กลุ่มพิทักษ์สังคมไทยร้องนายกฯ เบรก พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล หวั่นสังคมตกเป็นทาสพนัน อีกด้านเครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินกระบี่ ร้องแก้ปัญหาถูกผลักดันออกจากสวนปาล์มน้ำมัน 1 พันไร่ ไร้ที่ดินทำกิน
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น. กลุ่มตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์สังคมไทย ประกอบด้วยเครือข่ายเด็ก สตรี และผู้พิการกว่า 100 คน นำโดยนายศุภชีพ ดิษเทศ ประธานเครือข่ายฯ รวมตัวชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเรียกร้องขอให้แก้ไขการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ฉบับที่.... พ.ศ. ... เนื่องจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวได้เปิดช่องให้มีการพนันในหลายรูปแบบเข้ามาในสังคมไทย โดยมีการเพิ่มอำนาจให้สำนักสลากสามารถออกผลิตภัณฑ์ทางการพนันหรือหวยในรูปแบบอื่นๆ ได้มากขึ้นและมีความถี่ในการออกรางวัลมากขึ้น จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้กลายเป็นสังคมแห่งการพนัน
นายสุทิน จันทา สมาชิกเครือข่ายพิทักษ์สังคมไทย กล่าวว่า รัฐบาลต้องการนำรายได้มาใช้ในโครงการประชานิยมอื่นๆ จึงเร่งเสนอกฎหมายดังกล่าวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและคนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งการแก้ไขกฎหมายที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนควรจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน คือทั้งในส่วนผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่แล้ว และประชาชนทั่วไปด้วย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกครั้งก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา และการอ้างว่าการแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะต้องการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคา ซึ่งตนมองว่าควรจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการพิมพ์จำนวนพิมพ์ให้มากขึ้นและใช้กลไกตลาดทำให้ราคาลดลง
ด้านนายควง คำถี สมาชิกเครือข่ายพิทักษ์สังคมไทยผู้พิการ ที่มีอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า หาก พ.ร.บ.ดังกล่าวเกิดขึ้นจะทำให้ผู้ที่มีอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ เพราะหวยรูปแบบใหม่มีราคาถูกกว่าและรู้ผลได้ทันที “พ.ร.บ.ปี 50 บอกว่าจะสนับสนุนคนมีการให้มีอาชีพ แต่พอเรามีอาชีพขายสลากกลับออก พ.ร.บ.หวยแบบนี้ มันสวนทางกัน เหมือนตั้งใจรังแกคนพิการ วันนี้ผมจึงต้องมาเรียกร้องให้เห็นใจเราคนพิการ อาชีพที่มีอยู่ก็จำกัดอยู่แล้ว” นายควงกล่าว
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ฉบับที่... พ.ศ.... มาตรา 5 (2) ระบุว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีวัตถุประสงค์ ออกสลากรูปแบบอื่น เช่น สลากตัวเลข, สลากลอตโต้, สลากกีฬา, สลากรู้ผลทันที
ต่อมาเวลา 09.00 น. เครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ กว่า 600 คน นำโดยนายกฤษดา จีระพันธ์ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายฯ ชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ช่วยเหลือจากกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าสลายการชุมนุมในสวนปาล์มน้ำมันหมดอายุสัมปทาน 1,000 ไร่ และถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันให้ออกจากพื้นที่เมื่อปลายปี 2555 บริเวณบ้านคลองหวายเล็ก ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ อีกทั้งยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในเรื่องของแนวทางปฏิบัติ
นายกฤษดาเปิดเผยว่า ขณะนั้นมีชาวบ้าน กว่า 2,000 คนที่ร่วมลงทะเบียนไว้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และได้เข้าไปสร้างที่พักอาศัยในพื้นที่สวนปาล์ม จนกระทั่งมีกลุ่มบุคคลเข้าไปรื้อทำลาย ขโมยทรัพย์สิน วัสดุก่อสร้างบ้านพักอาศัยในพื้นที่โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย สำหรับการนัดรวมตัวกันในวันนี้เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล คือ 1. ขอให้รัฐบาลสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่รับลงทะเบียนจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน ได้รับการลงทะเบียนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม 2. ขอให้ตั้งคณะทำงานภาคประชาชน เพื่อเข้าไปดำเนินการกับภาครัฐในการตรวจสอบการขอสัมปทานระหว่างเอกชนกับภาครัฐในเขตจังหวัดสุราษฎรธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่ 3. พอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้กระทำความผิดในส่วนภาครัฐที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยขอให้มีการสั่งย้ายนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และนายอำนาจ สร้อยเกี่ยว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ และพิจารณาให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหายที่ได้ร้องขอต่อกรมคุ้มครองสิทธิ
นายกฤษดากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้มีการร้องเรียนไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด จึงได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ โดยผู้ว่าฯ คือ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ได้ออกมารับหนังสือและรับปากว่าจะเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนเกิดเหตุขึ้นก็ไม่ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันอีกครั้งไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับศาลปกครองนครศรีธรรมราช โดยศาลได้มีคำสั่งให้กรมป่าไม้ยุติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นได้เกิดเหตุไปแล้ว ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันอีกครั้งเพื่อร้องเรียนปัญหาดังกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยดำเนินการแก้ไข
ด้านนายสุพร อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวกับผู้ชุมนุมฯ พร้อมทั้งรับหนังสือร้องเรียนว่า หลังจากนี้ตนขอเวลาในการตรวจสอบข้อมูลจากหนังสือร้องเรียน และจะลงพื้นที่ พร้อมทั้งจัดประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหากับชาวบ้านในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวตนเชื่อว่ามีเรื่องของการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ รวมทั้งการพูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประชา ประสพดี เพื่อรับทราบเกี่ยวปัญหาโฉนดที่ดิน พร้อมทั้งการดำเนินการแก้ไขต่อไป สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการกำหนดไว้ 30 วันหลังจากนี้ไป