กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งเข้ายึดสวนปาล์ม ห้างหุ้นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ บ้านคลองหวายเล็ก ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กำลังตกอยู่ในความหวาดวิตก เมื่อ นายชลทิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ เตรียมจะบังคับใช้กฎหมายให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และย้ายออกนอกพื้นที่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านที่อ้างตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ และชาวบ้านกลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินไม่ให้บานปลาย แม้จะมีคำสั่งเตรียมบังคับใช้กฎหมาย
ด้าน นายสุมนตรี สุกดำ แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกิน ยืนยันว่า สมาชิกทั้งหมดมีมติจะปักหลัก และอยู่ในพื้นที่จนกว่าจะได้ที่ดินทำกิน
เหตุปะทะระหว่างชาวชุมชนคลองขนานเกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน เข้าไปก่อตั้งชุมชนภายในสวนปาล์มน้ำมันของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ บนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ หลังตรวจสอบพบว่า สัมปทานที่ทำไว้กับกรมป่าไม้หมดลงตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งนำที่ดินมาจัดสรรให้กับคนจนตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2546 ก่อนนั้นเหตุการณ์รุนแรงของการแย่งชิงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เริ่มมีสัญญาณปะทุขึ้นในสัปดาห์ก่อน เมื่อชาว ต.คลองขนานกว่า 50 คน รวมตัวตั้งด่านตรวจค้น เพื่อขัดขวางไม่ให้กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกินเข้าและออกพื้นที่ ซึ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมากลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นชาว ต.คลองขนาน ได้ฝ่ากำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปรื้อถอนทำลายทรัพย์สินภายในสวนปาล์มน้ำมันถึง 2 ครั้ง เป็นเหตุให้ที่พักอาศัยได้รับความเสียหายกว่า 50 หลัง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ชเสียหายรวม 5 คัน
ขณะที่แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ระบุว่า กลุ่มชายฉกรรจ์เป็นเพียงคนงานสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชน ที่มีนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลการกระทำดังกล่าว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น
ส่วนฝ่ายตัวแทนชาวบ้านชาว ต.คลองขนาน อ้างว่า การเข้ามาของชาวบ้านต่างถิ่น อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต จึงจำเป็นต้องขับไล่ออกนอกพื้นที่
ด้าน นายสุมนตรี สุกดำ แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกิน ยืนยันว่า สมาชิกทั้งหมดมีมติจะปักหลัก และอยู่ในพื้นที่จนกว่าจะได้ที่ดินทำกิน
เหตุปะทะระหว่างชาวชุมชนคลองขนานเกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน เข้าไปก่อตั้งชุมชนภายในสวนปาล์มน้ำมันของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ บนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ หลังตรวจสอบพบว่า สัมปทานที่ทำไว้กับกรมป่าไม้หมดลงตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งนำที่ดินมาจัดสรรให้กับคนจนตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2546 ก่อนนั้นเหตุการณ์รุนแรงของการแย่งชิงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เริ่มมีสัญญาณปะทุขึ้นในสัปดาห์ก่อน เมื่อชาว ต.คลองขนานกว่า 50 คน รวมตัวตั้งด่านตรวจค้น เพื่อขัดขวางไม่ให้กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกินเข้าและออกพื้นที่ ซึ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมากลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นชาว ต.คลองขนาน ได้ฝ่ากำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปรื้อถอนทำลายทรัพย์สินภายในสวนปาล์มน้ำมันถึง 2 ครั้ง เป็นเหตุให้ที่พักอาศัยได้รับความเสียหายกว่า 50 หลัง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ชเสียหายรวม 5 คัน
ขณะที่แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ระบุว่า กลุ่มชายฉกรรจ์เป็นเพียงคนงานสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชน ที่มีนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลการกระทำดังกล่าว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น
ส่วนฝ่ายตัวแทนชาวบ้านชาว ต.คลองขนาน อ้างว่า การเข้ามาของชาวบ้านต่างถิ่น อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต จึงจำเป็นต้องขับไล่ออกนอกพื้นที่
