การประชุม กมธ.งบประมาณ พิจารณางบ พม. อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการแจงงบ 6 พันล้านมีหลายแผนงาน ต้องก้าวสู้ประชาคมอาเซียน ส.ส.ปชป. โวยตัดงบพัฒนาขั้นพื้นฐาน ไม่จ่ายเงินสมทบสวัสดิการชุมชน ลดงบกองทุนบ้านมั่นคง-ที่ดินทำกิน ฝั่งเพื่อไทยแจงอ้างเตรียมความพร้อมอาเซียนจึงต้องหั่นงบ แต่รับจะไปคุยกับสำนักงบประมาณ แปรญัตติเพิ่มงบ
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองประธาน กมธ.ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยวันนี้พิจารณางบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วงเงิน 10,384,873,200 บาท ซึ่งพิจารณาในส่วนของกรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ วงเงิน 6,191,896,000 บาท เพื่อพัฒนาระบบการจัดบริการ สวัสดิการสังคมและการพัฒนาสังคมที่ได้มาตรฐานครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ส่งเสริมระบบการคุ้มครอง การฟื้นฟูและการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สนับสนุนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมและมีศักยภาพในการพัมนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ รวมทั้งพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพ
ด้านนายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ชี้แจงว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาสังคมและสวัสดิการบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมมุ่งสู่สังคมที่มีคุณภาพ โดยมีแผนงานดูแลผู้สูงอายุ เด็ก สตรีและคนพิการ แผนงานบำบัดผู้ติดยาเสพติด แผนงานการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแผนงานรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร จะนำไปพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานในสังกัด อาทิ ศูนย์ประชาบดี โครงการป้องกันวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การดูแลผู้สูงอายุ
นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วงเงินงบประมาณ 10,384,873,200 ล้านบาท แต่รัฐบาลตัดงบในการพัฒนาสวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐาน อาทิ งบกองทุนสวัสดิการชุมชน ซึ่งเป็นการออมร่วมกันระหว่างชุมชน โดยจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีทั้งหมด 5,559 กองทุน มีสมาชิก 3.48 ล้านคน โดยปกติรัฐบาลต้องสมทบเงินจำนวน 1,500 ล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ 2557 คณะรัฐมนตรีมีมติไม่จ่ายเงินสมทบ จึงทำให้ที่ผ่านมามีการมาชุมนุมและทวงถาม หน้ารัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ยังตัดงบกองทุนบ้านมั่นคง จากเดิมได้รับงบประมาณ 2,400 บาท แต่ปีนี้ตัดเหลือเพียง 174 ล้านบาท ส่วนโครงการแก้ปัญหาที่ดิน ที่ทำกิน ในชนบท จากเดิมงบประมาณ 550 ล้าน เหลือเพียง 264 ล้านบาท
“รัฐบาลใช้เงินเป็นแสนล้านไปกลับเรื่องอื่นๆ แต่กลับตัดงบที่เป็นเงินสนับสนุนการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนกว่า 10 เท่า ถือเป็นการตัดแบบไม่เผาผี หรือตัดจนเหี้ยน รัฐบาลควรต้องมีการทบทวนและปรับเพิ่มงบขึ้นมา ก่อนที่จะมีการเคลื่อนของสมาชิกองค์กรชุมชนกว่า 4 ล้านคนทั่วประเทศ” นายอรรถพรกล่าว
ขณะที่นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.ซีกรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลมีการเพิ่มงบประมาณให้ พม.ในหลายส่วน เช่น กองทุนผู้สูงอายุที่เพิ่มจากปีที่แล้ววงเงิน 174 ล้านบาทเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71% ส่วนกองทุนคุ้มครองเด็กเพิ่มจาก 34 ล้านบาท เพิ่มเป็น 80 ล้านบาท เพิ่มเป็น 129% รวมทั้งบกองทุนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เพิ่มจาก 22 ล้านบาท เพิ่มเป็น 72 ล้านบาท คิดเป็น 229%
อย่างไรก็ตาม กมธ.ก็ให้ความสนใจกับโครงการเงินออมวันละบาท ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 ส่วน คือ ประชาชนในพื้นที่, พม., อปท. ก็น่าเห็นใจที่ พม.ที่ถูกตัดงบในหลายส่วนไป เพราะในปี 2558 จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รัฐบาลจึงต้องแบ่งสรรงบประมาณเพื่อการเตรียมพร้อมในส่วนนี้ ทั้งนี้ กมธ.ก็ได้สะท้อนปัญหาของประชาชนไปยังสำนักงบประมาณ ถึงความเป็นไปได้ที่จะแปรญัตติเพิ่มงบกลับมา นอกจากนี้ กมธ.กำลังพิจารณาขยายกรอบเวลาการพิจารณางบประมาณฯ เนื่องจากการพิจารณาล่าช้ากว่ากำหนด