“เต้น” มึน ปชป.จ้อจำนำข้าว ปัด “ตู่” โวยแห้วเสนาบดี แย้มการเมืองเดือดดันนั่ง ปธ.แดงแน่

“อำมาตย์เต้น” งงท่าที ปชป.เอายังไงจำนำข้าว คาดเดือนนี้ไข่ไก่ราคาลง ปัด “ตู่” โวยแห้วเก้าอี้อีกแล้ว ยันไม่เห็นไม่พอใจ บอกยังไม่ใช่ข้อสรุปให้เป็นประธานแก๊งแดงแทน “เมียเหวง” อ้างรอสถานการณ์เข้มข้น เผยเจ้าตัวมีภารกิจยังไม่เสร็จ


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีมติปรับหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวจากตันละ 12,000 บาท เป็นตันละ 15,000 บาทตามเดิมว่า เป็นการพิจารณาร่วมกันของคณะกรรมการ กขช. โดยพิจารณาจากข้อมูลสำคัญจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พบว่ามีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนในจำนวนที่มั่นใจว่างบประมาณในการจัดการจะไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง แต่สิ่งที่ตนประหลาดใจคือท่าทีพรรคประชาธิปัตย์ที่ตกลงแล้วจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้

“ตอนแรกบอกราคาตันละ 15,000 บาทสูงเกินไป พอ กขช.ปรับลดลงมาเหลือตันละ 12,000 บาท มาบอกว่าน้อยเกินไป แต่พอวันนี้ กขช.ดูตามข้อมูลแวดล้อมรอบข้างแล้วปรับมาเป็นราคาตันละ 15,000 บาทเหมือนเดิมได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่พอใจ” นายณัฐวุฒิกล่าว

รมช.พาณิชย์กล่าวอีกว่า รัฐบาลบริหารงานตามข้อเท็จจริงของสถานการณ์ และตอบสนองความต้องการของชาวนาอย่างเต็มที่ในโครงการนี้ แต่ที่เกินขีดความสามารถจะตอบสนองความต้องการได้คือ พรรคประชาธิปัตย์ แท้จริงเราไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการอะไร การวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องเป็นไปด้วยความเท็จ อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันอีกทีว่าหากมีโอกาสเป็นรัฐบาลจะไม่มีโครงการรับจำนำข้าว และจะไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ราคารับจำนำข้าว ขอให้ออกมาเป็นมติพรรคเลย

นายณัฐวุฒิยังได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาไข่ไก่ราคาแพงด้วยว่า เมื่อเข้าเดือน มิ.ย.-ก.ค.ระดับราคาไข่ไก่น่าจะปรับตัวลดลง ประกอบกับเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการตกลงกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ ให้มีไข่ไก่ธงฟ้าไปช่วยจำหน่ายราคาพิเศษเพื่อรักษาระดับราคา นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาไข่ไก่ ซึ่งขณะนี้ราคาค้าไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ประมาณฟองละ 2.90 บาท อย่างไรก็ตาม มีเกษตรกรบางรายส่งข้อมูลมาว่ามีการไปกดราคาบางพื้นที่ต่ำกว่าระดับราคาดังกล่าว โดยจะให้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ส่วนระดับราคาค้าปลีกเบื้องต้นจากการสำรวจมีระดับแตกต่างกัน อาจเป็นเพราะเรื่องต้นทุนเกี่ยวกับการขนส่ง

“หลังจากนี้จะตรวจสอบตลาด แล้วจะพยายามเข้าไปดูแลระดับราคาให้สะท้อนกับผลกำไรที่เป็นจริง โดยสัมพันธ์กับต้นทุน และไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้บริโภค หากผู้ค้าหรือผู้บริโภครายได้ ถูกเอาเปรียบสามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วนหมายเลข 1569 ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์” รมช.พาณิชย์กล่าว

นายณัฐวุฒิในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.หลุดโผในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุดว่า ไม่ใช่การโวยวายหรือแสดงท่าทีต่อต้าน แต่คนเสื้อแดงเป็นพี่เป็นน้องกัน หลายคนมั่นใจว่าขีดความสามารถและศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นนายจตุพร หรือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.คนอื่นๆ ที่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารได้ แต่เมื่อนายกฯ ได้ตัดสินใจดำเนินการไปแล้วทุกคนเคารพ การทำงานของรัฐบาลคงเดินหน้าไปตามนโยบาย ส่วนการขับเคลื่อนของคนเสื้อแดงจะเดินไปตามวิถีประชาธิปไตยต่อไป

“ไม่ใช่เรื่องที่จะออกมาบอกไม่พอใจและจะคัดค้านต่อต้าน หรือสร้างแรงกระเพื่อมให้กับพรรคหรือรัฐบาลแต่อย่างใด ตรงนี้สบายใจได้ นอกจากนี้ นายจตุพรหรือ พ.อ.อภิวันท์ ไม่ได้มีท่าทีอะไรที่แสดงออกว่าไม่พอใจในเรื่องนี้” นายณัฐวุฒิกล่าวยืนยัน

