เครือข่ายบ้านมั่นคงกาญจน์บุกศาลากลางร้องใช้ที่ดินกรมธนารักษ์ดำเนินโครงการบ้านมั่นคง

กาญจนบุรี - เครือข่ายบ้านมั่นคงท่าล้อ-ปากแพรกกว่า 100 คน บุกศาลากลางกาญจนบุรี เรียกร้องขอใช้ที่ดินกรมธนารักษ์ที่หน่วยงานภาครัฐไม่ใช้ประโยชน์ ดำเนินโครงการบ้านมั่นคง หลัง พอช.อนุมัติงบประมาณเมื่อปี 2555

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (10 มิ.ย.) น.ส.ยุภา จารุณ แกนนำเครือข่ายบ้านมั่นคงจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเครือข่ายบ้านมั่นคงตำบลปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และเครือข่ายบ้านมั่นคงตำบลท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กว่า 100 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นหนังสือเรียกร้องขอใช้ที่ดินกรมธนารักษ์ที่หน่วยงานภาครัฐไม่ใช้ประโยชน์ ดำเนินโครงการบ้านมั่นคง หลัง พอช.อนุมัติงบ เมื่อปี 55 โดยมีนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ

น.ส.ยุภา จารุณ แกนนำกล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดกายจนบุรี ให้มาช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับคนยากจนที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้ เราติดเพียงปัญหาเรื่องที่ดินเท่านั้น ซึ่งที่ดินนั้นเป็นที่ของรัฐที่มีกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล แต่กรมธนารักษ์มอบสิทธิให้กรมการปกครองเป็นผู้ดูแลพื้นที่ในส่วนของตำบลท่าล้อ อ.ท่าม่วง ในส่วนพื้นที่บริเวณตำบลปากแพรก กรมธนารักษ์มอบให้ทหารเป็นผู้ดูแล แต่ปัจจุบันที่ดินที่บริเวณตำบลท่าล้อ กรมการปกครองก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งที่ดินในพื้นที่ตำบลปากแพรก ทหารเองก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วเช่นกัน จึงกลายเป็นที่ดินว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร

ดังนั้น พวกเราทุกคนที่เป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นครอบครัวที่มีฐานะยากจนมีรายได้น้อย จึงรวมตัวตั้งเครือข่ายบ้านมั่นคงขึ้นมา เพราะเรามองเห็นว่าหน่วยงานภาครัฐทำไมไม่ลงมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยให้แก่พวกเรา ที่ผ่านมา พวกเราเครือข่ายบ้านมั่นคงได้รวมตัวกันขึ้นมาเพื่อเรียกสิทธิให้กับตนเองมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับอนุมัติโครงการ บ้านมั่นคงทั้งสิ้น 12 ชุมชน รวม 2,105 ครัวเรือน มีพื้นที่รูปธรรมที่ดำเนินงานแก้ไขปัญหาผู้เดือดร้อนแล้ว 4 ชุมชน มีผู้รับผลประโยชน์ 294 ครัวเรือน ส่วน 6 ชุมชน อยู่ระหว่างการดำเนินงาน และอีก 2 ชุมชน คือ ชุมชนริมดอย และชุมชนรวมใจ มีปัญหาติดขัดในการดำเนินงานเรื่องการขอใช้ที่ดินจากกรมธนารักษ์ ทำให้การพัฒนาของผู้เดือดร้อนนั้นเกิดความล่าช้า โดยทั้ง 12 ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 6 ของตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง ซึ่งบ้านมั่นคงทั้ง 12 ชุมชน ได้รับการอนุมัติงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2555 ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และเหลือเวลาในการดำเนินการพัฒนาชุมชนอีกเพียงแค่ประมาณ 3 เดือน ก็จะครบวาระ หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะถูกเรียกงบประมาณดังกล่าวคืน

และหลังจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) อนุมัติงบประมาณมาให้ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2555 เรามีแผนการทำงานโดยมีการเชื่อมโยงผู้เดือดร้อนที่มีปัญหาร่วมกัน ได้พร้อมใจการลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาของตนเองในรูปแบบเครือข่าย และเกิดการเป็นเจ้าของปัญหาร่วมกันทำให้การทำงานที่ผ่านมาในเรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัย ตรงกับความสามารถของผู้ที่มีรายได้น้อย และสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังเชื่อมโยงกับปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย และเรื่องที่ดินทำกิน เรื่องการจัดสวัสดิการโดยชุมชน ทำให้เกิดกองทุนการพัฒนาระดับเมืองขึ้น และปัจจุบันปัญหา และอุปสรรคที่พบคือ หน่วยงานภาครัฐไม่ลงมาช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินให้แก่พวกเรา

ดังนั้น ข้อเรียกร้องของพวกเราคือ ขอให่จังหวัดเรียกหน่วยงานราชการที่ขอใช้ที่ดินธนารักษ์ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมาประชุมชี้แจงเรื่องการใช้ที่ดินของหน่วยงานนั้นๆ และปัจจุบันยังมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือไม่ และขอให้จังหวัดกาญจนบุรีมีคำสั่งให้หน่วยงานภาครัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้วส่งคืนพื้นที่ให้แก่ทางกรมธนารักษ์ เพื่อให้ทางโครงการบ้านมั่นคงสามารถแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป และให้มีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อยโดยให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นประธาน และให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเลขาฯ ร่วมกับเครือข่ายบ้านมั่นคงจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องให้พวกเราทั้ง 3 ข้อ ภายใน 3 วัน หากไม่เช่นนั้นเราจะกลับมาเรียกร้องจนกว่าจะประสบผลสำเร็จต่อไป

ด้านนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายบ้านมั่นคง ว่า หลังจากรับทราบข้อมูลรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ดินที่เครือข่ายบ้านมั่นคงต้องการใช้ที่ดิน และหลังจากทราบปัญหาแล้ว ตนจะเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายบ้านมั่นคงทั้ง 3 ข้อโดยเร็ว และภายใน 3 วัน จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวมาประชุมหาทางแก้ไขร่วมกัน โดยจะตั้งคณะกรรมการจากผู้แทนของประชาชน จำนวน 8 คน เข้าร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับรองว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรีให้ความสำคัญกับประชาชนผู้มีรายได้น้อย หากสามารถนำที่ดินของกรมธนารักษ์ที่ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปใช้ประโยชน์ ก็จะสามารถทำให้ชุมชนมีการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น