กระบี่ - สมาชิกเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ยืนยันจะปักหลักเรียกร้องที่ดินทำกินภายในสวนปาล์มน้ำมันหมดสัปทานของเอกชนในพื้นที่ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ แม้อธิบดีกรมป่าไม้จะเตรียมบังคับใช้กฎหมาย ให้ออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน
จากกรณีที่ทางนายประเสริฐ สันหาด นายก อบต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้นำชาวบ้านร่วม 200 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อเรียกร้องให้ทางนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ช่วยผลักดันม็อบกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักอยู่ภายในสวนปาล์มของ หจก.กระบี่รวมภัณฑ์ ออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการปะทะกับชาวบ้านกันแล้วหลายครั้ง ซึ่งเริ่มสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญ ส่งผลให้โรงเรียนบ้านคลองหวาย ซึ่งเป็นโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ห่างจากสวนปาล์มที่กลุ่มเกษตรกรยึดครองเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร
และต่อมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญตัวแทนของชาวบ้านเข้าร่วมประชุม เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี นายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้ข้อยุติคือ ทางกรมป่าไม้เตรียมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้เกษตรกรที่เข้าไปอาศัยอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และย้ายออกนอกพื้นที่ภายใน 15 วัน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน และไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลายอีกต่อไป เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมป่าไม้ หลังจากที่เอกชนหมดสัมปทานตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.)
ล่าสุด วันนี้ (30 พ.ย.) นายสุขมนตรี สุขดำ แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านคลองหวายเล็ก ได้รวมตัวกันมาขับไล่พวกตนให้ออกไปจากพื้นที่ โดยมีการกล่าวอ้างสาเหตุต่างๆ และล่าสุด ทราบว่า ทางนายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ เตรียมจะบังคับใช้กฎหมายให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และย้ายออกนอกพื้นที่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านที่อ้างตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ และชาวบ้านกลุ่มเรียกร้องที่ดินกินไม่ให้บานปลาย
แม้จะมีคำสั่งเตรียมบังคับใช้กฎหมาย สมาชิกทั้งหมดมีมติจะปักหลัก และอยู่ในพื้นที่จนกว่าจะได้ที่ดินทำกิน เหตุปะทะระหว่างชาวชุมชนคลองขนาน เกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน เข้าไปก่อตั้งชุมชน ภายในสวนปาล์มน้ำมันของห้างหุ้นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ บนเนื้อกว่า 1,000 ไร่ หลังตรวจสอบพบว่า สัมปทานที่ทำไว้กับกรมป่าไม้หมดลงตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งนำที่ดินมาจัดสรรให้แก่คนจน ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2546
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ นายธีระศักดิ์ ดวงราม ตัวแทนกลุ่มสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน จ.กระบี่ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 6 คน ได้เดินทางมายืนหนังสื่อถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่ขาดอายุสัมปทานในจังหวัดกระบี่ เพื่อคนยากจนไม่มีที่ดินทำกินเข้าอยู่อาศัย พร้อมยื่นรายชื่อพื้นที่ที่ขาดอายุสัมทานไปแล้ว จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ 13,950 ไร่ โดยมีตัวแทนออกมารับหนังสือ
ขณะที่ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มม็อบสวนปาล์มน้ำมันสิทธิชุมชนไร้ดินทำกินจังหวัดกระบี่ที่ยังอยู่ในพื้นที่ปัญหา ได้ติดต่อขอออกจากพื้นที่แล้ว จำนวน 4 คน โดยอ้างว่าขอกลับไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำรถเข้าไปรับตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่คาดว่ายังมีแกนนำ และสมาชิกปักหลักอยู่ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 350 คน
จากกรณีที่ทางนายประเสริฐ สันหาด นายก อบต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้นำชาวบ้านร่วม 200 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อเรียกร้องให้ทางนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ช่วยผลักดันม็อบกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักอยู่ภายในสวนปาล์มของ หจก.กระบี่รวมภัณฑ์ ออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการปะทะกับชาวบ้านกันแล้วหลายครั้ง ซึ่งเริ่มสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญ ส่งผลให้โรงเรียนบ้านคลองหวาย ซึ่งเป็นโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ห่างจากสวนปาล์มที่กลุ่มเกษตรกรยึดครองเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร
และต่อมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญตัวแทนของชาวบ้านเข้าร่วมประชุม เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี นายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้ข้อยุติคือ ทางกรมป่าไม้เตรียมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้เกษตรกรที่เข้าไปอาศัยอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และย้ายออกนอกพื้นที่ภายใน 15 วัน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน และไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลายอีกต่อไป เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมป่าไม้ หลังจากที่เอกชนหมดสัมปทานตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.)
ล่าสุด วันนี้ (30 พ.ย.) นายสุขมนตรี สุขดำ แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านคลองหวายเล็ก ได้รวมตัวกันมาขับไล่พวกตนให้ออกไปจากพื้นที่ โดยมีการกล่าวอ้างสาเหตุต่างๆ และล่าสุด ทราบว่า ทางนายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ เตรียมจะบังคับใช้กฎหมายให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และย้ายออกนอกพื้นที่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านที่อ้างตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ และชาวบ้านกลุ่มเรียกร้องที่ดินกินไม่ให้บานปลาย
แม้จะมีคำสั่งเตรียมบังคับใช้กฎหมาย สมาชิกทั้งหมดมีมติจะปักหลัก และอยู่ในพื้นที่จนกว่าจะได้ที่ดินทำกิน เหตุปะทะระหว่างชาวชุมชนคลองขนาน เกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่กลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน เข้าไปก่อตั้งชุมชน ภายในสวนปาล์มน้ำมันของห้างหุ้นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ บนเนื้อกว่า 1,000 ไร่ หลังตรวจสอบพบว่า สัมปทานที่ทำไว้กับกรมป่าไม้หมดลงตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งนำที่ดินมาจัดสรรให้แก่คนจน ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2546
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ นายธีระศักดิ์ ดวงราม ตัวแทนกลุ่มสิทธิชุมชนไร้ที่ดินทำกิน จ.กระบี่ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 6 คน ได้เดินทางมายืนหนังสื่อถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่ขาดอายุสัมปทานในจังหวัดกระบี่ เพื่อคนยากจนไม่มีที่ดินทำกินเข้าอยู่อาศัย พร้อมยื่นรายชื่อพื้นที่ที่ขาดอายุสัมทานไปแล้ว จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ 13,950 ไร่ โดยมีตัวแทนออกมารับหนังสือ
ขณะที่ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มม็อบสวนปาล์มน้ำมันสิทธิชุมชนไร้ดินทำกินจังหวัดกระบี่ที่ยังอยู่ในพื้นที่ปัญหา ได้ติดต่อขอออกจากพื้นที่แล้ว จำนวน 4 คน โดยอ้างว่าขอกลับไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำรถเข้าไปรับตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่คาดว่ายังมีแกนนำ และสมาชิกปักหลักอยู่ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 350 คน