xs
xsm
sm
md
lg

รองอธิบดีค้าภายในแจง วุฒิฯ ฟ้องสวมสิทธิ์จำนำแล้ว 21 คดี โยนคลังแจงข้าวหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา ถกจำนำข้าว รองอธิบดีกรมการค้าภายในแจงยังไม่สรุปตัวเลขขาดทุนปีนี้ เหตุมีค้างสต๊อกอยู่ รอมติ กขช.ปรับปรุงกรอบเวลาโครงการ ยันตั้ง กก.ตรวจสอบประจำจังหวัด เผยฟ้องสวมสิทธิ์แล้ว 21 คดี โยนรองปลัดคลังเปิดข้อมูล 2 ล้านตันที่หายไป

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา มีนายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาการทุจริตในโครงการนำรับจำข้าว โดยนายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า ยังมีตัวเลขที่ขัดกันอยู่ระหว่างรัฐบาล กับคณะกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว ที่มีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยเฉพาะยอดข้าวเปลือกในสต็อก 7 ล้านตันเศษ ต้องแปรรูปเป็นข้าวสารได้ 4 ล้านตันเศษ แต่ตัวเลขที่น.ส.สุภารายงาน อยู่ที่ 1.9 ล้านตันเศษ จึงต้องมีคณะกรรมการมาตรวจสอบส่วนนี้อีกที ดังนั้นจึงยังไม่สรุปตัวเลขขาดทุนในปี 55/56 ส่วนการปรับกรอบเวลาโครงการ ต้องรอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ก่อน ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรกับโครงการรับจำนำข้าวต่อไป แต่สุดท้ายต้องให้เกษตรกรอยู่ได้บนต้นทุนบวกกำไรราว 25% เช่นเดียวกับสินค้าอื่น

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนการป้องกันการทุจริต ขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดตรวจสอบ โดย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้แทนกระทรวงเกษตร อตก. อคส. ร่วมด้วย ขณะเดียวกันได้มีการจับกุมารทุจริตตลอดเวลา แต่ที่ไม่มีข่าวมากนัก เพราะฝ่ายนโยบายมองว่าหากเป็นข่าวออกไป จะถูกมองว่าโครงการนี้มีแต่การทุจริต แต่หากตรวจพบจะดำเนินคดีเด็ดขาด ขณะนี้มีโรงสีหลายโรงถูกแบล็กลิสต์ไม่ให้เข้าร่วมโครงการกลังถูกตรวจพบมีส่วนร่วมทุจริต

โดยสถิติการตรวจพบฤดูกาลผลิตนาปีปี 54/55 มี 26 คดี อาทิ จ.กาญจนบุรี ออกใบรับรองให้เกษตรกรที่ไม่ได้ทำนาจริง ซึ่งส่งดีเอสไอดำเนินการแล้ว ที่ จ.นครนายก เรื่องฉ้อโกงซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกเกษตรกรโดยไม่รอลงอาญา จ.นครสวรรค์ มีฉ้อโกง 16 คดี อาทิ เอาไร่อ้อยมาสวมสิทธิ์เป็นนาข้าว นอกนั้นจากพบทุจริตที่ อุทัยธานี นครปฐม สุโขทัย สกลนคร นคราชสีมา บุรีรัมย์ พิษณุโลก ส่วนนาปรังตรวจพบรวม 14 คดี เกี่ยวกับฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ส่วนปี 55/56 มีดำเนินคดีที่อ่างทอง 1 คดี เพชรบูรณ์ 7 คดี ปราจีนบุรี 1 คดี อุบลราชธานี 1 คดี

นายสุชาติกล่าวต่อว่า ส่วนการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงร่วมแบ่งกำลังดูแล โดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ส่วนใหญ่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่มีใบอนุญาตขนย้ายข้าว ขณะที่กรมการค้าภายในมีมาตรการกำหนดว่าหากจะขนย้ายข้าวตั้งแต่ 5 เมตริกตันขึ้นไป ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในก่อน หากนำไปลงที่โรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าว จะไม่อนุญาต ถ้าฝ่าฝืนจะมีความผิด แต่ก็ยังมีข่าวลักลอบขนอยู่ประจำ แต่กรมการค้าร่วมกีบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จับกุมได้ตลอด อาทิ จ.สระแก้ว มี 7 คดี กทม. 1 คดี บุรีรัมย์ 3 คดี ปราจีนบุรี 6 คดี ฉะเชิงเทรา 2 คดี สุพรรณบุรี 1 คดี สมุทรสงคราม 1 คดี รวม 7 จังหวัด 21 คดี โดยจะเอาผิดทุกข้อกล่าวหา ไปให้ถึงที่มาด้วย

