นายกสมาคมชาวนาฯ เผยชาวนาอยู่ไม่ได้ลดราคาจำนำข้าวเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาท เหตุต้นทุนพุ่งสูงไปแล้วตั้งแต่ตอนราคา 1.5 หมื่นบาท เผยกำหนดความชื้น 15% จะทำให้ได้เงินจริงแค่ 9.5 พันบาทเท่านั้น เสนอขอตันละ 1 หมื่นบาทสุทธิ ความชื้นที่ 25-27% พร้อมซัดโครงการจำนำไม่ได้ช่วยยกระดับชาวนาเลย ด้าน “ส.ว.ไพบูลย์” ลั่นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ทำภาษีของประเทศเสียหายครั้งมโหฬาร
วันที่ 18 มิ.ย. นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวี โดยนายประสิทธิ์กล่าวว่าการปรับลดราคารับจำนำข้าวเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาท พอข่าวออกมาชาวนาโทร.หาตนทันที 1.2 หมื่นบาทฟังแล้วเหมือนจะอยู่ได้ แต่ความชื้นของข้าวเปลือกอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ แล้วเดี๋ยวนี้ชาวนาเกี่ยวข้าวสดไม่ได้เกี่ยวข้าวแห้งเหมือนสมัยก่อน เกี่ยวเสร็จต้องเอาไปโรงสีเลย เพราะหากเอามากองไว้สัก 2-3 วัน ข้าวจะแดงจะเหลือง พอเอาเข้าโรงสีวัดความชื้นถ้าไม่ถูกฝนอะไรเลยความชื้นจะอยู่ที่ 22 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามีปัจจัยความชื้นอื่นเข้ามาความชื้นก็จะมากขึ้นกว่านี้จะอยู่ที่ประมาณ 22-27 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นราคาที่ชาวนาจะได้จริงๆ ไม่ใช่ 1.2 หมื่นบาท แต่จะได้แค่ที่ประมาณ 9.5 พันบาทเต็มที่แล้ว
นายประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ต้นทุนการผลิตต่างๆ มันสูงขึ้นตั้งแต่ตอนรัฐบาลให้ 1.5 หมื่นบาท มันขึ้นแล้วมันไม่ได้ลง ตอนนี้คิดคร่าวๆต้นทุนอยู่ที่ 6 พันกว่าบาทต่อไร่ ตอนที่ได้ 1.5 หมื่นบาท คนก็คิดว่าชาวนารวยแล้ว แต่ตอนนั้นก็กำหนดความชื้นที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ชาวนาได้จริงสูงสุดที่ 1.25 หมื่นบาทเท่านั้น
การที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่าจากการสอบถามเกษตรกรเห็นด้วยและเห็นใจรัฐบาล ตนไม่รู้ไปถามเกษตรกรคนไหน เพราะคราวก่อนตนเคยเสนอว่าเอาตันละ 1 หมื่นบาท แต่เป็นราคาสุทธิ ความชื้นที่ 25-27 เปอร์เซ็นต์ ยังโดนชาวนาต่อว่าแทบแย่ แต่ตอนนี้รัฐบาลให้ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทเสียอีก ถ้ารัฐบาลถึงทางตันจริงๆ ออกมาประกาศให้ชัดเจนเลย และช่วยกันหาทางออก ขอปรึกษาชาวนาและคนที่เกี่ยวข้อง อย่าอ้างว่าทุกอย่างไม่ขาดทุน
นายกสมาคมชาวนาฯ กล่าวด้วยว่า โครงการจำนำข้าวไม่ได้ยกระดับชาวนาเลย เหมือนแค่แก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ไม่มีการวางแผนอย่างยั่งยืนให้ชาวนา โครงการนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ
ด้านนายไพบูลย์กล่าวว่า โครงการจำนำข้าวเป็นโศกนาฏกรรมของประเทศ มันผิดพลาดตั้งแต่ต้น พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนคิดแต่คนคิดไม่เคยปลูกข้าว ไม่เคยขายข้าว ความจริงแล้วชาวนาได้เงินจริงๆไม่ได้ต่างจากก่อนจำนำเลย เพราะต้นทุนทุกอย่างเพิ่ม แต่กลับทำภาษีของประเทศเสียหาย ทำการขาดทุนมโหฬาร แล้วพอมาลดราคาแบบนี้ก็กระทบชาวนา แต่ถ้าไม่ลดก็จะขาดทุนเพิ่มขึ้นไปอีก
ส.ว.สรรหากล่าวต่อว่า เห็นใจชาวนา แต่ก็ชื่นชมรัฐบาลที่ยอมรับว่าพลาดไปแล้ว แต่หลังจากนี้ต้องหาวิธีที่เหมาะสม เวิลด์แบงก์ก็แนะนำมาว่าต้องช่วยเรื่องต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แล้วให้กลไกการตลาดดำเนินต่อไป
แล้วต่อไปปัญหาจะลามไปจนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีปัญหา โครงการนี้ดำเนินการต่อไปไม่ได้แล้ว รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ตั้งสติใหม่ให้ดีอย่าให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก ทั้งๆ ที่หลายคนก็เตือนกันมาตั้งนานแล้ว และที่น่าเป็นห่วง โครงการอื่นๆ ไม่ว่าจะแผนจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และ 2.2 ล้านล้านบาท ก็จะเป็นเช่นเดียวกันกับโครงการจำนำข้าว เพราะรัฐบาลมีแนวคิดแบบเดียวกัน