ทีมโฆษกสำนักนายกฯ เผย “ยิ่งลักษณ์” ขอบคุณ ครม.ร่วมจัดประชุมผู้นำด้านน้ำ มติ ครม.ให้ ขุนคลัง ใช้อำนาจลดภาษีดีเซลออกไป 1 เดือน หนุนตั้ง บ.ร่วมไทย-พม่า เดินหน้าพัฒนาทวาย ประเดิมลงขันฝ่ายละ 10 ล้าน พร้อมยึดลดภาษี พร้อมเอาใจ พีมูฟ ชง 167 ล้านบาท ชักงบบ้านมั่นคง อ้างเยียวยาเบื้องต้น โทษ รบ.เดิมทำวุ่นจนชาวบ้านถูกไล่ที่ นายกฯ สั่ง ครม.เข้าสภารับมือถกงบ 57 ให้ NBT ยิงสด 29-30 พ.ค.
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำหน้าที่ในการจัดประชุมระดับผู้นำด้านน้ำ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ยังได้รับคำชมเชยจากผู้นำจากประเทศต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ขอกำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการบริหารน้ำ นอกเหนือจากปัญหาอุทกภัยแล้ว จะต้องมีการบริหารการใช้น้ำ ทั้งความสะอาดของน้ำที่ใช้ในการบริโภค และการลำเลียงน้ำให้เข้าถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทย
ส่วน นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง อาศัยอำนาจ ในมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อขยายเวลาการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลออกไป 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2556 ถึง วันที่ 30 มิ.ย.2556
ทั้งนี้ กำหนดให้ขยายการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนักในอัตราภาษี 0.005 ต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมเทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ในอัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2556 ถึง วันที่ 30 มิ.ย.2556
นายชลิตรัตน์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบผลการประชุมคณะทำงานฝ่ายไทย-เมียนมาร์ ครั้งที่ 2 เพื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเมืองโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) เป็นผู้เข้าร่วมจัดตั้งและร่วมลงทุนในบริษัท ทวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ (เอสพีวี) ร่วมกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงนโยบายเศรษฐกิจของเมียนมาร์ ในสัดส่วนร้อยละ 50 มีวงเงินลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยเบื้องต้นจะลงทุนฝ่ายละ 10 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการ และส่งเสริมให้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการจะลงนามสัญญาโดยตรงกับประเทศเมียนมาร์
นายชลิตรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังได้รับทราบผลการศึกษาของคณะผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงการทวายในภาพรวม โดยเสนอให้รัฐบาลเมียนมาร์พิจารณารูปแบบการลงทุนแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) สำหรับโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย
ด้าน ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีการเห็นชอบให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำงบประมาณ 167 ล้านบาทของโครงการบ้านมั่นคง เพื่อนำไปเยียวยากลุ่มเกษตรกรที่มีปัญหา เนื่องจากมีปัญหาสะสมจากรัฐบาลที่ผ่านมา จากการจัดทำโครงการที่ดินในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งในขณะนั้นไม่มีการดำเนินการที่ชัดเจน จนประชาชนถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ ซึ่งงบประมาณดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นก่อน
ร.ท.หญิง สุนิสา กล่าวด้วยว่า ในระหว่างการประชุม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระรชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในวันที่ 29-31 พ.ค.นี้ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้นำเสนอร่างดังกล่าวต่อที่ประชุมสภา ร่วมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการชี้แจงกรณีที่มีข้อซักถามด้วย
สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในวันที่ 29-30 พ.ค.นี้ จะเป็นการอภิปรายในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนวันที่ 31 พ.ค.จะเป็นการประชุมวุฒิสภา พร้อมถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือเอ็นบีที โดยคาดว่าจะมีการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
