โฆษก ปชป.ค้านปรองดอง “เพื่อนเหลิม” ตอก “นช.แม้ว” ตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ปล่อยสาวกตาย สไกป์หนุน “วรชัย” หลอกแดงหาคนฆ่า สะกิด “เหลิม” ดันร่างล้างผิดตัวเอง ปลุกทุกสีรวมขวาง เชื่อ ตร.รับลูกนายใหญ่ เผยคนเผาเมือง โยนบาปมือที่่ 3 ป้องแดง ดัก DSI อย่าเอียงตามการเมือง ซัด “แม้ว” สาวกเผาจุดอื่นไม่พูด ย้อน รบ.ไข่แพงกว่ายุค ปชป. อัด “ณัฐวุฒิ” ทำราคาสูงกว่าเดิม แถมแก๊สขึ้นราคา แท็กซี่ขอปรับ ปชช.เจอภาวะข้าวยากหมากแพง บี้ดูแลแทนช่วยนักโทษหนีคดีที่ดูไบ
วันนี้ (24 พ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอต่อสภาเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยย้ำจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะต่อต้านการล้างผิดให้คนทุจริตคอร์รัปชัน คนสั่งฆ่าประชาชน คนทำผิดคดีอาญาเผาเมือง ยืนยันต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าเพื่อแสวงหาความจริงให้ประเทศก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการปรองดอง แต่ในขณะนี้สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี พยายามทำ คือ การตัดตอนกระบวนการยุติธรรม และตัดทอนความจริงของประเทศทำให้พี่น้องเสื้อแดงตายฟรี เพื่อต่อรองให้ตัวเองพ้นผิด กลับประเทศอย่างไร้มลทิน โดยในวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์ผ่านเวทีเสื้อแดงที่ราชประสงค์ มีการหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงร่างกฎหมายของ ร.ต.อ.เฉลิม บอกแต่ว่าจะสนับสนุนร่างของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนยกเว้นแกนนำ แต่ในความจริงตนเชื่อว่าลับหลัง พ.ต.ท.ทักษิณแอบสะกิด ร.ต.อ.เฉลิมให้เร่งรัดกฎหมายดังกล่าว เพราะร่างของนายวรชัยสุ่มเสี่ยงที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ได้ประโยชน์ ปล่อยให้คนเสื้อแดงพ้นผิด ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณไร้อำนาจต่อรองให้กับตัวเอง แต่ร่างของ ร.ต.อ.เฉลิม คนทั้งประเทศจะถูกลากเข้ามาเป็นเครื่องต่อรองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะเป็นร่างที่ได้รับการผลักดันจากรัฐบาล พรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนร่างนายวรชัยเป็นเพียงแค่การสับขาหลอกคนเสื้อแดงว่ามีความพยายามที่จะหาคนสั่งฆ่าประชาชนมาลงโทษอยู่เท่านั้น
“ถ้าไม่ร่วมมือกับพวกเรา อีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้คนที่ฆ่าประชาชนและฆ่าทหารจะถอดหน้ากากออกมาประกาศได้ว่าเป็นคนฆ่าทหาร ประชาชน และศพในวัดปทุมฯ โดยไม่มีความผิด ซึ่งจะยิ่งนำไปสู่ความแตกแยกย่อยยับมากกว่าเดิม จึงขอเรียกร้องไปยังคนไทยไม่ว่าจะสีใดก็ตามให้รวมตัวกันปกป้องระบบนิติรัฐไม่ให้เสียหายจากกฎหมายปรองดองที่ พ.ต.ท.ทักษิณกำลังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง” นายชวนนท์กล่าว
ส่วนการตามหาชายชุดดำและการหาคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ของนครบาลในขณะนี้นั้น ตนไม่แน่ใจว่า 3 ปีที่ผ่านมารูปภาพผู้ต้องสงสัยเผาเซ็นทรัลเวิลด์ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลนำมาเผยแพร่ในขณะนี้ ทำไมจึงไม่มีการจับกุมตัวมาสืบสวนสอบสวน แต่หลังการสไกป์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนครบาลและดีเอสไอต่างก็จะเร่งรัดสืบหามือเผาเซ็นทรัลเวิลด์อย่างร้อนรนผิดปกติ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความพยายามที่จะกลบหลักฐานหรือเปลี่ยนแปลงหลักฐานเพื่อโยนว่าเป็นการกระทำของมือที่ 3 หรือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายหรือไม่ เพราะนครบาลได้บอกแล้วว่าหากคนเหล่านี้พิสูจน์ไม่ได้ว่าเคยเข้าร่วมการชุมนุมอาจเป็นการแทรกซึมเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์ ซึ่งเป็นการตอบสนองคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการเอากรณีที่ศาลอาญายกฟ้องสองผู้ต้องหาเผาเซ็นทรัลเวิลด์เนื่องจากพยานหลักฐานอ่อนมาเป็นข้ออ้างว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์
