วานนี้ (7 พ.ค.) เครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.)หรือ พีมูฟ ประกอบด้วยกลุ่มชาวบ้านจากภูมิภาคต่างๆที่ประสบปัญหาที่ดินทำกิน อาทิ กลุ่มเครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คอป.) สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) และกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล ประมาณ 800 คน รวมตัวชุมนุมที่ด้านหน้าประตู 5ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยชั่วคราว และกางเต้นท์คางคืนมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.
ก่อนเดินขบวนกระจายปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทั้งด้านประตู 4 สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และฝั่งประตู 5 สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อยื่นหนังสือแก่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางการดูแลของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กองร้อย ประมาณ 450 นาย
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้อง 7 กลุ่มปัญหาประกอบด้วย 1.ปัญหานโยบายที่ไม่สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายโฉนดชุมชน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินดั้งเดิมต่างเดือดร้อนเนื่องจากถูกจับกุมจากหน่วยงานของรัฐ 2.ปัญหาคดีความคนจนที่ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาแก้ไขปัญหาและเยียวยาจากรัฐบาล แต่กลับมีการเดินเนินคดีอย่างต่อเนื่อง 3.ปัญหาที่ดินชุมชนทับซ้อนกับที่ดินรัฐ 4.ปัญหาที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค 5.ปัญหาผลกระทบจากเหมืองแร่ โรงไฟฟ้าและโรงโม่หิน 6.ปัญหาสัญชาติและชาติพันธุ์ และ 7.ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
นายดิเรก กองเงิน แกนนำกลุ่ม สกน.กล่าวว่า ขอให้เร่งรัดนำเรื่องโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน เข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม ครม.)เนื่องจากมีมติครม. ไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นควรให้เกษตรกรทั้ง 5 ชุมชน ขอสินเชื่อจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อจัดซื้อที่ดินประมาณ 800 ไร่ ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย จนกว่าการดำเนินการจะจัดตั้งแล้วเสร็จ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และเมื่อจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เรียบร้อยแล้ว จึงโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดให้สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงยืนยันที่จะชุมนุมรอฟังคำสั่งจากนายกฯ จนกว่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังขอให้เร่งรัดดำเนินการจัดโฉนดชุมชนด้วย แม้จะได้รับอนุมัติแล้วจาก คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนด ที่ได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมี ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม แต่ในทางปฏิบัติมีข้อติดขัดหลายอย่าง เช่น หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่มีการส่งมอบพื้นที่ จึงทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ถูกคุกคามข่มขู่ ถูกดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาและบางรายถูกจำคุกด้วย
นายสุชิน เอี่ยมอินทร์ ตัวแทนกลุ่ม กลุ่มเครือสลัม 4 ภาค กล่าวว่า ตนยื่นข้อเรียกร้องให้มีการติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อคน อีกทั้งในกรณีที่มีการอนุมัติงบประมาณสำหรับชุมชนที่โดนไฟไหม้ ถูกไล่รื้อถอน แต่ชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องรวมตัวกันมาเรียกร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุม ครม. รองเลขาธิการนายกฯ ประกอบด้วย น.พ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ พล.ต.ท.ธวัช บุญเฟื่อง และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับเรื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ได้เข้ารายงานถึงสถานการณ์การชุมนุม และทันทีที่ได้รับรายงาน ทำให้นายดฯมีสีหน้าเคร่งเครียดเห็นได้ชัด
เวลา 11.00 น. พีมูฟ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 20 มีเนื้อหาสรุปว่า ขปส.ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้รัฐบาลจะต้องเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางขึ้น โดยมีนายกฯเป็นประธานการเจราจา ตามคำมั่นที่ให้ไว้กับพวกเราเมื่อวันที่ 3 ต.ค.55 อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ ก็ด้วยความทุกข์ยากจากนโยบายการพัฒนาและโครงการพัฒนาของรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา วันนี้พวกเราได้เริ่มต้นการแก้ไขปัญหากับรัฐบาลได้ด้วยดีแล้ว แต่เนื่องจากระเบียบ กฎหมาย และกลไกราชการที่ล้าหลังที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ พวกเราขอยืนยันว่า พวกเราจะปักหลัก ชุมนุมอย่างสงบ ยึดมั่นในแนวทาง อหิงสา โดยพวกเราขอทราบคำตอบภายใน 3 วัน ว่ารัฐบาลจะมีความจริงใจแก้ไขปัญหากับคนจนมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านๆมาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมรอยื่นหนังสืออยู่ด้านหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดำเนินการล่าช้า กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามผลักดันประตูเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการรับหนังสือ โดยขณะที่มีการยื้อกันอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมปรากฏว่าจากแรงปะทะส่งผลให้ผู้ชุมนุมชาว จ.ลำพูนไม่ทราบชื่อ 1 รายถูกประตูเหล็กบีบที่นิ้วโป้งข้างขวาจนข้อนิ้วแรกขาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นเหตุการณ์ได้รีบพาตัวไปส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที
