กระบี่ - กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ ต.คลองขนาน ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ รวมทั้งชาวบ้านไม่ไหว ยอมสลายตัวออกจากสวนปาล์มอย่างสงบ หลังยึดครองมานานกว่า 7 เดือน
เวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ธ.ค.) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงศ์ อธิบดีกรมป่าไม้ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานของห้างหุ้นส่วนกระบี่รวมภัณฑ์ จำกัด เนื้อที่กว่า 1 พันไร่ หมู่ที่ 6 บ้านคลองหวายเล็ก ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
เพื่อเจรจาให้ทางกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ ที่เข้ายึดพื้นที่สวนปาล์มออกจากสวนปาล์ม และคืนพื้นที่ให้แก่กรมป่าไม้ หลังเข้ายึดครองนานร่วม 7 เดือนเศษ และล่าสุด ได้สร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านในพื้นที่ จนชาวบ้านออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง และยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่ผลักดันกลุ่มเกษตรกรฯออกจากพื้นที่ หากไม่ดำเนินการชาวบ้านจะดำเนินการเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะอธิบดีกรมป่าไม้ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงศ์ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เดินเข้าไปในสวนปาล์มที่บริเวณกลุ่มเกษตรกรฯ รวมตัวกันอยู่ประมาณ 100 คน และได้เจรจากับนายประสาน มัยยะ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรฯ โดยใช้เวลาในการเจราประมาณ 30 นาที ก็สามารถตกลงกันได้ โดยทางกลุ่มเกษตรฯ จะยอมสลายตัวออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ได้เสนอเงื่อนไขให้ทางกรมป่าไม้ยึดคืนพื้นที่ทุกแปลงที่หมดอายุสัมปทานในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และกระบี่ ที่ตกอยู่ในการครอบครองของนายทุนกลับมาเป็นของรัฐ
ซึ่งทางอธิบดีกรมป่าไม้ได้รับในหลักการ และพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มเกษตรกรฯ ขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่จนหมด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเข้าไปเจรจากับทางกลุ่มม็อบนั้น ได้มีการเจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่ปักหลักตั้งด่านสกัดกลุ่มเกษตรกรฯ อยู่บนถนนสามแยกห้วยโสก ม.2 ต.คลองขนาน ให้เลิกตั้งด่าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มชาวบ้านเป็นอย่างดี และยอมรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากถนน
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่มีการเจรจากันทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายชาวบ้าน และกลุ่มเกษตรกร ก็เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายยอมถอนออกจากที่ตั้ง สำหรับกลุ่มเกษตรกรฯ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ทราบว่า บางคนไม่มีที่อยู่ ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่เข้าดูมาแล และให้มีการลงชื่อไว้เพื่อจะได้ช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่ทางโรงเรียนบ้านคลองหวายเล็ก ม.6 ต.คลองขนาน อยู่ห่างจากม็อบสวนปาล์ม ประมาณ 800 เมตร ได้ทำการปิดเรียน 1 วัน โดยนายวิจิตร สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองหวายเล็ก เปิดเผยว่า ทราบว่าการนำกำลังของเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ เกรงว่าครู และนักเรียนจะไม่มีความปลอดภัย ทางโรงเรียนได้ทำการปิดเรียน และหลังจากนี้ก็จะเปิดเรียนตามปกติ เพราะเชื่อว่าในพื้นที่มีความสงบ
ด้านนายอนันต์ สันหาด ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เหนือคลอง กล่าวว่า ตามที่ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ เตรียมเข้ากดดันสลายกลุ่มเกษตรกรฯ ออกจากสวนปาล์มเอง หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้าจัดการ เพื่อนำความสงบสุขให้ชาวบ้าน ต.คลองขนาน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการแล้วในวันนี้ ทางชาวบ้านก็รู้สึกดีใจที่ทุกอย่างจบด้วยดี ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านก็จะยุติ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ต่อไป
เวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ธ.ค.) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงศ์ อธิบดีกรมป่าไม้ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานของห้างหุ้นส่วนกระบี่รวมภัณฑ์ จำกัด เนื้อที่กว่า 1 พันไร่ หมู่ที่ 6 บ้านคลองหวายเล็ก ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
เพื่อเจรจาให้ทางกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ ที่เข้ายึดพื้นที่สวนปาล์มออกจากสวนปาล์ม และคืนพื้นที่ให้แก่กรมป่าไม้ หลังเข้ายึดครองนานร่วม 7 เดือนเศษ และล่าสุด ได้สร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านในพื้นที่ จนชาวบ้านออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง และยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่ผลักดันกลุ่มเกษตรกรฯออกจากพื้นที่ หากไม่ดำเนินการชาวบ้านจะดำเนินการเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะอธิบดีกรมป่าไม้ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงศ์ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เดินเข้าไปในสวนปาล์มที่บริเวณกลุ่มเกษตรกรฯ รวมตัวกันอยู่ประมาณ 100 คน และได้เจรจากับนายประสาน มัยยะ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรฯ โดยใช้เวลาในการเจราประมาณ 30 นาที ก็สามารถตกลงกันได้ โดยทางกลุ่มเกษตรฯ จะยอมสลายตัวออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ได้เสนอเงื่อนไขให้ทางกรมป่าไม้ยึดคืนพื้นที่ทุกแปลงที่หมดอายุสัมปทานในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และกระบี่ ที่ตกอยู่ในการครอบครองของนายทุนกลับมาเป็นของรัฐ
ซึ่งทางอธิบดีกรมป่าไม้ได้รับในหลักการ และพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มเกษตรกรฯ ขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่จนหมด อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเข้าไปเจรจากับทางกลุ่มม็อบนั้น ได้มีการเจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่ปักหลักตั้งด่านสกัดกลุ่มเกษตรกรฯ อยู่บนถนนสามแยกห้วยโสก ม.2 ต.คลองขนาน ให้เลิกตั้งด่าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มชาวบ้านเป็นอย่างดี และยอมรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากถนน
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่มีการเจรจากันทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายชาวบ้าน และกลุ่มเกษตรกร ก็เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายยอมถอนออกจากที่ตั้ง สำหรับกลุ่มเกษตรกรฯ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ทราบว่า บางคนไม่มีที่อยู่ ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่เข้าดูมาแล และให้มีการลงชื่อไว้เพื่อจะได้ช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่ทางโรงเรียนบ้านคลองหวายเล็ก ม.6 ต.คลองขนาน อยู่ห่างจากม็อบสวนปาล์ม ประมาณ 800 เมตร ได้ทำการปิดเรียน 1 วัน โดยนายวิจิตร สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองหวายเล็ก เปิดเผยว่า ทราบว่าการนำกำลังของเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ เกรงว่าครู และนักเรียนจะไม่มีความปลอดภัย ทางโรงเรียนได้ทำการปิดเรียน และหลังจากนี้ก็จะเปิดเรียนตามปกติ เพราะเชื่อว่าในพื้นที่มีความสงบ
ด้านนายอนันต์ สันหาด ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เหนือคลอง กล่าวว่า ตามที่ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ เตรียมเข้ากดดันสลายกลุ่มเกษตรกรฯ ออกจากสวนปาล์มเอง หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้าจัดการ เพื่อนำความสงบสุขให้ชาวบ้าน ต.คลองขนาน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการแล้วในวันนี้ ทางชาวบ้านก็รู้สึกดีใจที่ทุกอย่างจบด้วยดี ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านก็จะยุติ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ต่อไป