xs
xsm
sm
md
lg

“พงศ์เทพ” สั่งชงข้อมูลจัดการน้ำถึงอัยการ 12 ก.ค.ปลายเดือนรู้ผลอุทธรณ์หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ เผยที่ประชุมความเห็นคำสั่งศาล ปค.ในโครงการจัดการน้ำ ยังไร้ข้อสรุป สั่งฝ่ายเกี่ยวข้องชงข้อเสนออัยการ 12 ก.ค.จะอุทธรณ์หรือไม่ ก่อนชงเจ้าของเรื่องฟันธง แจงรับฟังความเห็นได้ก่อนเซ็นสัญญา ย้ำประเมินผลอีไอเอ-เอชไอเอ และไม่ลดวงเงินเอกชน ให้หน่วยงานว่าจ้างผู้มาศึกษาผลกระทบ รับฝ่ายเกี่ยวข้องเห็นต่างคำสั่งศาลหลายประการ ลั่นลุยโครงการต่อ

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองให้ความเห็นเกี่ยวกับคำสั่งศาลปกครองกลางในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุปเรื่องของคำพิพากษาศาลปกครองกลางว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอความเห็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เห็นแตกต่างจากคำพิพากษาของศาล ส่งไปยังอัยการที่รับผิดชอบในคดีดังกล่าวเพื่อพิจารณาดูว่าควรจะอุทธรณ์หรือไม่ ภายในวันที่ 12 ก.ค.นี้ และอัยการจะนำข้อมูลที่ได้จากหน่วยงาน ประกอบกับคำพิพากษาในส่วนที่อัยการศึกษามาเทียบเคียงกัน และจะเสนอความเห็นไปยังหน่วยงานเจ้าของเรื่องว่าควรจะอุทธรณ์หรือไม่ ทั้งนี้ สำหรับระยะเวลาการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่จะต้องทำใน 30 วัน คือประมาณปลายเดือน ก.ค.นี้

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจะทำได้ก่อนการลงนามในสัญญา เนื่องจากการยกร่างสัญญาจะใช้เวลาในการทำประมาณ 3 เดือน อีกเรื่องการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (เอชไอเอ) เป็นกระบวนการที่ต้องทำอยู่แล้ว และในคำพิพากษาของศาลปกครองกลางนั้นให้ทางเอกชนเป็นผู้พิจารณาเลือกผู้ศึกษาผลกระทบ ขณะนี้จะดูว่าในการดำเนินการต่อไปจะทำอย่างไรให้มีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอัยการเองยังมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างจากศาลหลายประการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการลดกรอบวงเงินที่เดิมเคยอนุมัติให้เอกชนไปทำอีไอเอ และเอชไอเอด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า กรอบวงเงินที่ได้อนุมัติไว้ได้กำหนดการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย ฉะนั้น วงเงินจะอยู่ในกรอบเดิม แต่จะให้หน่วยงานเป็นผู้ไปว่าจ้างผู้มาศึกษาผลกระทบ ซึ่งต้องเป็นผู้ที่จดทะเบียนไว้กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยภาคเอกชนจะนำงบดังกล่าวมาจ่ายให้กับผู้ที่ศึกษา เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าโครงการจะเดินหน้าต่อไปได้ รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจว่าจะดำเนินโครงการนี้ เพราะมีประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และตั้งใจที่จะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนต้องการเห็นโครงการนี้เดินต่อไป เพราะเป็นโครงการที่จำเป็นต่อประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น