ต่อมาเวลา 13.20 น. ร.ต.อ.เฉลิม เข้าเจรจากับตัวแทน โดยผลการประชุมในครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิมได้รับปากจะนำประเด็นปัญหา 4 ประเด็นได้แก่ 1. การคุ้มครองพื้นที่โฉนดชุมชน 2. โครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 3. เรื่องการอนุญาตก่อสร้างบ้านมั่นคง 4. การตั้งคณะกรรมการการแก้ปัญหาชาวบ้านปากมูล เข้า ครม.ในวันอังคารที่ 14 พ.ค. นี้ ส่วนกรณีอื่นๆ จะทำการนัดวันเพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาของ ขปส. ที่มี ร.ต.อ.เฉลิมเป็นประธานต่อไป
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟโดยมีร.ต.อ.เฉลิม เป็นประธาน นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธาน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย รองประธานเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการชุมนุมอันเนื่องมาจกากความเดือดร้อนของประชาชน โดยวันนี้กลุ่มพีมูฟได้ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ชุมชนพลัดถิ่น
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.45 น. นายถาวร เสนเนียม นายวิทยา แก้วภราดัย นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และตัวแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำสหกรณ์ เจ้าของสวนยางพารา เจ้าสาวปาล์มจำนวนกว่า 50 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ที่ประตู 4ทำเนียบ เพื่อขอให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีนายสุภรณ์ เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า พวกตนพยายามที่จะหาทางให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหา ซึ่งก่อนที่จะมายื่นหนังสือได้โทรศัพท์พูดคุยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย ซึ่งก็รับปากว่าจะมารับหนังสือด้วยตัวเอง เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับเพื่อน ส.ส. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครออกมารับหนังสือ ตนขอยืนยันว่าเราได้ใช้มาตรการที่ดีที่สุดกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประชาชนแล้ว ฉะนั้นหลังจากนี้อีก 15 วัน พวกตนจะนัดหมายเกษตรกรทั้งหมดเอายางพาราและปาล์มมาขายรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และไม่คิดจะให้เกียรติส.ส.ด้วยกัน วิถีทางระบบรัฐสภาจะเดินไม่ได้ ถ้าคนที่มาจากส.ส.ไม่ให้เกียรติกัน และขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ให้เกียรติสภา ไม่ให้เกียรติความรู้สึกประชาชน แล้วพวกตนก็จะใช้มาตรการประชาชนทำกับรัฐบาล.
ก่อนเดินขบวนกระจายปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทั้งด้านประตู 4 สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และฝั่งประตู 5 สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อยื่นหนังสือแก่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางการดูแลของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กองร้อย ประมาณ 450 นาย
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้อง 7 กลุ่มปัญหาประกอบด้วย 1.ปัญหานโยบายที่ไม่สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายโฉนดชุมชน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินดั้งเดิมต่างเดือดร้อนเนื่องจากถูกจับกุมจากหน่วยงานของรัฐ 2.ปัญหาคดีความคนจนที่ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาแก้ไขปัญหาและเยียวยาจากรัฐบาล แต่กลับมีการเดินเนินคดีอย่างต่อเนื่อง 3.ปัญหาที่ดินชุมชนทับซ้อนกับที่ดินรัฐ 4.ปัญหาที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค 5.ปัญหาผลกระทบจากเหมืองแร่ โรงไฟฟ้าและโรงโม่หิน 6.ปัญหาสัญชาติและชาติพันธุ์ และ 7.ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
นายดิเรก กองเงิน แกนนำกลุ่ม สกน.กล่าวว่า ขอให้เร่งรัดนำเรื่องโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน เข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม ครม.)เนื่องจากมีมติครม. ไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นควรให้เกษตรกรทั้ง 5 ชุมชน ขอสินเชื่อจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อจัดซื้อที่ดินประมาณ 800 ไร่ ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย จนกว่าการดำเนินการจะจัดตั้งแล้วเสร็จ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และเมื่อจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เรียบร้อยแล้ว จึงโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดให้สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงยืนยันที่จะชุมนุมรอฟังคำสั่งจากนายกฯ จนกว่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังขอให้เร่งรัดดำเนินการจัดโฉนดชุมชนด้วย แม้จะได้รับอนุมัติแล้วจาก คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนด ที่ได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมี ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม แต่ในทางปฏิบัติมีข้อติดขัดหลายอย่าง เช่น หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่มีการส่งมอบพื้นที่ จึงทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ถูกคุกคามข่มขู่ ถูกดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาและบางรายถูกจำคุกด้วย
