กระบี่ - กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักอยู่หน้า สนง.ป่าไม้ที่ 12 กระบี่ เคลื่อนขบวนไปที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาคนยากจนไม่มีที่ดินทำกิน 5 ข้อ โดยมีผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี ลงมารับเรื่อง พร้อมนำเสนอไปยังสำนักนายกฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการเร่งด่วน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (17 พ.ค.) กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักกางเต็นอยู่ที่หน้าสำนักงานป่าไม้ที่ 12 ม.1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ รวม 2 วัน 2 คืน จำนวนกว่า 500 คน นำโดยนายกฤษฎา จีระพันธ์ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยืนหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ทำการจัดสรรพื้นที่หมดสัมปทานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ให้แก่กลุ่มฯ โดยมี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ผู้แทนประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับเรื่อง
และได้เชิญตัวแทนเกษตรกรไร้ที่ทำกินแต่ละจังหวัดประชุมหารือร่วมกับ นายวีระ จันทรทิพรักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ นายอำนาจ สร้อยเกียว ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ นำรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบุกเผาทำลายทรัพย์สิน บ้านพักอาศัย ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ในพื้นที่ ม.6 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง รวมจำนวนกว่า 1,972 คน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยื่นต่อ พ.ต.ต.เสงี่ยม เพื่อให้ภาครัฐเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
พร้อมยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน ได้เช่าพื้นที่สัมปทาน เหมือนที่นายทุนเคยได้สัมปทาน 2.ให้เอกสารที่ครอบครองพื้นที่สัมปทานที่อายุหมดสัมปทานคืนกลับให้กรมป่าไม้ และภาครัฐจัดสรรที่ดินที่หมดอายุสัมปทานกว่า 1 แสน 7 หมื่นไร่ ในจังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ให้แก่คนจนของแต่ละจังหวัด 3.ให้จังหวัดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานที่มาจากภาคประชาชน ตรวจสอบในการแก้ปัญหาที่ดินหมดสัมปทาน 4.ให้ปิดป้ายประกาศ แปลงที่ดินที่หมดอายุสัมปทานแล้วให้ประชาชนได้รับทราบ และ 5.ให้ภาครัฐเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกทำลายที่พักอาศัยในที่ดินสัมปทานเมื่อปลายปีทีผ่านมา
พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวพร้อมรับปากว่า จะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรไร้ที่ดินทำกินเสนอต่อ สำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติ ครม.2546 และจะรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทางผู้ชุมนุมพอใจและแยกย้ายกันกลับ