จากนั้นกรรมาธิการฯหลายคนได้ร่วมซักถาม โดยพล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา กรรมาธิการฯ กล่าวว่าจากการตรวจสอบโครงการร้านถูกใจ กระทรวงพาณิชย์ ที่ขออนุมัติใช้ข้าวจากโครงการรับจำนำ 2 รอบ รอบแรกอนุมัติ 5 แสนตัน รอบสองอีก 1.8 ล้านตัน ไม่ทราบว่าจนถึงขณะนี้มีการส่งข้าวไปแล้วกี่ตัน

ขณะที่นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว.สรรหา กรรมาธิการฯ กล่าวว่า อยากทราบว่าการสั่งห้ามชี้แจงเรื่องสต็อกข้าว ยอดการระบายข้าวออก เป็นเรื่องของความมั่นคงชาติตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นคนสั่งให้ปกปิดตัวเลข

โดยนายสุชาติปฏิเสธว่า ถึงตนจะเป็นรองอธิบดีฯแต่ก็ไม่ทราบว่าสต็อกข้าวอยู่ที่ไหน มีเท่าไหร่ รู้เป็นรายโกดังที่ออกไปตรวจบัญชี แต่ตรงนี้เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ของการขายข้าว หากรู้ว่าพอร์ตข้าวของเรามีอยู่เท่าไหร่ หากต่างชาติทุบราคาจะเป็นภาระกับผู้ที่ขายมาก ตนรู้แต่ตัวเลขคร่าวๆ แต่คนที่รู้จริงๆ คืออธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รมว.พาณิชย์ และนายกรัฐมนตรี ที่ถือตัวเลขนี้อยู่ แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบตรวจสอบข้าวจะต้องมีอยู่ตามบัญชีจริง ส่วนตัวเลขผูกพันเช่นข้าวจีทูจี เป็นยุทธศาสตร์การขายข้าว และไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนๆ ก็ทำแบบนี้มาตลอด อย่างไรก็ตามจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2556 ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงิน 4.1 แสนล้านบาท บวก 9 หมื่นล้านบาท ลองคำนวณง่ายๆปี 54/55 มีข้าวมาจำนำ 21 ล้านตัน ปี 55/56 อีกกว่า 20 ล้านตัน รวมกว่า 40 ล้านตัน ตันละ 15,000 บาท ก็กว่า 6 แสนล้านบาทแล้ว แต่เราต้องใช้เงินที่ได้จากการระบายมาหมุนเวียนให้อยู่ในกรอบนี้ ไม่ให้เกินกรอบ

นายสุชาติกล่าวว่า ส่วนตัวเลขขาดทุนที่คลาดเคลื่อนนั้น เพราะมีตัวเลขที่โรงสีค้างส่งมอบอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะแบบฟอร์มเช็คสต็อกข้าวของคณะอนุกรรมการฯชุดน.ส.สุภา ไม่มีช่องกรอกตัวเลขข้าวค้างส่งมอบ อตก.และ อคส. ก็เลยไม่กรอกให้ ทำให้ตัวเลขข้าวในสต็อกลดลง ยอดการขาดทุนจึงสูงขึ้น ซึ่งต้องให้น.ส.สุภา ชี้แจง ส่วนยอดข้าวถุงที่ขายอยู่ในร้านค้าถูกใจ ตนไม่ทราบว่ามียอดจริงเท่าไหร่ ต้องบอกว่าโครงการนี้ดีมาก ข้าวคุณภาพดีมากราคาถุงละ 70 บาท แต่ด้วยข้อจำกัดด้านระบบขนส่งทำให้ไม่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึง แต่ก็ปรับระบบใหม่โดยใช้ห้างแมคโครเป็นจุดกระจาย

