“อภิสิทธิ์” พร้อมพบดีเอสไอรับทราบข้อกล่าวหาสลายม็อบแก๊งแดงจนมีผู้เสียชีวิต 26 มิ.ย.เล็งยื่นขอความเป็นธรรมอัยการ แนะแดงตาสว่าง พท.ไม่สนใจเอาคนสั่งฆ่าประชาชนมารับผิด แต่เน้นออกกฎหมายนิรโทษกรรม หวังช่วย “นช.แม้ว” พ้นผิด ไล่ “เฉลิม” ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ เลิกคุกคามผู้ที่เห็นต่าง ขณะเดียวกัน เฉ่ง “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” แทรกแซงสื่อรุนแรง ยันไม่หวั่นแดงสุรินทร์ขู่ล้อมเวทีผ่าความจริง ปชป.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหนังสือเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลและพยายามฆ่าในการขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีการสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องอัยการแล้วว่า ได้รับหนังสือให้ตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เชิญไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 มิ.ย. 2556 ซึ่งจะได้เดินทางไปตามที่มีการเชิญมา โดยเข้าใจว่าเป็นการสรุปสำนวนตั้งแต่คดี นายพัน คำกอง ด.ช.คุณากร และนายสมร ขั้นตอนต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับอัยการจะพิจารณา ซึ่งในส่วนการฟ้องกลับเพิ่มเติมนั้นทนายความของตนกำลังพิจารณาอยู่เนื่องจากมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม
ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าหลังจากนี้จะมีคดีจากดีเอสไอเพิ่มเติมอีกหรือไม่ แต่ในส่วนของตนยังมีคดีค้างในเรื่องเงินบริจาคน้ำท่วม และเงินบำรุงพรรค ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการดำเนินคดีของดีเอสไอในเรื่องนี้ดีเอสไอทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนได้ใช้สิทธิฟ้องกลับดำเนินคดีอาญาไปแล้ว จึงขอให้อัยการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยตนจะทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังอัยการด้วย เพราะทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ดำเนินคดีกับตนนั้นไม่ถูกต้อง แต่ยังไม่คิดถึงขั้นว่าจะมีการฟ้องอัยการหรือไม่หากมีการรับไม้ต่อจากดีเอสไอในการส่งฟ้องตนและนายสุเทพ เพราะต้องพิจารณาการทำหน้าที่ของอัยการก่อนว่าเป็นอย่างไร
ส่วนที่ดีเอสไอ อ้างว่าอัยการมีส่วนร่วมในการทำคดีมาตั้งแต่ต้นนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมายที่อัยการเข้าไปร่วมในการสอบสวนแต่การสรุปสำนวนนั้นไม่ใช่ความเห็นของอัยการ ตนจึงหวังว่าอัยการจะให้ความเป็นธรรม และอยากให้สังคมได้พิจารณาในภาพรวมว่าในขณะที่ดีเอสไอดำเนินคดีกับตนและนายสุเทพ แต่พรรคเพื่อไทยกลับเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมสะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้สนใจความจริง หรือความยุติธรรม เพราะในขณะที่ปลุกระดมคนเสื้อแดงว่า ตนสั่งฆ่าประชาชน แต่ยังกล้าที่จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมคนสั่งฆ่าประชาชน แต่ตนบอกว่าใครทำผิดอะไรต้องได้รับผิดตามนั้น โดยต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง แสดงว่า สิ่งที่พยายามทำในการเสนอกฎหมายเข้าสภา 6-7 ฉบับ คือพยายามจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิดเท่านั้น จึงอยากให้คนเสื้อแดงได้ฉุกคิดว่าทำไมในขณะที่มีการกล่าวหาว่าตนสั่งฆ่าประชาชนแต่ตนไม่เคยเรียกร้องให้นิรโทษกรรมคนสั่งฆ่าประชาชน ในทางกลับกันบางคนอยากได้รับการนิรโทษกรรมจากคดีทุจริต พร้อมที่จะได้ประโยชน์ตรงนี้แลกกับการนิรโทษกรรมคนสั่งฆ่าประชาชนได้
สำหรับกรณีที่คนเสื้อแดงสุรินทร์ ขู่ปิดล้อมเวทีผ่าความจริงที่จังหวัดสุรินทร์ ที่จะจัดในวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.นี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับคนที่จัดงานว่า รายละเอียดเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะกระทบต่อการจัดเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังเชื่อว่าหากตำรวจเอาจริงกับการทำผิดกฎหมายเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิด และขอย้ำว่าพฤติกรรมของคนในรัฐบาลนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย เวลาที่ผู้สนับสนุนตัวเองไปดำเนินการทำผิดกฎหมายข่มขู่คุกคามคนอื่นกลับไม่ห้ามปราม มิหนำซ้ำยังให้ท้ายหรือสนับสนุนด้วย ทั้งนี้ตนอยากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งใจทำงาน แต่คิดว่าตำรวจต้องกล้าที่จะดำเนินคดีกับคนทำผิดเพราะจะช่วยลดปัญหาความรุนแรงได้ อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าเวทีผ่าความจริงจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะคนที่อยากแสดงออกเพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพทางการเมืองก็ยังต้องเดินหน้าต่อ
ผู้นำฝ่ายค้าน ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวหาว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่ต่อต้านรัฐบาลเป็นพวกเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า หาก ร.ต.อ.เฉลิม อยากให้บ้านเมืองสงบก็ควรไปถอนกฎหมายของตัวเองและชวนเพื่อนๆ ถอนกฎหมายออกจากสภาเรื่องก็จบ ไม่มีปัญหาอะไรเลย และเห็นว่าคำพูดของร.ต.อ.เฉลิม ที่ระบุว่าการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว อาจมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นมีแต่จะทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรเลย ทั้งนี้เห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม ควรจะทำหน้าที่สั่งการให้ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด ใครที่ละเมิดสิทธิคนอื่น ทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินการให้เป็นตัวอย่างนีคือหน้าที่ของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ในขณะนี้คนมีอำนาจรัฐกลับคุกคามคนที่เคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่มีการปลด นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา ออกจากการจัดรายการ สนามข่าว 101 ออกอากาศทางเอฟเอ็ม 101 นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่กำลังจะไปออกรายการ 101 ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าจะจัดได้ถึงเมื่อไหร่ เพราะในรัฐบาลชุดนี้มีการแทรกแซงสื่อมวลชนรุนแรงมากขึ้น เป็นสิ่งที่ตนบอกว่าในขณะที่นายกรัฐมนตรีไปพูดกับต่างประเทศว่ารัฐบาลเป็นประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมในประเทศทั้งการข่มขู่คุกคาม การจำกัดเสรีภาพฝ่ายตรงกันข้ามมีให้เห็นตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกอาการดังกล่าวเป็นลักษณะของรัฐบาลในช่วงขาลงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่สนใจว่าขาขึ้นหรือขาลง เพราะไม่ว่าจะขาขึ้นหรือขาลงรัฐบาลต้องเคารพกฎหมาย เคารพเสรีภาพของคนอื่น