โฆษกเพื่อไทยเตรียมยื่นแถลงการณ์ ปชป.ให้ดีเอสไอ อ้างมีเนื้อหาคำให้การ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ฆ่าเสื้อแดง โวยเนื้อหาบิดเบือน ก้าวไม่พ้นทักษิณ ปัดข่าวปรับ ครม.6 ตำแหน่ง ด้านรองโฆษกพรรคขยันประดิดคำประชดประชัน เอาชื่อพรรค Democrat Party เหน็บห้ามพาดพิงเผด็จการ
วันนี้ (9 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวตอบโต้เนื้อหาในแถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เตรียมส่งให้รัฐบาลมองโกเลีย หลังกล่าวหาว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาบิดเบือนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ โดยระบุว่า เนื้อหาในแถลงการณ์เป็นประเด็นเดิมๆ ที่พยายามกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน ทำธุรกิจอิงแอบฝ่ายเผด็จการ และการฆ่าตัดตอน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งเชื่อว่าสังคมโลกเข้าใจประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีจนถูกปฏิวัติรัฐประหาร ว่าเป็นอย่างไร
พร้อมกันนี้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำการถอดหน้ากากตัวเองให้คนทั้งโลกได้รับรู้พฤติกรรมที่น่าสงสัยต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะในแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวมีการแก้ต่างให้คณะปฏิวัติ จึงไม่แปลกใจว่า การปฏิรูปพรรคโดยการชูการต่อต้านเผด็จการ ยืนข้างประชาธิปไตย และประชาชนเป็นเพียงการสร้างภาพเท่านั้น อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ในแถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ มีหลายประเด็นที่ไม่ได้ระบุไว้ อาทิ ชื่อเวทีที่นายกรัฐมนตรีไปปาฐกถาที่เป็นประเทศมองโกเลัย ซึ่งเป็นเวทีเกี่ยวกับประชาธิปไตย การไม่ระบุเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดล้อมสนามบิน หรือแม้แต่การลงชื่อแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ในวันนี้จะเดินทางไปยื่นแถลงการณ์ฉบับนี้ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เนื่องจากเห็นว่าเนื้อในแถลงการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เปรียบเสมือนคำให้การของจำเลย ในคดีที่ดีเอสไอตั้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฐานก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกแฮกข้อมูลและนำภาพนายกรัฐมนตรี ในอิริยาบถอื่นที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ พร้อมข้อความที่ไม่เหมาะสมโพสต์เข้าไป โดยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ท้าทายและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบตัวผู้กระทำแล้ว พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองที่เป็นนักเรียนนอก ทำการว่าจ้างผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี หรือเรียกกันในนาม นักรบไซเบอร์ วงเงินหลายล้านบาทกระทำการโจมตีทางการเมืองผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะส่งเรื่องให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีเปิดเผยถึงกระแสข่าวที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยน 6 ตำแหน่ง โดยวางตัวให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และจะมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.รับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย รวมทั้งยังมีเสียงเรียกร้องจากมวลชนของพรรครวมถึงคนเสื้อแดง ให้นำเอาแกนนำคนเสื้อแดงเข้ารับตำแหน่ง เพื่อลดแรงกดดันภายในพรรคเพื่อไทย ว่า ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด เป็นแค่การปล่อยข่าวที่หวังผลทางการเมืองเท่านั้น การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ทางพรรคจึงขอปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีผู้ร้องเรียนจากภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีร้องเรียนมายังพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีเรื่องค่าเงินบาทแข็งจะส่งผลต่อธุรกิจการส่งออก โดยอยากให้ทางพรรคเสนอรัฐบาลให้มีการแก้ไข ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยจะส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้มีการพิจารณาถึงการดำเนินการให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนก่อนผู้ส่งออกจะปิดกิจการ
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคำกล่าวสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศมองโกเลีย ว่า น่าเห็นใจพรรคประชาธิปัตย์ สปีชมองโกเลียของนายกฯ ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ แต่ยังสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้พรรคนี้ไม่สิ้นสุด ถึงขั้นทำแถลงการณ์ขึ้นมาเพื่อตอบโต้ไปยังประเทศต่างๆ ในประชาคมโลก ความจริงพรรคเพื่อไทยรับได้ในแนวทางนี้ ที่ไม่พอใจอะไรจากนี้ไปก็ให้ส่งแถลงการณ์ เพราะมันจะเป็นหลักฐานประจานความไม่เอาไหนอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบในอดีต ที่พูดแล้วบอกว่าไม่ได้พูด ทำแล้วบอกว่าไม่ได้ทำ แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าคนโจมตีจะเสียคะแนนเอง เพราะนายกฯ พูดเรื่องประชาธิปไตยและเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีต ก็ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริง ไม่มีใครปฏิเสธได้
ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ เผยแพร่แถลงการณ์ทั่วโลก ชาวโลกเขาก็จะงงและบอกว่าอุตส่าห์มีชื่อพรรค Democrat Party น่าจะต้องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย แต่พอใครพาดพิงเผด็จการเข้าหน่อย โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง พฤติการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ คล้ายกับเป็นการยอมรับว่าการทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2549 นั้น ถูกต้องสมควรแก่เหตุแล้ว ที่สำคัญ นอกจากไม่เคยคัดค้านต่อต้านแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยังถูกสงสัยว่าเข้าไปร่วมเป็นกองหนุนสำคัญ ในการทำรัฐประหาร จนนำมาสู่การชุมนุมต่อต้านครั้งใหญ่ของประชาชนในเดือน เม.ย. 2552 และเดือน เม.ย.ถึง พ.ค. 2553 ซึ่งถูกรัฐบาลอภิสิทธิ์ชน สั่งใช้กำลังอาวุธกระชับพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ เจ็บอีก 2,000 คน
มาถึงขั้นนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว ว่า แถลงการณ์ดังกล่าวจะเป็นการประจานตัวเอง เพราะชาวโลกเขารู้หมด ยิ่งพอนายอภิสิทธิ์ โดนคดีเข้าเยอะๆ ก็บอกว่าถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่พอคนอื่นใช้สิทธิวิพากษ์วิจารณ์เท่าที่ทำได้ตามกฎหมาย บอกว่า ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม และอย่าพยายามย้ำว่า จะไม่หนีไปไหน จะสู้ในกระบวนการยุติธรรม ตัดสินอย่างไร ก็ยอมรับอย่างนั้น เพราะชาวบ้านเขาไม่สบายใจ และสงสัยว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ ถึงมั่นใจในผลการตัดสินขนาดนั้น