ทำให้พล.ต.ท.ยุทธนา ตอบโต้กลับอย่างดุเดือดว่า ตนมีตัวเลขหมดแล้วข้าวที่อนุมัติทั้งหมดเกือบ 2.5 ล้านตัน มีข้าวที่ขายอยู่ในร้านถูกใจแค่ 5-6 หมื่นตัน แล้วข้าวเกือบ 2 ล้านตันมันหายไปไหน ขณะที่กรมการค้าภายในบังคับราคาขายห้ามเกินถุงละ 70 บาท แต่ราคาขายจริง 80 บาท ไม่มีเลยข้าวถุงละ 70 บาท มีที่เดียวในประเทศคือ ร้านมังกรพาณิชย์ จ.นครราชสีมา รู้จักกันกับผู้ค้าข้าวรายใหญ่ในจังหวัด เกิดหน้าร้านบังหน้าเพราะคงรู้ว่าตนจะไปตรวจ แต่ก็โชว์อยู่กองเดียว ขณะที่ร้านข้างๆขาย 80 บาท เล่นละครกัน ที่บอกว่ามีปัญหาระบบขนส่งก็ไม่จริง อย่างบริษัท นิ่มซี่เส็ง ก็พร้อมขนส่งให้ แต่ท่านไม่เอา บังคับให้เขาขายได้ไม่เกินเดือนละ 100-200 กิโลกรัม แล้วกี่ชาติจะขายข้าวอีก 2 ล้านตันหมด หวังเอาที่เหลือไปขายนอกระบบ ร้านค้าที่ร่วมโครงการมี 10,070 ร้าน วันนี้เหลือ 4,000 กว่าร้าน ทั้งที่คนขายอยากขาย คนซื้อก็อยากจะซื้อ เพราะอะไร

ซึ่งนายสุชาติ ชี้แจงว่า ข้าว 2.5 เป็นการอนุมัติกรอบเพื่อนำมาช่วยประชาชน ข้าวยังใช้ไม่หมด แต่พล.ต.ท.ยุทธนา กล่าวแทรกว่า รู้มาว่าตอนนี้เบิกข้าวไปแล้ว 1 ล้านตัน นำออกขายแค่ 5-6 หมื่นตัน ที่เหลือมันไปไหน เงินก็จ่ายครบแล้วด้วย แต่อ้างว่ายังไม่ได้รับข้าว เงินเป็นหมื่นล้านทิ้งไปเฉยๆ ไม่อยากจะพูดว่ามันอันตรธานหายไปเฉยๆได้อย่างไร เพราะข้าว 2.5 ล้านตัน บรรจุถุงเดือนละ 1.5 แสนตัน รวมแล้ว 500 ล้านถุง ใครทำทัน ต้องบอกว่าเป็นวิธีการที่แยบยล ตนว่ากรมการค้าภายในรู้ดีทุกอย่างแต่ปิดบัง บอกตรงๆว่าไม่ซื่อ ถามอะไรก็บอกไม่รู้ๆ อย่างนี้เป็นรองอธิบดีฯได้อย่างไร ราคาข้าวที่ขายได้แค่ 1 ใน 4 ขาดทุนไป 3 เท่า ไม่รวมค่าบริหารจัดการอีก 4 หมื่นล้านบาท จากข้อมูลที่ได้มาพบว่าตัวเลขที่น.ส.สุภา ระบุคลาดเคลื่อนจริง แต่เจ็บใจว่าข้าวมันหายไป 2 ล้านตัน มันหายไปเข้ากระเป๋าใคร บอกเบิกไม่หมด ถามว่ายังมีอยู่จริงหรือไม่ ตนกำลังตามอยู่ เรื่องนี้ยอมไม่ได้โกงโดยอ้างชาวนา แต่คนที่ได้ประโยชน์จริงๆคือพวกโรงสี เรื่องนี้ต้องมีรัฐมนตรีถูกดำเนินคดี ต้องเอาข้าว 2 ล้านตันนั้นคืนมา ไม่เช่นนั้นรัฐบาลพังแน่ ตนเคยเสนอว่าหากรัฐบาลจะช่วยชาวนาจริง ควรประกันรายได้ให้ชาวนาไร่ละ 2,000 บาท คนละไม่เกิน 15 ไร่ ใช้เงินไม่เกิน 5-6 หมื่นล้านบาท แต่ทุกคนได้หมด ทำไมไม่ทำ ส่วนที่มี ส.ว.บางจังหวัดออกมาสนับสนุนการรับจำนำข้าว เพราะที่บ้านมีโรงสีค่าใช้จ่ายจัดเก็บข้าวกระสอบละ 2 บาทต่อเดือน หากให้เช่าเก็บล้านกระสอบ ก็ 2 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว

มีรายงานว่า คณะกรรมาธิการฯได้เชิญน.ส.สุภาเข้าชี้แจง แต่ได้รับแจ้งว่าติดชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 จึงไม่สามารถมาชี้แจงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น