ม็อบส่งท้ายก่อนปิดฉาก ครม.สัญจร แฉแหลกทีมงานนายกฯ คนสวยสุดแชเชือน

ฉะเชิงเทรา - ม็อบส่งท้ายก่อนปิดฉาก ครม.สัญจร ร่วมแฉแหลกทีมงานของนายกฯ คนสวยสุดแชเชือน หลังเคยยื่นเรื่องเสนอปัญหาผลกระทบจากรถไฟรางคู่สู่การพัฒนาบ้านมั่นคง พร้อมติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายกลับถูกคนระดับผู้นำประเทศบอกปัดอ้างยังไม่ทราบเรื่อง

บ่ายวันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางอังคณา ขาวเผือก ตัวแทนจากสหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) ระหว่างการประชุม ครม.สัญจร ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาติดตามทวงถามต่อนายกรัฐมนตรี ถึงความคืบหน้าในการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนเมือง และที่ดินทำกินชนบท ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ และการถูกไล่รื้อที่อยู่อาศัยในชุมชนแออัด

หลังจากได้เคยยื่นข้อเสนอที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ต.ค.55 ซึ่งเป็นวันที่อยู่อาศัยโลก โดยมีข้อเสนอให้แก่ทางรัฐบาลว่า ต่อไปนี้หากรัฐบาลต้องการจะพัฒนาโครงการใดๆ ในชุมชนแออัด เราจะไม่ขวาง แต่เราอยากขอพัฒนาร่วม โดยมีข้อเสนอว่าขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยมีองค์ประกอบจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จากนั้นในวันที่ 20 พ.ย.55 ทางกลุ่มได้ไปพบกับท่านนายกฯ จากการติดตามไปที่เขตคลองเตย ล็อก 7-12 ซึ่งวันนั้น นายกฯ ได้ไปเปิดโครงการชุมชนอบอุ่น คืนคนดีสู่สังคมในงานวันยาเสพติด

ท่านนายกฯ ก็ได้รับไว้ โดยให้ทางเลขาฯ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นคนรับเรื่อง หลังจากนั้น เรายังได้ประสานงานต่อเนื่อง ในวันที่ 25 ธ.ค.55 ได้เข้าไปขอพบ นายสุรนันทน์ เพื่อที่จะชี้แจงในรายละเอียดในข้อเสนอ แต่ในวันนั้น นายสุรนันทน์ มีภารกิจเร่งด่วน จึงได้ให้ไปพบกับ นางศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

ต่อมา ในวันที่ 7 ม.ค.56 ทางกลุ่มได้เห็นว่าเวลาผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน นับจากวันยื่นข้อเสนอ จึงได้นัดเครือข่ายคนจนจากทั่วประเทศไปที่ทำเนียบเพื่อไปดูว่าแนวทางในสิ่งที่เราอยากจะเสนอแก้ไขปัญหาร่วมกับทางรัฐบาลนั้น รัฐบาลมีความจริงใจขนาดไหน ทางรัฐบาลได้ส่งให้ทางรองเลขานายกรัฐมนตรี คือ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ มารับหนังสือ

ต่อมา ในวันที่ 17 ม.ค.56 ได้มีการเชิญพวกเรากลุ่ม สอช. มาร่วมตั้งโต๊ะร่างคณะกรรมการบทบาทหน้าที่ร่วมกัน ซึ่งทางเราก็ได้ร่างเสร็จไว้แล้ว โดยที่ นายสุภรณ์ ยังได้บอกแก่พวกเราไว้ว่า คงไม่เกินวันที่ 23 ม.ค.56 น่าจะมีการแต่งตั้ง หรือชงให้ท่านนายกฯ เซ็นลงนาม แต่เมื่อถึงวันที่ 22-23 ม.ค.56 เราได้ไปติดตามก็มีเหตุผลว่าจะต้องไป ครม.สัญจรที่ จ.อุตรดิตถ์ อาจจะมีการเลื่อนซึ่งเราก็เข้าใจในภารกิจสำคัญนั้น

จนมาวันที่ 8 ก.พ.56 กลุ่มเราจึงได้มีโอกาสไปสอบถามกับทางท่านนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง ซึ่งวันนั้น นายกฯ ได้พา พล.ต.อ.พงศพัฒน์ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไปลงพื้นที่หาเสียง ถึงเรื่องการลงนามในเรื่องดังกล่าวที่ได้มีการร่างเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทาง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ กลับบอกเราว่า “ดิฉัน ยังไม่ทราบเรื่องเลยค่ะ เรื่องมันเป็นอย่างไร”

จึงต้องกลับมาพูดคุยกันว่า เหตุใดตั้งแต่ ม.ค. ถึง มี.ค. จนกระทั่งจะเข้าสู่เดือน เม.ย.แล้ว และยังได้พยายามติดตามมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอดในทุกช่องทาง แต่เรื่องก็ยังไม่ได้รับการประสานงาน หรือดำเนินการสิ่งใดจากรัฐบาลเลย ทั้งที่เรื่องนี้ได้ยื่นมาก่อนหน้าตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.2555 แล้ว และมีพี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนรวมกันทั่วประเทศ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีมากถึงกว่า 3 หมื่นครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟรางคู่นี้ และยังคงรอคอยการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลอยู่

ในวันนี้เห็นว่า เป็น ครม.สัญจร จึงอยากจะมาพบกับทางนายกฯ อีกครั้ง เพื่อจะบอกว่าเราไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาโครงการของรัฐบาล แต่ต้องการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่เหตุใดรัฐบาลกลับไม่สนใจคนที่ประสบปัญหาด้วยตนเอง และจะมาบอกแนวทางในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ร่วมกัน และทำงานด้วยกัน หรือมีเหตุใดถึงได้แชเชือนในเรื่องนี้

จึงเป็นเหตุผลว่า วันนี้เรามีตัวแทนจากในทุกภาคจากทั่วประเทศที่จะมาขอเข้าพบกับนายกฯ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลเลย ทั้งที่โครงการนี้เป็นโครงการของอดีต นายกฯ ทักษิณ เมื่อปี พ.ศ.2546 ที่เป็นคนมองว่าคนจนเรามีทั้งจนแบบอีหลีหล๋อ และจนแบบพอไปได้ จึงได้ทำโครงการบ้านมั่นคงขึ้นมาให้แก่คนจนแบบอีหลีหล๋อ และทำโครงการบ้านเอื้ออาทรให้แก่คนจนแบบพอไปได้ ซึ่งพื้นที่รถไฟที่เราเข้าไปอยู่นั้นเราอยู่กันมานานถึง 40-60 ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่วันนี้เราไม่รู้ว่ารัฐบาลมีความจริงใจให้แก่คนจนที่จะเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหานี้จริงขนาดไหน