นายชวนนท์กล่าวว่า เหตุการณ์กระชับพื้นที่ในวันที่ 19 พ.ค. 53 นั้นตนอยู่ใน ศอฉ.ได้รับการแจ้งจากประชาชนมากมายว่ามีการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ โดยนักข่าวต่างประเทศติดต่อมาที่ ศอฉ.ว่ามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงต่อต้านไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิง สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งตนไม่อยากคิดว่าดีเอสไอกล้ากลับคำหรือกลับสำนวนการสอบสวนของตัวเอง ในขณะที่ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่ามีคนวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ โดยทหารยังเข้าไปไม่ถึงบริเวณดังกล่าว จึงไม่อยากให้ข้าราชการของประเทศไทยเปลี่ยนความจริงตามอำนาจทางการเมือง เพียงเพื่อสนองผู้มีอำนาจจนมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ชาติไทย ขอให้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา อีกทั้งการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งใน 39 จุดที่ถูกเผา อีกทั้งยังมีการเผาศาลากลางที่คนเสื้อแดงเป็นจำเลยชัดเจน ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณไม่กล่าวถึงการกระทำที่รุนแรงต่อประเทศดังกล่าว แต่งนิยายเพื่อเอาตัวรอดจากการกระทำผิด
นายชวนนท์กล่าวถึงความเดือดร้อนของประชาชนในสภาวะ “แพงทั้งแผ่นดิน” ว่า ตนไม่แน่ใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ ครม.ทราบหรือไม่ว่าประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักจากสภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสุงขึ้น โดยเฉพาะกรณีราคาไข่คละหน้าฟาร์มซึ่งในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์เคยถูกล้อเลียนเรื่องไข่ชั่งกิโล แต่ราคาไข่คละหน้าฟาร์มสูงสุดที่ฟองละ 2.90 บาท โดยรัฐบาลเข้าไปควบคุมราคาให้ผู้ผลิตอยู่ได้ และผู้บริโภคซื้อสินค้าในราคาที่เหมาะสม แต่รัฐบาลนี้กลับปล่อยให้ราคาไข่คละหน้าฟาร์มไปอยู่ที่ 3.20 บาทแพงกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ถึง 30 สตางค์ ซึ่งนายชัยพร สีถัน ประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่รายย่อยภาคกลาง ระบุเองว่าต้นทุนอยู่ที่ 2.63 บาท แต่กระทรวงพาณิชย์กลับปล่อยให้ขายหน้าฟาร์มที่ 3.20 บาท ทำให้มีกำไรถึงฟองละ 57 สตางค์ ซึ่งตนคิดว่าสุงเกินไปสำหรับผู้ค้าไม่เป็นธรรมสำหรับผู้บริโภค และเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายชวนนท์กล่าวว่า ที่น่าแปลกกว่านั้นคือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ได้มีการเรียกประชุมผู้ประกอบการไก่ไข่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีบทสรุปให้ราคาไข่คละหน้าฟาร์มไม่เกินฟองละ 3.30 บาท เพิ่มให้อีก 10 สตางค์ จากเดิม 3.20 บาท เท่ากับให้ขายแพงกว่าเดิม ตนจึงขอฟันธงว่าราคาไข่คละหน้าฟาร์มจะเพิ่มขึ้นเต็มเพดานที่นายณัฐวุฒิกำหนดคือ 3.30 บาทต่อฟองเร็วๆ นี้ การกระทำของนายณัฐวุฒิเป็นสิ่งที่ตนเพิ่งเคยเห็นว่ารัฐมนตรีแก้ปัญหาของแพงด้วยการกำหนดราคาให้แพงขึ้น และเท่ากับว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากฟองละ 57 สตางค์เป็น 67 สตางค์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนต้องซื้อไข่ราคาแพงมากขึ้นโดยในท้องตลาดจะอยู่ที่ราคา 4 บาทเศษ
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องราคาพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งเอ็นจีวี และแอลพีจี ซึ่งในส่วนของแท๊กซี่มิเตอร์มีการขอปรับขึ้นจากเดิม 35 บาท เป็น 40 บาท และเพิ่มอีก 20% ของค่าโดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตร รวมถึงเพิ่มราคาช่วงรถติดจากนาทีละ 1.50 บาท เป็นนาทีละ 2 บาท ถือเป็นสภาวะข้าวยากหมากแพงที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการแก้ปัญหานอกจากจะปรับราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีเพิ่มขึ้น รวมถึงแก๊สหุงต้มที่จะเป็นภาระให้กับประชาชนมากขึ้นด้วย
“จึงขอเรียกร้องให้เลิกสนใจเรื่องการเมืองแต่ขอให้ก้มหน้ามองประชาชนที่เลือกเข้าสู่อำนาจว่าเดือดร้อนจากนโยบายของรัฐบาล แต่กลับเอาแต่เงยหน้าช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทิ้งประชาชนรากหญ้าที่เป็นฐานอำนาจให้กับรัฐบาลเพื่อไทย” นายชวนนท์กล่าว