นายจินดา บุญจันทร์ ประธานกรรมการดำเนินการที่ประชุมในระดับชาติสภาองค์กรชุมชนตำบลและผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองซึ่งประกอบด้วย เครือข่ายสวัสดิการชุมชน คณะประสานงานองค์กรชุมชน (คปอ.) สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน และเครือข่ายที่ดินแนวใหม่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองแห่งชาติ (คทช.) เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนงานพัฒนาในทิศทางชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองว่า มีเป้าหมายสำคัญอยู่ 3 เรื่องคือ ให้รัฐบาลสนับสนุนและกำหนดนโยบายชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองเป็นนโยบายทางสังคมที่ทุกหน่วยงานต้องสนับสนุน ขบวนองค์กรชุมชนทุกขบวน มีความเป็นเอกภาพและรวมพลังลุกขึ้นมาขับเคลื่อนเป้าหมายชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง และติดตามทวงถามงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานพัฒนาของขบวนองค์กรชุมชน 5,183 ล้านบาท
มติร่วมที่สำคัญคือ แปดเดือนนับจากนี้เราจะระดมสรรพกำลังร่วมกันผลักดันแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง พี่น้องขบวนองค์กรชุมชน พร้อมที่จะใช้กระบวนการการเจรจากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และใช้กระบวนการเรียกร้องและกดดันทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย เคลื่อนไหวต่อรอง ในเชิงวิชาการเสนอนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนาจากระดับจังหวัด ภาค และเวทีระดับชาติ
ทั้งนี้ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ตัวแทนขบวนองค์กรชุมชนจากทั่วประเทศ จะประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อสรุปแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ภายในปี 2561 พร้อมเสนอนโยบายต่อภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 เครือข่ายชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ยื่นข้อเสนอแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองต่อรัฐบาลที่หน้าอาคารรัฐสภา และจัดสมัชชาประเด็นงานต่างๆ จนถึงเวทีใหญ่ในเดือนธันวาคม 2556
การก่อรูปของภาคประชาชน 7-8 ปี ที่ผ่านมา ขบวนภาคประชาชนร่วมกันพัฒนาฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่น อย่างกรณีโครงการบ้านมั่นคง กองทุนสวัสดิการ สภาองค์กรชุมชน หากติดตามการทำงานที่ผ่านมา ชาวบ้านเองสามารถจัดการได้ดี ทั้งที่ไม่มีค่าตอบแทนไม่มีเงินเดือน ไม่มีเจ้าหน้าที่ ชุมชนรู้ปัญหาของชุมชนเอง ข้อพิสูจน์ที่ผ่านมา องค์กรการเงิน สวัสดิการ บ้านมั่นคง ค่อนข้างเห็นชัดว่าชุมชนมีความสามารถในการดำเนินงานพัฒนาโดยตนเองชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง เรามีความชอบธรรม ที่จะรู้ท่าทีของรัฐบาลว่าจะให้ความสำคัญกับขบวนองค์กรชุมชนอย่างไร รวมถึงกลุ่มประชาชนอื่นๆ
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศเข้าร่วมและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน ระดมสรรพกำลังทุกอย่างที่ชุมชนมีอยู่หนุนเนื่องการเคลื่อนไหว ให้มีพลังและให้กำลังใจกันและกันผนึกกำลังเป็นระลอกถาโถมทุกรูปแบบอย่างไม่กลัวยากลำบาก กล้าสู้กล้าเอาชนะไม่กลัว เชื่อมั่นในพลังมวลชนภาระกิจเป็นของพี่น้อง พี่น้องไม่ออกมาใครจะออกหน้า ระบบประชาธิปไตยทางตรงแกนนำไม่รับฝากทุกคนต้องมาเอง
การจัดการตนเองของภาคประชาชน เป็นการสร้างความสุขให้กับชุมชน จัดการโดยใช้ความรู้ ทุนทางสังคม และกฏหมาย การพัฒนาโดยภาคประชาชน ไม่ได้ปฏิเสธแนวทางการพัฒนาของรัฐ แต่ในส่วนที่เราทำได้เราขอมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตตนเอง เป็นการเมืองภาคพลเมืองที่รัฐมีหน้าที่สนับสนุน
