“รองนายกฯ พงศ์เทพ” นัดทีมกฎหมายประชุมคำพิพากษาศาลปกครองโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทจันทร์หน้าจะอุทธรณ์หรือไม่ ยันไม่มีรัฐบาลไหนจงใจใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ อ้างที่เป็นปัญหาเพราะตีความกฎหมายแตกต่างกัน เล็งเดินหน้าโครงการที่ไม่ต้องทำ EIA หรือ HIA
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้รัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชนก่อนดำเนินการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า ตนได้นัดประชุมคณะทำงานทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค. เนื่องจากสัปดาห์นี้คณะทำงานติดภารกิจที่ร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งจะมาดูว่าแนวทางในการดำเนินการต่อไปให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมายและคำพิพากษานั้นจะต้องทำอย่างไร เพราะในคำพิพากษาได้เปิดช่องไว้ว่าสามารถทำอะไรที่ศาลเห็นว่าควรจะทำเพิ่มได้
ส่วนที่ฝ่ายค้านจะยื่นถอดถอน ครม.ทั้งคณะในเรื่องนี้นั้น นายพงศ์เทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจดีที่จะทำโครงการเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทั้งการป้องกันปัญหามหาอุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี รัฐบาลมีความตั้งใจ และพยายามทำให้ถูกต้องตามกรอบระเบียบของกฎหมายมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ไม่มีรัฐบาลไหนหรอกที่จะไปจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย เพียงแต่การตีความกฎหมายหรือการปฏิบัติการใช้กฎหมายอาจจะมีความแตกต่างกัน ฝ่ายที่ทำหน้าที่ทั้งหลายหรือแม้แต่นายปลอดประสพเองก็คงพยายามทำหน้าที่ตรงนี้ให้สอดคล้องกับกฎหมายมากที่สุด และส่วนตัวเองที่ต้องมารับหน้าที่ตรงนี้ ไม่ได้มีความหนักใจอะไรเลย แม้คนจะมองว่าเป็นปมร้อนก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพิจารณาทำฟลัดเวย์หรือจะต้องรอพิจารณาร่วมกันทั้งหมด นายพงศ์เทพกล่าวว่า ต้องดูก่อนเพราะในคำพิพากษาของศาลปกครองโครงการหลายอย่างอาจจะเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายบอกว่าต้องทำอะไรก่อน หรือหลายโครงการก็ไม่จำเป็นเลยที่ต้องทำอะไรก่อน เช่น หลายโครงการอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือหลายโครงการอาจไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเลยก็ได้ และหลายโครงการก็ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ซึ่งก็ต้องดูเป็นโครงการๆ ไป เพราะฉะนั้นขั้นตอนในการศึกษา วิเคราะห์ผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งซึ่งต้องทำอยู่แล้ว หากมีการทำโครงการจริง ซึ่งการทำงานของคณะทำงานชุดของตนไม่ได้กำหนดเวลา แต่จะพยายามทำให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าหากโครงการไหนไม่เข้าเงื่อนไขการทำ EIA หรือ HIA ก็เดินหน้าได้เลยใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกอย่างกฎหมายมีบอกไว้ว่าโครงการไหนต้องทำ EIA หรือ HIA อย่างนั้นก็ต้องทำ แต่ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ก็ไม่ต้องทำ อย่างไรก็ตามตอนนี้ขอดูรายละเอียดของคำพิพากษาของศาลปกครองก่อนเพื่อแนะนำไปยังคณะของนายปลอดประสพ ได้
ส่วนการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางนั้น นายพงศ์เทพกล่าวว่า เรื่องนี้ทางหน่วยงานต้นสังกัดที่เป็นเจ้าของเรื่องและอัยการจะหารือกันว่าสมควรที่จะอุทธรณ์หรือไม่ แต่เรื่องนี้เมื่อมีการตั้งคณะทำงานที่มีตนเป็นประธานขึ้นมาแล้ว ก็คงจะช่วยให้คำแนะนำด้วยว่าควรจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีเวลาที่กำหนดไว้ 30 วัน แต่ตอนนี้ขอดูคำพิพากษาทั้งหมดก่อน
ส่วนการกู้ยืมเงินมาดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คณะทำงานจะขอมาดูด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่ฟังการลงนามกู้ยืมเงินในสัญญา ไม่ได้หมายความว่าต้องไปกู้ และดอกเบี้ยก็ยังไม่เดินถ้ายังไม่มีการถอนเงินออกมา และการลงนามในสัญญาเขาก็บอกว่าไม่ได้มีผลอะไรว่าเราต้องไปจัดซื้อ จัดจ้างในการดำเนินการโครงการเหล่านี้ ดังนั้นเบื้องต้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
