กระบี่ - ม็อบกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน จ.กระบี่ กว่า 200 คน ตั้งเต็นท์ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อหน้าศาลากลาง เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ มีคำสั่งย้าย ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ออกจากพื้นที่ หลังไม่ยอมให้รายชื่อชาวบ้านที่เคยลงทะเบียน เชื่อมีการสับเปลี่ยนรายชื่อ ขู่ยกระดับการชุมนุมหากไม่ได้รับคำตอบ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (29 ม.ค.) กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ จำนวนกว่า 200 คน นำโดย นายสุรสิทธ์ วิชัยดิษฐ อายุ 40 ปี ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกินจังหวัดกระบี่ และนายกฤษฎา จีระพันธ์ อายุ 46 ปี ทนายความกลุ่มเกษตรกรฯ ได้มาปักหลักรวมตัวกันที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมตั้งเต็นท์ที่พักภายในสนามศาลากลางด้วย ภายหลังจากที่ไปชุมนุมกันที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ แต่ทางผู้อำนวยการสำนักฯ กลับหลบออกจากสำนักงานฯ ไปตั้งแต่ช่วยบ่ายเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) โดยไม่มีการพูดคุยกับผู้ที่มาชุมนุมแต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านต้องมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลาง
จากนั้นตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเรียกร้องให้นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มีคำสั่งย้ายนายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ออกจากพื้นที่ เนื่องจากยังไม่ยอมส่งมอบบัญชีรายชื่อของกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกินฯ ที่เคยลงทะเบียนคนไม่มีที่ทำกินไว้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวน กว่า 2,700 คน ช่วงที่เข้าไปปักหลักอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ม.6 ต.คลองขนาน เพื่อจะได้ดำเนินการยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่ทางรองธิบดีกรมป่าไม้ได้นำกำลังเข้าผลักออกจากพื้นที่เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ทำให้บ้านพักที่ปลูกไว้กว่า 2,000 หลัง รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นผู้ดูแลพื้นที่
นายสุรสิทธิ์ วิชัยดิษฐ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน จ.กระบี่ กล่าวว่า แม้ว่าจะทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปแล้ว แต่ขณะนี้ทางนายอำนาจ สร้อยเกียว ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯ ยังไม่ยอมมอบบัญชีรายชื่อให้ และให้ชาวบ้านทำเรื่องขอไปยังกรมป่าไม้เอง ทั้งที่ข้อเท็จจริงทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้จัดทำ และถ่ายเอกสารไว้เพื่อเตรียมมอบให้ชาวบ้านแล้ว แต่กลับไม่ยอมให้ แสดงว่ามีพิรุธ เชื่อว่ารายชื่อชาวบ้านที่เคยลงไว้กว่า 2,000 ราย อาจถูกตัดทิ้ง แล้วมีการสอดไส้รายชื่อใหม่เข้าไปซึ่งไม่ใช่เป็นผู้เดือดร้อนจริง พฤติกรรมดังกล่าวของ ผอ.ฯ จึงทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อน หากจะไปเอารายชื่อที่กรมป่าไม้ก็เป็นภาระค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น จึงได้ขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นเรียกร้องความเป็นธรรม 4 ข้อ คือ
1. ขอให้ผู้ว่าฯ ออกคำสั่งย้าย ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่มีความเป็นธรรม ปกปิดข้อมูล 2. ให้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯ ส่งมอบบัญชีรายชื่อให้กลุ่มสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกิน และเปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่มีรายชื่อในทะเบียน ได้ลงทะเบียนเพิ่มเติม 3. ขอให้ผู้ว่าฯ มีคำสั่งให้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯ ส่งภาพถ่ายทั้งหมดที่ได้อ้างไว้กับศาลปกครองนครศรีธรรมราช ว่ามีบ้านพักทั้งหมดแค่700 หลัง และมีรายชื่อเจ้าของบ้านที่ขอเข้ารื้อถอนเองจำนวน 30 ราย และ 4. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนาน คืนทรัพย์สินทั้งหมด ที่ยึดไว้ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี คืนให้สมาชิกกลุ่มสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน
ต่อมานายตรีธวัช หลักเมือง ป้องกันจังหวัดกระบี่ ได้มารับหนังสือร้องเรียนแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมกล่าวว่าในเบื้องต้นจะประสานกับทางผู้ว่าฯ ให้ดำเนินการขอรายชื่อตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง ส่วนเรื่องที่จะให้มีคำสั่งย้าย ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ออกจากพื้นที่นั้นไม่สามรถทำได้ เพราะไม่ใช่เป็นหน่วยงานของจังหวัดโดยตรง แต่ขึ้นกับทางกรมป่าไม้ ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และขอให้สลายการชุมนุมไปก่อน
ขณะที่นายกฤษฎา จีระพันธ์ ทนายความกลุ่มสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกิน กล่าวว่า ชาวบ้านที่มาในวันนี้ จะปักหลักชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากทางจังหวัด ถ้าหากยังไม่มีคำตอบก็จะปักหลักชุมนุมและตั้งเต็นท์ค้างคืนที่ศาลากลางต่อไป