อุบลราชธานี - ชาวชุมชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล หลังเทศบาลฯ เขียนแบบถมดินสูงเท่าหลังคาบ้าน ลูกหลานเดินทางเข้า-ออกไม่ได้ ชาวบ้านเชื่อต้องการกดดันให้ชาวชุมชนหาที่อยู่ใหม่ และเอื้อประโยชน์ให้โครงการสร้างรีสอร์ตริมน้ำให้แก่ ส.ส.คนดัง
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี ตัวแทนชาวชุมชนบ่อบำบัดน้ำเสีย จำนวน 10 ครอบครัว ยื่นหนังสือร้องให้ชะลอโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูลระยะที่ 2 ความยาวประมาณ 450 เมตร เพราะบางจุดตัดผ่ากลางบ้าน และมีการถมดินสูงเท่าหลังคาบ้านชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ภายในไม่สามารถใช้สัญจรเข้า-ออกได้
น.ส.บุญญารัตน์ สงเขาใหญ่ อายุ 20 ปี นักศึกษาราชภัฏอุบลราชธานี พักอยู่บ้านเลขที่ 71 ถนนบูรพานอก ต.ในเมือง อ.เมือง ซึ่งถูกโครงการตัดถนนผ่ากลางบ้านระบุว่า ยังไม่สามารถโยกย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ได้ เนื่องจากเพิ่งได้รับแจ้งจากผู้รับเหมาเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมาแบบไม่ทันตั้งตัว จึงมาเรียกร้องดังกล่าว
ด้านนายชัยยุทธ โยธามาตร์ รองปลัดเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้รับหนังสือร้องเรียนและได้ยืดเวลาให้ น.ส.บุญญารัตน์ เก็บข้าวของออกจากที่พักภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ เพราะที่ดินใช้ปลูกบ้านไม่มีเอกสารการครอบครองอย่างถูกต้อง ส่วนอีก 9 รายที่ได้รับผลกระทบมีการถมดินสูงเท่าหลังคาบ้านจะส่งเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าไปช่วยทำบันไดเข้า-ออกเพราะไม่สามารถหยุดโครงการดังกล่าวไว้ได้
สำหรับโครงการก่อสร้างถนนดังกล่าว ชาวบ้านระบุว่าสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ที่ดินของ ส.ส.คนหนึ่งที่กำลังกว้านซื้อที่ดินที่อยู่ติดกับที่ดินของตนเองเพื่อทำเป็นรีสอร์ตริมแม่น้ำมูล และที่ผ่านมา มีเรื่องกระทบกระทั่งกับชาวชุมชนมาโดยตลอด
กระทั่งเทศบาลทำโครงการสร้างถนนเลียบริมแม่น้ำมูล และทำการถมถนนสูงเท่าหลังคาบ้านเพื่อให้อยู่อาศัยได้อย่างลำบาก เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดกับชุมชนวัดหลวง ถนนพรหมเทพ ซึ่งเคยถูกเทศบาลยุค นางรจนา กัลป์ตินันท์ เป็นนายกเทศมนตรี สั่งถมดินสูงเท่าหลังคาบ้านมาแล้ว จน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องส่งโครงการบ้านมั่นคงมาช่วยแก้ปัญหาให้แก่ชาวชุมชนเมื่อกว่า 5 ปีก่อนด้วย