“พีมูฟ” ล้อมทำเนียบ จี้นายกฯ เคลียร์ที่ทำกิน-ปชป.บี้ราคายางปาล์ม นิ่งเจอดี-พระแดงให้กำลังใจ “ปู”

หลายกลุ่มที่มีปัญหาที่ดินทำกินล้อมทำเนียบ บี้นายกฯ ตามข้อเรียกร้อง 7 กลุ่มปัญหา “สุภรณ์” รับเรื่อง เตรียมประสาน รมต. ด้าน ส.ส.ใต้ ปชป.นำผู้ปลูกยาง-ปาล์มยื่น รบ.แก้ปัญหาราคา เปรียบคนละขั้วกับข้าว จี้รับซื้อตามที่ร้อง ปัดปลุกระดมย้ำมีปัญหาจริง ติง รมช.เกษตรฯ รับปากมาเจอกลับหายหัว ซัดไม่ให้เกียรติ ส.ส.ด้วยกัน ขู่ขนปาล์ม-ยางขายที่ทำเนียบ ขณะที่นายก นศ.รามฯ ได้ยื่นเรื่องเดียวกัน ส่วนแดงพร้อมพระยื่นดอกไม้ให้กำลังใจนายกฯ










วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ประกอบด้วยกลุ่มชาวบ้านจากภูมิภาคต่างๆ ที่ประสบปัญหาที่ดินทำกิน เช่น กลุ่มเครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คอป.) สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) และกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูน ประมาณ 800 คน รวมตัวชุมนุมที่ด้านหน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยชั่วคราว และกางเต็นท์คางคืนมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.

โดยเมื่อเวลา 08.30 น. เครือข่ายได้เดินขบวนกระจายปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทั้งด้านประตู 4 สะพานชมัยมรุเชฐ และฝั่งประตู 5 สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการติดตามข้อเรียกร้องจากรัฐบาล 7 กลุ่มปัญหา ท่ามกลางการดูแลของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กองร้อย ประมาณ 450 นาย เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ ข้อเรียกร้อง 7 กลุ่มปัญหา ประกอบด้วย 1. ปัญหานโยบายที่ไม่สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายโฉนดชุมชน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินดั้งเดิมต่างเดือดร้อนเนื่องจากถูกจับกุมจากหน่วยงานของรัฐ 2. ปัญหาคดีความคนจนที่ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาแก้ไขปัญหาและเยียวยาจากรัฐบาล แต่กลับมีการเดินเนินคดีอย่างต่อเนื่อง 3. ปัญหาที่ดินชุมชนทับซ้อนกับที่ดินรัฐ 4. ปัญหาที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค 5. ปัญหาผลกระทบจากเหมืองแร่ โรงไฟฟ้าและโรงโม่หิน 6. ปัญหาสัญชาติและชาติพันธุ์ และ 7. ปัญหาผลกระทบจากการสร้างเขื่อน

นายดิเรก กองเงิน แกนนำกลุ่ม สกน.กล่าวว่า ขอให้เร่งรัดนำเรื่องโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน เข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากมีมติ ครม. ไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นควรให้เกษตรกรทั้ง 5 ชุมชน ขอสินเชื่อจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อจัดซื้อที่ดินประมาณ 800 ไร่ ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย จนกว่าการดำเนินการจะจัดตั้งแล้วเสร็จ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และเมื่อจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินเรียบร้อยแล้ว จึงโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดให้สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงยืนยันที่จะชุมนุมรอฟังคำสั่งจากนายกฯ จนกว่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน

นอกจากนี้ยังขอให้เร่งรัดดำเนินการจัดโฉนดชุมชนด้วย แม้จะได้รับอนุมัติแล้วจากคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนด ที่ได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมี ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม แต่ในทางปฏิบัติมีข้อติดขัดหลายอย่าง เช่น หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่มีการส่งมอบพื้นที่ จึงทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ถูกคุกคามข่มขู่ ถูกดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาและบางรายถูกจำคุกด้วย

