฐบาลมีความพยายามที่จะเดินหน้าอย่างไม่มีทางถอย ซึ่งทางวิศวกรรมสถานฯ จะต้องเร่งหาแนวทาง เพื่อเสนอไปยังรัฐบาลให้เดินหน้าไปตามแนวทางที่ถูกต้อง ในฐานะที่เป็นมืออาชีพ
ด้าน ผศ.ดร.คมสัน มาลีสี รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ในขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีการศึกษาถึงความสอดคล้องของแต่ละโมดูล ขณะที่นักวิชาการหลายด้านก็ยืนยันว่า โครงการแต่ละโมดูลในขณะนี้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหากไม่สามารถเชื่อมโยงกัน และการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ ไม่ควรทำเพื่อไล่น้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำให้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากจะทำให้พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร น้ำท่วมขัง โดยควรมีการทำเป็นแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ำมากกว่า
*** ปชป.ยื่นถอดถอนครม.ปู
เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้(2 ก.ค. ) ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารรัฐสภา2 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กว่า 20 คน นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เข้ายื่นหนังสือถอดถอน"ครม.ยิ่งลักษณ์ 2 " ต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในกรณีคณะรัฐมนตรีกระทำผิดกฎหมาย ในแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท
ส่วนที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งว่า การดำเนินตามโครงการนี้ ต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อน แต่กระทรวงการคลัง โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ได้ลงนามเซ็นสัญญากู้เงินไปแล้วนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า นั่นเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่ง และเป็นประเด็นเพิ่มเติมที่จะต้องไต่สวน
เมื่อถามอีกว่า คำร้องถอดถอนนี้เชื่อมโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไปพบผู้บริหาร บริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น ( เค วอเตอร์ ) ด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นที่มาของนายกฯหุ่นเชิด ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
ทั้งนี้ การยื่นถอดถอนครม.ยกชุดครั้งนี้ เพราะในโครงการบริการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท มีการส่อทุจริต และกระทำผิดกฎหมาย 5 ฉบับ คือ 1. ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 57และ 67 , 2. ผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103/7 , 3. พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 , 4. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) และ 5. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเลยการปฏิบัติหน้าที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน มีการกระทำ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 57 และ มาตรา 67 และอาจจะสอดคล้องกับสิ่งที่ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า รัฐบาลไม่ได้ทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเรื่องของกฎหมาย ป.ป.ช. ว่าด้วยการเปิดเผยราคากลาง
**เตรียมหารือก่อนยื่นอุทธรณ์ศาลปค.
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้เป็นประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ให้รัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชนก่อนดำเนินการบริหารจัดการน้ำว่า ตนได้นัดประชุมคณะทำงานทั้งหมดในวันจันทร์หน้า ซึ่งจะมาดูว่าแนวทางในการดำเนินการต่อไปให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และคำพิพากษานั้นจะต้องทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่า หากโครงการไหนไม่เข้าเงื่อนไขการทำ EIA หรือ HIA ก็เดินหน้าได้เลย ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่าง กฎหมายมีบอกไว้ว่า โครงการไหนต้องทำ EIA หรือ HIA อย่างนั้น ก็ต้องทำ แต่ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ ก็ไม่ต้องทำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอดูรายละเอียดของคำพิพากษาของศาลปกครองก่อน เพื่อแนะนำไปยังคณะของ นายปลอดประสพ ได้
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่า ควรจะมีการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางหน่วยงานต้นสังกัดที่เป็นเจ้าของเรื่อง และอัยการ จะหารือกัน ว่าสมควรจะอุทธรณ์หรือไม่ แต่เรื่องนี้เมื่อมีการตั้งคณะทำงานที่มีตนเป็นประธานขึ้นมาแล้ว ก็คงจะช่วยให้คำแนะนำด้วยว่า ควรจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีเวลาที่กำหนดไว้ 30 วัน แต่ตอนนี้ขอดูคำพิพากษาทั้งหมดก่อน
