xs
xsm
sm
md
lg

พบรีสอร์ตส่งซิกโกงสอบครู ค้านตั้ง“ศศิธารา”นั่งอนุปปช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(12 มี.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ รองผบ.สำนักคดีอาญากรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยทีมงาน ได้เข้าตรวจสอบ ชุดาปาร์ครีสอร์ท แอนด์โฮเต็ล ม.5 บ้านค้อ ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่ที่ขบวนการทุจริตสอบมาเปิดห้องพักใช้เป็นที่นัดหมายซักซ้อมก่อนเข้าห้องสอบ
นายธารินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ดูแลและให้บริการของรีสอร์ทแห่งนี้ พบว่าระหว่างวันที่ 10-11 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนวันสอบไม่กี่วัน ได้มีกลุ่มคนเข้ามาทำกิจกรรมเป็นที่น่าสงสัย โดยติดต่อขอเช่าห้องประชุมเพื่อจัดอบรม แต่ไม่มีการขอใช้เครื่องเสียง ไมโครโฟน ป้ายชื่อหรือแม้แต่อาหารว่างระหว่างอบรม ขอใช้บริการแค่ห้อง แอร์และอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้าอบรมประมาณ 100 คน เท่านั้น และระหว่างการอบรมไม่เรียกใช้บริการจากเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทแต่อย่างใด แม้ว่าบางครั้งพนักงานจะเข้าสอบถามความต้องการของผู้เข้าร่วมประชุม เช่นการบริการน้ำ แต่พอเปิดประตูเข้าไป ทุกคนในห้องจะเงียบจนเป็นที่ผิดสังเกต ซึ่งข้อมูลตรงกับพยานที่แจ้งไว้ว่ามีการฝึกซ้อมการใช้โทรศัพท์ การซุกซ่อนโทรศัพท์ และการรับสัญญาณข้อสอบในการสอบครูผู้ช่วยที่สถานที่แห่งนี้ โดยผู้เข้าฝึกจะต้องจ่ายค่ามัดจำก่อนคนละ 7,000 บาท
ทั้งนี้ วันที่ 13 มี.ค.ดีเอสไอและพนักงานสอบสวน จะเดินทางไปสอบปากคำผู้ที่ยึดเครื่องโทรศัพท์มือถือที่นำเข้าไปในห้องสอบได้ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในขบวนการ อาจจะเชื่อมโยงกับขบวนการกลุ่มนี้หรือไม่ก็อาจจะเกี่ยวกับกลุ่มอื่น ซึ่งขณะนี้พบว่ามีอย่างน้อย 3 กลุ่มใหญ่ ที่มีวิธีการเหมือนกัน ตั้งแต่ใช้สถานที่โรงแรมตามจังหวัดต่างๆเป็นที่ฝึกการใช้โทรศัพท์ ติดต่อจ่ายค่ามัดจำก่อน เมื่อสอบได้นัดจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินสดเท่านั้น เฉลี่ยรายละ 3-5 แสนบาท พร้อมกับผู้สอบจะนำเครื่องโทรศัพท์ไปคืนให้กับผู้ติดต่อด้วย ทุกกลุ่มอาจจะเชื่อมโยงกัน
"มั่นใจว่าการสอบครูครั้งนี้มีการทุจริต แต่ยังไม่มีการกล่าวหาใคร เพียงแต่จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเสนออธิบดีในวันที่ 18 มี.ค จะได้นำหลักฐานให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณายกเลิกการสอบ เพราะมีจำนวนหลายคนที่อยู่ในภาคอีสานแต่ไปสอบบรรจุที่ภาคใต้และได้คะแนนเต็มหรือได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 นอกจากนี้จะได้มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการฯเพื่อพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ต่อไป "นายธารินทร์ กล่าว
มีรายงานว่า เบื้องต้นจะมีการสรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเสนอนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ภายในกำหนดวันที่ 18 มี.ค.จากนั้นจะเชิญนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช มาร่วมแถลงข่าวกับดีเอสไอ ในวันพุธที่ 20 มี.ค.ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในงาน "เว้นเดย์มีตติ้งเพรส" พร้อมกับจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 29 มี.ค.เพื่อเข้าสอบสวนดำเนินคดีกับขบวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วยต่อไป
วันเดียวกัน นายเจษฎา เทพเลื่อน ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นภาคใต้ตอนบน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ทั้ง 9 คน กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งน.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวะศึกษา ที่พัวพันกรณีการทุจริตคุรุภัณฑ์อาชีวศึกษาจำนวน 5,300 ล้านบาท ให้ดำรงตำแหน่งอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริตโดยใช้กลไกทางการศึกษา (อนุกรรมการป.ป.ช.) ถ้าตรวจสอบแล้วผิดจริงให้ส่งเรื่องไปยังวุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนออจากตำแหน่ง และถ้าพบว่ามีการสมยอมกันเรื่องคดีหรือถ่วงคดี ให้รวบรวมหลักฐานเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ทั้งนี้นายเจษฎา กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้เคยตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงน.ส.ศศิธารา หลายชุดและมีข้อสรุปตรงกันว่า มีการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะจริง โดยซื้อแพงกว่าความเป็นจริงถึง 4 เท่าตัว ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีมติชี้มูลความผิดและส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป.ป.ช.ตั้งแต่เดือนต.ค.55 โดยป.ป.ช.ได้ตั้งให้นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. เป็นผู้สอบคดีนี้ แต่ในเดือนธ.ค. 55 ป.ป.ช.กลับตั้งน.ส.ศศิธารา เป็นหนึ่งในอนุกรรมการป.ป.ช. ซึ่งจะเท่ากับว่าคณะกรรมการป.ป.ช. ร่วมสนับสนุนผู้ที่ป.ป.ช. กำลังถูกสอบสวนในฐานทุจริตต่อหน้าที่ทางราชการ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นถึงอนุกรรมการป.ป.ช. ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ชาติใช่หรือไม่
“ถ้าใช่ต่อไปป.ป.ช.ก็ควรที่จะตั้งผู้มีความรู้ในทางทุจริต เช่นนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดคมนาคม พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. เป็นคณะกรรมการป.ป.ช.หรืออนุกรรมการป.ป.ช. เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคม” นายเจษฎา กล่าวอย่างเหน็บแนม
ด้านนายรักษเกชา กล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบคำร้องว่าอยู่ในอำนาจของผู้ตรวจหรือไม่ และครั้งนี้เป็นการให้ตรวจสอบจริยธรรมและถอดถอนป.ป.ช. ทางผู้ตรวจการแผ่นดินคงต้องไปตรวจสอบประมวลจริยธรรมของป.ป.ช. ว่าหากเป็นการถอดถอนป.ป.ช.ผู้ตรวจต้องยื่นเรื่องไปที่ใด
ด้านนายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. กล่าวกรณีนี้ว่า คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ป.ป.ช.กับกระทรวงศึกษาธิการ ตามแผนยุทธศาสตร์ว่าด้วยการปราบปรามทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างค่านิยมทัศนคติให้กับนักเรียน ดังนั้นคณะกรรมการชุดดังกล่าวเป็นการเสนอชื่อมาจากกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้เป็นผู้เลือก จึงถือว่าเป็นคนละประเด็นกับการไต่ส่วนกรณีทุจริต.
กำลังโหลดความคิดเห็น