ส่วนกระแสข่าวการผลักดันนายจตุพรขึ้นเป็นประธาน นปช.นั้น นายณัฐวุฒิเปิดเผยว่า ในการประชุมแกนนำ นปช.เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการวิเคราะห์สถานการณ์และประเมินภาพรวมกันหลายเรื่อง ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่จะมีผลต่อการต่อสู้ ที่ประชุมเห็นว่าในสถานการณ์ต่อไปข้างหน้าถ้าหากมีความเข้มข้นและมีความแหลมคมในการต่อสู้ทางการเมืองอาจจะถึงเวลาที่จะให้นายจตุพรมาทำหน้าที่ประธาน นปช. แต่ในความเป็นจริงหากย้อนหลังไปเมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะขอปรับบทบาทตนเองไปอยู่เบื้องหลังในฐานะที่ปรึกษา และให้นายจตุพร มาทำหน้าที่นี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียงข้อหารือกัน ไม่ใช้ข้อสรุปแต่อย่างใด ฉะนั้นจนถึงเวลานี้นางธิดายังทำหน้าที่ประธาน นปช. โดยมีพวกเราพี่น้องเสื้อแดงร่วมกันขับเคลื่อน ส่วนตัวนายจตุพรจะมาทำหน้าที่นี้หรือไม่ก็ให้สถานการณ์เป็นตัวกำหนด

“ตำแหน่งประธาน นปช.ไม่ใช่เป็นเรื่องบ่งชี้ความยิ่งใหญ่ บ่งชี้สถานะจนถึงขั้นว่าถ้าใครเป็นประธาน นปช.แล้วจะกินตำแหน่งใหญ่โต หรือใครไม่ได้เป็นแล้วจะกลายเป็นเรื่องตกต่ำ แต่เป็นเรื่องของการทำงานในขบวนการต่อสู้ที่เราทำโครงสร้างการทำงานให้ชัด และมีคนรับผิดชอบในแต่ละบทบาทให้ชัดเจนเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงต้องให้นายจตุพรเข้ามารับหน้าที่ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทางกลุ่มคุยกันว่าถ้าสถานการณ์ต่อสู้ครึ่งปีหลังนี้น่าจะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เวลานี้เลิกเหนียมเลิกอายมากขึ้นทุกที ในการที่จะประกาศนำพาประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมากลางถนน บนเวทีปราศรัยก็มีการพูดถึงการเป่านกหวีด มีการพูดถึงการเดินขบวนที่ถี่ขึ้นชัดขึ้น ตลอดจนสถานการณ์แวดล้อมอื่นๆ ชี้ว่ารัฐบาลอาจจะเผชิญกับแรงกดดันครั้งใหญ่ทางการเมืองจากฝ่ายต่อต้าน ซึ่งเป็นคนหน้าเดิมไม่ได้แปลกใหม่มาจากไหน จึงมีการเสนอมุมมองแบบนี้

เมื่อถามว่า เหตุผลที่นายจตุพรยังไม่รับตำแหน่งตอนนี้เพราะเรื่องสุขภาพใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า มีหลายสาเหตุหลายปัจจัย นายจตุพรยังมีภารกิจอีกหลายเรื่องที่จะทำให้แล้วเสร็จ ประกอบกับนายจตุพร เห็นว่าสถานการณ์เวลานี้ยังต้องติดตามรายละเอียดหลายแง่มุมอยู่ เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องหนึ่ง แต่คนอย่างนายจตุพรเรื่องอาการปวดหลังเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาต่อสู้อาการปวดหลังจะหายเองเป็นปลิดทิ้งเอง

เมื่อถามว่าที่ให้นายจตุพรขึ้นเป็นประธาน นปช. เป็นได้หรือไม่ว่าเสื้อแดงจะออกมาชุมนุมปกป้องรัฐบาลจากกลุ่มที่ต่อต้าน นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการเตรียมการไปถึงขั้นนั้น เป็นแต่เพียงการวิเคราะห์สถานการณ์ และการชุมนุมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในทางการเมืองมีมาเป็นปกติ ยังไม่มีความคิดจะออกมาชุมนุมใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลอยู่ในเวลานี้แต่อย่างใด

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งรมว.กลาโหม อีกตำแหน่งหนึ่งว่า ดุลยพินิจของนายกฯเป็นอย่างไรทุกฝ่ายในพรรคเพื่อไทยและในรัฐบาลเคารพเช่นนั้น แต่เห็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตามตอดเล็กตอดน้อยกับการรับตำแหน่งรมว.กลาโหม ของนายกฯอยู่หลายวัน ตนประหลาดใจว่าอะไรกันหนักกันหนา หลายครั้งที่นายกฯจะควบเก้าอี้รมว.กลาโหม นายชวน หลีกภัย เองก็เคยทำ ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์ทำตัวเหมือนนางอิจฉา ค่อนแคะกระแนะกระแหน ตนอยากให้นายอภิสิทธิ์สบายใจในการทำหน้าที่อีกตำแหน่งของนายกฯ และชายไทยชื่อนายอภิสิทธิ์ผู้ถูกกระทรวงกลาโหมชี้ว่าหนีทหารโปรดสบายใจได้ นายกฯจะไม่เข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายการดำเนินการของฝ่ายกลาโหม และเจ้าหน้าที่ที่จะเอาผิดหรือดำเนินการอะไรกับนายอภิสิทธิ์โดยไม่ชอบธรรมนั้นไม่มี ไม่ต้องร้อนตัวเหมือนวัวสันหลังหวะ และเลิกพฤติการณ์แบบนี้ได้แล้ว