xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” รับไม่ได้ 7 เงื่อนไขบีอาร์เอ็น สั่งไทยถอนทหาร-รัฐสภาลงนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฮัสซัน ตอยิบ (แฟ้มภาพ)
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “ปู” รับไม่ได้ 7 เงื่อนไข 4 ข้อย่อยของกลุ่มบีอาร์เอ็น เจรจายุติรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ช่วงรอมฎอน ทั้งถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ ให้นายกฯ-รัฐสภาไทยลงนาม สั่ง “สุกำพล” แถลงตอบโต้

ภายหลังจากรัฐบาลไทยพยายามเจรจากับกลุ่มแนวร่วมปฎิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี หรือบีอาร์เอ็น เพื่อหาทางลดความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอใน จ.สงขลาในช่วงเดือนรอมฎอน โดยเมื่้อวานนี้ (24 มิ.ย.) กลุ่มบีอาร์เอ็นได้เสนอเงื่อนไขมายังรัฐบาล รวม 7 ข้อใหญ่ และ 4 ข้อย่อย

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ที่ผ่านมา แจ้งว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบเงื่อนไขของบีอาร์เอ็นดังกล่าวแล้ว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่า รัฐบาลไทยไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งการให้นายกฯ ลงนามยอมรับเงื่อนไขกำหนดให้รัฐสภารับรองการถอนททหาร ซึ่งนายกฯ สั่งการให้ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมเป็นผู้แถลงรายละเอียดอีกครั้งที่กระทรวงกลาโหมในเวลา 15.00 น.วันนี้

ทั้งนี้ เงื่อนไขของบีอาร์เอ็น ซึ่งฮัสซัน ตอยิบ ได้เผยแพร่ประกาศฉบับที่ 4 ลงนามเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 56 โดยตัวเขาซึ่งถือเป็นตัวแทนของบีอาร์เอ็นในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลไทย มีเนื้อหาระบุว่าจะยุติการปฏิบัติการทางทหารในช่วงเดือนรอมฎอนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอใน จ.สงขลา โดยมีเงื่อนไขคือ ให้รัฐไทยถอนทหารและทหารพราน รวมถึง กำลังตำรวจและตำรวจตระเวนชายแดนออกจากพื้นที่ ให้ปล่อยบรรดา อส.ที่นับถือศาสนาอิสลามจากการประจำการในช่วงรอมฎอน เพื่อให้ปฏิบัติศาสนกิจ มิให้รัฐไทยจับกุมหรือควบคุมตัว และ มิให้จัดกิจกรรมทางสังคม

คำประกาศยังบอกถึงเงื่อนไขอื่นอีก ได้แก่ 1. นักล่าอาณานิคมสยามต้องถอนกำลังทหารและทหารพรานที่มาจากภาค 1, 2, 3 ทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกส่งมาจากศูนย์กลาง ออกจากปาตานี ซึ่งก็คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอใน จ.สงขลา

2. แม่ทัพภาคที่ 4 ต้องถอนทหารและทหารพรานออกจากเขตหมู่บ้านในปาตานี คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอใน จ.สงขลา ให้อยู่ค่ายใหญ่ของแต่ละหน่วย

3. ให้ (รัฐสยาม) ถอนกำลังตำรวจและตำรวจชายแดนออกจากเขตหมู่บ้านในปาตานี คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอใน จ.สงขลา

4. ปล่อยบรรดา อส. ที่นับถือศาสนาอิสลาม (ไม่ให้ประจำการ) ตลอดช่วงเดือนรอมฎอน เพื่อที่จะพวกเขาสามารถปฏิบัติศาสนกิจ และสามารถใช้ชีวิตกับครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์

5. นักล่าอาณานิคมสยามไม่สามารถทำการโจมตี การสกัดถนน และการจับ/ควบคุมตัวอย่างเด็ดขาด

6. นักล่าอาณานิคมไม่สามารถจัดกิจกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับเดือนรอมฎอน

7. ขอบเขตและเงื่อนไขดังกล่างต้องมีการลงนามของนายกรัฐมนตรีของฝ่ายนักล่าอาณานิคมสยาม (รัฐสยาม) และต้องทำการประกาศในวันที่ 3 กรกฎาคม 2013

เงื่อนไขและขอบเขตเหล่านี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 รอมฎอน 1434 ฮิจเราะห์ศักราช ถึงวันที่ 10 ชาวัล 1434 ฮิจเราะห์ศักราช เพื่อเป็นการแสดงเกียรติต่อชาวอิสลามมลายูปาตานี และเพื่อที่จะพวกเขาสามารถปฏิบัติศาสนกิจอย่างสมบูรณ์ ฝ่ายรัฐ/ฝ่ายเจ้าหน้าที่ควรให้คำสั่งเพื่อไม่ขายเหล้าหรือสิ่งที่ทำให้เมา และปิดแหล่งบังเทิงและแหล่งอบายมุขตลอดช่วงเดือนรอมฎอน ที่นี่ พวกเราขอเรียกร้องให้ทุกชนชั้น ทุกคนในสังคม ประชาสังคม องค์กร NGO โดยเฉพาะบุคคลสำคัญทางด้านศาสนาในปาตานี ให้ความสำคัญแก่เงื่อนไขและขอบเขตที่กล่าวมาข้างบน

นอกจากนี้ยังมีคำเตือนว่า เราขอเน้นอีกครั้งว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างบีอาร์เอ็นกับนักล่าอาณานิคมสยามมิอาจเกิดขึ้นตราบใดที่นักล่าอาณานิคมสยามไม่ดำเนินและให้คำตอบต่อประเด็นต่อไปนี้

1. ข้อเรียกร้อง 5 ข้อจากบีอาร์เอ็น ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของรัฐสยาม

2. การเจรจาสันติภาพต้องเป็นวาระแห่งชาติ

3. ต้องกำหนดฐานะของหัวหน้าคณะตัวแทนไทยและฐานะของหัวหน้าคณะนั้นต้องมั่นคง

4. ไม่มีการเจรจาลับหรือไม่เปิดเผย

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าว่า ขอปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่ม BRNครั้งล่าสุด 7 ข้อที่ได้มีการแถลงการผ่านยูทูบ โดยเฉพาะการให้ถอนกำลังทหารตำรวจออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการพิจารณาเป็นอำนาจของ ศปก.กปต. และไม่จำเป็นต้องตอบสนองในทุกเรื่อง ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาจะไม่ใช้ความรุนแรงและยึดหลักการลดการก่อเหตุความรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน แต่จากสถานการณ์เห็นว่ากลุ่ม BRN ไม่สามารถสั่งการไปยังกลุ่มปฏิบัติการให้ยุติการก่อเหตุได้ ดังนั้น การดูแลพื้นที่ในช่วงเดือนรอมฎอนจึงต้องเพิ่มกำลังในการดูแลพื้นที่ให้มากขึ้น โดยในวันที่ 28 และ 29 มิถุนายนนี้ จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์

ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า เตรียมเรียกประชุม สมช. และ ศอบต. เพื่อที่จะหารือและกำหนดท่าทีต่อการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกลุ่ม BRN ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงเตรียมหาแนวทางในการพูดคุยกับกลุ่มอื่นต่อไป โดยต้อมีการหารือร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคง
นอกจากนี้ เห็นว่าการรวมตัวชุมนุมของกลุ่มชาวนา ไม่น่ามีปัญหาหรือกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เนื่องจากชาวนาให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ขณะที่ปฏิเสธการให้ความเห็นของการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เนื่องจากเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางไปสิงคโปร์ตามที่มีกระแสข่าวว่ามีกลุ่ม ส.ส. เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงการปรับ ครม.ดูเพิ่มเติม
กำลังโหลดความคิดเห็น