นายสุชิน เอี่ยมอินทร์ ตัวแทนกลุ่ม กลุ่มเครือสลัม 4 ภาค กล่าวว่า ตนยื่นข้อเรียกร้องให้มีการติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อคน อีกทั้งในกรณีที่มีการอนุมัติงบประมาณสำหรับชุมชนที่โดนไฟไหม้ ถูกไล่รื้อถอน แต่ชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องรวมตัวกันมาเรียกร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุม ครม. รองเลขาธิการนายกฯ ประกอบด้วย น.พ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ พล.ต.ท.ธวัช บุญเฟื่อง และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับเรื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ได้เข้ารายงานถึงสถานการณ์การชุมนุม และทันทีที่ได้รับรายงาน ทำให้นายดฯมีสีหน้าเคร่งเครียดเห็นได้ชัด
เวลา 11.00 น. พีมูฟ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 20 มีเนื้อหาสรุปว่า ขปส.ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้รัฐบาลจะต้องเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางขึ้น โดยมีนายกฯเป็นประธานการเจราจา ตามคำมั่นที่ให้ไว้กับพวกเราเมื่อวันที่ 3 ต.ค.55 อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ ก็ด้วยความทุกข์ยากจากนโยบายการพัฒนาและโครงการพัฒนาของรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา วันนี้พวกเราได้เริ่มต้นการแก้ไขปัญหากับรัฐบาลได้ด้วยดีแล้ว แต่เนื่องจากระเบียบ กฎหมาย และกลไกราชการที่ล้าหลังที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ พวกเราขอยืนยันว่า พวกเราจะปักหลัก ชุมนุมอย่างสงบ ยึดมั่นในแนวทาง อหิงสา โดยพวกเราขอทราบคำตอบภายใน 3 วัน ว่ารัฐบาลจะมีความจริงใจแก้ไขปัญหากับคนจนมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านๆมาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมรอยื่นหนังสืออยู่ด้านหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดำเนินการล่าช้า กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามผลักดันประตูเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการรับหนังสือ โดยขณะที่มีการยื้อกันอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมปรากฏว่าจากแรงปะทะส่งผลให้ผู้ชุมนุมชาว จ.ลำพูนไม่ทราบชื่อ 1 รายถูกประตูเหล็กบีบที่นิ้วโป้งข้างขวาจนข้อนิ้วแรกขาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นเหตุการณ์ได้รีบพาตัวไปส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที
ต่อมาเวลา 13.20 น. ร.ต.อ.เฉลิม เข้าเจรจากับตัวแทน โดยผลการประชุมในครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิมได้รับปากจะนำประเด็นปัญหา 4 ประเด็นได้แก่ 1. การคุ้มครองพื้นที่โฉนดชุมชน 2. โครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 3. เรื่องการอนุญาตก่อสร้างบ้านมั่นคง 4. การตั้งคณะกรรมการการแก้ปัญหาชาวบ้านปากมูล เข้า ครม.ในวันอังคารที่ 14 พ.ค. นี้ ส่วนกรณีอื่นๆ จะทำการนัดวันเพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาของ ขปส. ที่มี ร.ต.อ.เฉลิมเป็นประธานต่อไป
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟโดยมีร.ต.อ.เฉลิม เป็นประธาน นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธาน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย รองประธานเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการชุมนุมอันเนื่องมาจกากความเดือดร้อนของประชาชน โดยวันนี้กลุ่มพีมูฟได้ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ชุมชนพลัดถิ่น
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.45 น. นายถาวร เสนเนียม นายวิทยา แก้วภราดัย นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และตัวแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำสหกรณ์ เจ้าของสวนยางพารา เจ้าสาวปาล์มจำนวนกว่า 50 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ที่ประตู 4ทำเนียบ เพื่อขอให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีนายสุภรณ์ เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า พวกตนพยายามที่จะหาทางให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหา ซึ่งก่อนที่จะมายื่นหนังสือได้โทรศัพท์พูดคุยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย ซึ่งก็รับปากว่าจะมารับหนังสือด้วยตัวเอง เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับเพื่อน ส.ส. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครออกมารับหนังสือ ตนขอยืนยันว่าเราได้ใช้มาตรการที่ดีที่สุดกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประชาชนแล้ว ฉะนั้นหลังจากนี้อีก 15 วัน พวกตนจะนัดหมายเกษตรกรทั้งหมดเอายางพาราและปาล์มมาขายรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และไม่คิดจะให้เกียรติส.ส.ด้วยกัน วิถีทางระบบรัฐสภาจะเดินไม่ได้ ถ้าคนที่มาจากส.ส.ไม่ให้เกียรติกัน และขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ให้เกียรติสภา ไม่ให้เกียรติความรู้สึกประชาชน แล้วพวกตนก็จะใช้มาตรการประชาชนทำกับรัฐบาล.