นายจินดา ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พี่น้องจะลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ของตนเอง เพราะรัฐเองไม่ได้มีไร่มีนา งบประมาณที่รัฐนำมาใช้ก็คือเงินภาษีที่มาจากพี่น้องประชาชน เรามีความชอบธรรมที่จะทวงสิทธิของเรา เพราะเราทำได้ดีกว่า เราขอมาทำเองบ้างในบางเรื่อง ซึ่งการดำเนินงานพัฒนาโดยรัฐเอง หลายเรื่องก็ไม่ประสบผลซึ่งไม่อยากพูดถึง สิทธิของเราที่จะทวงเอา เราไม่ได้ร้องขอ แต่เราต้องการใช้สิทธิอันพึงมีและเราใช้ได้ดีกว่า เอางบประมาณเงินภาษีของเรามาทำเอง แน่นอนว่าในการต่อสู้จะจบลงที่การเจราจา แต่การออกมาแสดงพลังของคนทุกข์คนยาก เป็นความจำเป็น ขบวนองค์กรชุมชน ประสานเป้าหมายร่วมกัน กลยุทธ์ วิธีการต่อสู่ต้องหลากหลาย ภายใต้เงื่อนไขที่เราเป็นรอง คนเล็กคนน้อยจึงต้องลุกขึ้นสู้
มติร่วมที่สำคัญคือ แปดเดือนนับจากนี้เราจะระดมสรรพกำลังร่วมกันผลักดันแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง พี่น้องขบวนองค์กรชุมชน พร้อมที่จะใช้กระบวนการการเจรจากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และใช้กระบวนการเรียกร้องและกดดันทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย เคลื่อนไหวต่อรอง ในเชิงวิชาการเสนอนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนาจากระดับจังหวัด ภาค และเวทีระดับชาติ
ทั้งนี้ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ตัวแทนขบวนองค์กรชุมชนจากทั่วประเทศ จะประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อสรุปแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ภายในปี 2561 พร้อมเสนอนโยบายต่อภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 เครือข่ายชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ยื่นข้อเสนอแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองต่อรัฐบาลที่หน้าอาคารรัฐสภา และจัดสมัชชาประเด็นงานต่างๆ จนถึงเวทีใหญ่ในเดือนธันวาคม 2556
การก่อรูปของภาคประชาชน 7-8 ปี ที่ผ่านมา ขบวนภาคประชาชนร่วมกันพัฒนาฟื้นฟูชุมชนท้องถิ่น อย่างกรณีโครงการบ้านมั่นคง กองทุนสวัสดิการ สภาองค์กรชุมชน หากติดตามการทำงานที่ผ่านมา ชาวบ้านเองสามารถจัดการได้ดี ทั้งที่ไม่มีค่าตอบแทนไม่มีเงินเดือน ไม่มีเจ้าหน้าที่ ชุมชนรู้ปัญหาของชุมชนเอง ข้อพิสูจน์ที่ผ่านมา องค์กรการเงิน สวัสดิการ บ้านมั่นคง ค่อนข้างเห็นชัดว่าชุมชนมีความสามารถในการดำเนินงานพัฒนาโดยตนเองชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง เรามีความชอบธรรม ที่จะรู้ท่าทีของรัฐบาลว่าจะให้ความสำคัญกับขบวนองค์กรชุมชนอย่างไร รวมถึงกลุ่มประชาชนอื่นๆ
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศเข้าร่วมและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน ระดมสรรพกำลังทุกอย่างที่ชุมชนมีอยู่หนุนเนื่องการเคลื่อนไหว ให้มีพลังและให้กำลังใจกันและกันผนึกกำลังเป็นระลอกถาโถมทุกรูปแบบอย่างไม่กลัวยากลำบาก กล้าสู้กล้าเอาชนะไม่กลัว เชื่อมั่นในพลังมวลชนภาระกิจเป็นของพี่น้อง พี่น้องไม่ออกมาใครจะออกหน้า ระบบประชาธิปไตยทางตรงแกนนำไม่รับฝากทุกคนต้องมาเอง
การจัดการตนเองของภาคประชาชน เป็นการสร้างความสุขให้กับชุมชน จัดการโดยใช้ความรู้ ทุนทางสังคม และกฏหมาย การพัฒนาโดยภาคประชาชน ไม่ได้ปฏิเสธแนวทางการพัฒนาของรัฐ แต่ในส่วนที่เราทำได้เราขอมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตตนเอง เป็นการเมืองภาคพลเมืองที่รัฐมีหน้าที่สนับสนุน
นายจินดา ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พี่น้องจะลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ของตนเอง เพราะรัฐเองไม่ได้มีไร่มีนา งบประมาณที่รัฐนำมาใช้ก็คือเงินภาษีที่มาจากพี่น้องประชาชน เรามีความชอบธรรมที่จะทวงสิทธิของเรา เพราะเราทำได้ดีกว่า เราขอมาทำเองบ้างในบางเรื่อง ซึ่งการดำเนินงานพัฒนาโดยรัฐเอง หลายเรื่องก็ไม่ประสบผลซึ่งไม่อยากพูดถึง สิทธิของเราที่จะทวงเอา เราไม่ได้ร้องขอ แต่เราต้องการใช้สิทธิอันพึงมีและเราใช้ได้ดีกว่า เอางบประมาณเงินภาษีของเรามาทำเอง แน่นอนว่าในการต่อสู้จะจบลงที่การเจราจา แต่การออกมาแสดงพลังของคนทุกข์คนยาก เป็นความจำเป็น ขบวนองค์กรชุมชน ประสานเป้าหมายร่วมกัน กลยุทธ์ วิธีการต่อสู่ต้องหลากหลาย ภายใต้เงื่อนไขที่เราเป็นรอง คนเล็กคนน้อยจึงต้องลุกขึ้นสู้