นายสุชิน เอี่ยมอินทร์ ตัวแทนกลุ่ม กลุ่มเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวว่า ตนยื่นข้อเรียกร้องให้มีการติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อคน อีกทั้งในกรณีที่มีการอนุมัติงบประมาณสำหรับชุมชนที่โดนไฟไหม้ ถูกไล่รื้อถอน แต่ชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องรวมตัวกันมาเรียกร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมรอยื่นหนังสืออยู่ด้านหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดำเนินการล่าช้า กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามผลักดันประตูเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการรับหนังสือ โดยขณะที่มีการยื้อกันอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม ปรากฏว่าจากแรงปะทะส่งผลให้ผู้ชุมนุมชาว จ.ลำพูนไม่ทราบชื่อ 1 ราย ถูกประตูเหล็กบีบที่นิ้วโป้งข้างขวาจนข้อนิ้วแรกขาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นเหตุการณ์ได้รีบพาตัวไปส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ เป็นตัวแทนรับเรื่อง พร้อมระบุว่า กลุ่มพีมูฟได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเรื่องทั้งหมดโดยเรื่องใดที่มีมติจากคณะกรรมการแล้วให้นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ทันที ส่วนเรื่องที่ยังไม่เริ่มประชุมขอเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนคณะกรรมการใหม่ทั้งหมดและเร่งรัดประชุมทันที ทั้งนี้เบื้องต้นได้มีการประสานงานไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้วเพื่อนำเรื่องไปพิจารณาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.45 น. นายถาวร เสนเนียม นายวิทยา แก้วภราดัย นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และตัวแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำสหกรณ์ เจ้าของสวนยางพารา เจ้าสาวปาล์มจำนวนกว่า 50 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่ประตู 4 ทำเนียบ เพื่อขอให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว

โดยนายถาวรกล่าวก่อนยื่นหนังสือว่า เนื่องเราได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวเกษตรจากชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน เพราะราคายางตกต่ำมาก ซึ่งยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลราคายางพาราสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 195 บาท และไม่ต่ำกว่า 120 บาท และราคาปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 10.50 บาท แต่ขณะนี้ราคายางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาท ส่วนราคาราคาปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบการรับจำนำราคาข้าวที่ราคาจำนำจะสูงขึ้นตามชนิดข้าว ซึ่งวันนี้ถึงกำหนดที่มาฟังคำตอบ จากที่ตนได้มายื่นหนังสือเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยให้รัฐบาลรับซื้อยางพาราชั้น 3 จากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า 120 บาทต่อกิโลกรัม และรับซื้อปาล์มทะลายสดจากเกษตรกรในราคาประกัน ที่ไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมโดยด่วน

นายถาวรกล่าวต่อว่า ส่วนที่หลายคนถามว่า เราปลุกระดมชาวเกษตรกรให้มาทวงถามหรือเรียกร้องนั้น เรายืนยันว่าไม่มี ซึ่งวันนี้เรามากันทั้งหมด 56 คนประกอบด้วยตัวแทนเกษตรกรเขตพื้นละ 1 คน ทั้งที่เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบาง ผู้นำสหกรณ์ เจ้าของสวนปาล์ม สวนยางพารารายย่อย ที่มีความเดือดร้อน ทั้งนี้ราคาขณะนี้อย่างว่าแต่เอาเงินไปซื้อ ข้าวสารเลี้ยงครอบครัวเลย ค่าใช้จ่ายซื้อปุ๋ย ค่าแทงปาล์ม กรรมกรกรีดยางก็อยู่กันไม่ได้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยหาทางแก้ไข มาตรการ หากรัฐบาลนี้ไม่มีทางออก ไม่มีสติปัญญา ให้นัดประชุมกับพวกเราซึ่งเราจะแนะนำให้ แต่ถ้าครบ 15 วันนับจากนี้อย่ามาโทษพี่น้องเกษตรกรว่าเราใช้มาตรการอะไร

“พวกเรามาวันนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นเรื่องของบ้านเมือง เป็นเรื่องของเกษตรกรผู้ยากจนจริงๆ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องไปสั่งการ และพิจารณาดำเนินการ และสามารถพูดคุยกันได้ แต่ถ้ายังล่าช้า นายกฯ ลอยตัวอยู่อย่างนี้ พวกผมไม่ยอม สักวันหนึ่งจะเห็นปาล์มวางอยู่ทำเนียบรัฐบาล ซักวันหนึ่งจะเห็นน้ำยางพาราอยู่หน้าบ้านนายกฯ ตอนนี้เราเรียกร้อง ขอร้องไม่ให้เกษตรกรเคลื่อนไหว ถ้าเคลื่อนไหวก็จะถูกกล่าวหาว่าเอาการเมืองเข้ามากดดัน วันนี้เรามาเรียกร้องเพื่อเกษตรกรจริงๆ” นายถาวรกล่าว

ด้านนายวิทยากล่าวว่า พวกตนพยายามที่จะหาทางให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหา ซึ่งก่อนที่จะมายื่นหนังสือได้โทรศัพท์พูดคุยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก็รับปากว่าจะมารับหนังสือด้วยตัวเอง เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับเพื่อน ส.ส. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครออกมารับหนังสือ ตนขอยืนยันว่าเราได้ใช้มาตรการที่ดีที่สุดกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประชาชนแล้ว ฉะนั้น หลังจากนี้อีก 15 วัน พวกตนจะนัดหมายเกษตรกรทั้งหมดเอายางพาราและปาล์มมาขายรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และไม่คิดจะให้เกียรติส.ส.ด้วยกัน วิถีทางระบบรัฐสภาจะเดินไม่ได้ ถ้าคนที่มาจาก ส.ส.ไม่ให้เกียรติกัน และขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ให้เกียรติสภา ไม่ให้เกียรติความรู้สึกประชาชน แล้วพวกตนก็จะใช้มาตรการประชาชนทำกับรัฐบาล

นอกจากนี้ยังได้มีตัวแทนจากกลุ่มองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง นำโดยนายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษา พร้อมพวกจำนวน 5 คน ได้มายื่นหนังสือผ่านนายสุภรณ์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ เนื่องจากผู้ปกครองของนักศึกษาส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรและมีรายได้น้อย ซึ่งเมื่อราคายางพาราและราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำทำให้ส่งผลต่อการศึกษาของพวกตนด้วย จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ

ด้านประตูทางเข้าฝั่งสะพานอรทัย มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 10 คน พร้อมพระสงฆ์ 5 รูปรวมตัวเพื่อยื่นดอกไม้ให้กำลังนายกฯ จากกรณีถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์คำปาฐกถาเรื่องประชาธิปไตยที่ประเทศมองโกเลีย ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามที่ให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีมาเป็นตัวแทนรับ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากำลังมีการประชุม ครม.อยู่จึงไม่สามารถมารับได้ ซึ่งขณะนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ได้เดินทางเข้าทำเนียบเพื่อร่วมประชุม ครม.พอดีจึงเป็นตัวแทนรับดอกไม้ไว้

ต่อมา เวลา 13.30 น.หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทน พีมูฟ ที่มาชุมนุมบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยรับทราบข้อเสนอเร่งด่วนต่างๆของผู้ชุมนุม พร้อมกับระบุว่าจะเร่งหาทางช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะรัฐบาลที่มาจากประชาชนจะไม่ทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน

ด้าน นายสุภรณ์ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้กำหนดให้มีการประชุม คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน ขึ้นในวันที่ 20 พ.ค. นี้ และ ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ชุดใหญ่ ที่มีอนุกรรมการจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 10 คณะเข้าร่วมประชุม ในวันที่ 27 พ.ค. นี้ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และหากประชาชนจะชุมนุมต่อบริเวณทำเนียบรัฐบาลอยากให้เคลื่อนย้ายมาอยู่บริเวณ ถนนด้านประตูฝั่งสะพานอรทัย เพื่อความสะดวกในการชุมนุม และไม่กีดขวางการจราจร