xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.งบฯ 57 ติง สธ.ใช้งบฯ ส่งเสริม-ป้องกันเพื่อผลทางการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิทยา บุรณศิริ (แฟ้มภาพ)
คณะกรรมาธิการงบประมาณฯ ปี 57 ประชุมพิจารณางบฯกระทรวงสาธารณสุข ติงงบฯส่งเสริมและป้องกันบางพื้นที่ ใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ขณะที่ส่วนใหญ่หนุนให้ได้เงินเพิ่ม อ้างเป็นหน่วยงานดูแลสุขภาพประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 มีนายวิทยา บุรณศิริ รองประธานกรรมาธิการ เป็นประธานการประชุม วันนี้ (14 มิ.ย.) ได้พิจารณางบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของงบประมาณสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,444,885,400 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดบริการสุขภาพให้ประชาชนมั่นใจ ดำเนินการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้า สนับสนุนการพัฒนาการบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ บริหารเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และเสริมสร้างความเท่าเทียมกันระหว่างกองทุนอื่นๆ ทางด้านสิทธิประโยชน์การให้บริการ

นพ.วิชัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการว่า มีความตั้งใจที่จะพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใดก็ได้นั้น ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และมีปัญหาน้อยลง พร้อมกันนี้ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ทำหน้าที่จัดการระบบบูรณาการเบิกจ่ายเงินจากกรมบัญชีกลาง และจะให้ความสำคัญในการดูแลและเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยโรคมะเร็งให้มากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาให้ความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี รวมถึงจะบริหารจัดการสวัสดิการขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นด้วย

นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ กรรมาธิการได้สอบถามในที่ประชุมว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงงบประมาณในการส่งเสริมและป้องกันว่ามีบางท้องถิ่นได้นำงบฯ จำนวนนี้ไปใช้ผลประโยชน์ทางการเมือง โดยให้ผู้นำท้องถิ่นไปทัศนศึกษา ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับผลประโยชน์จากงบฯดังกล่าวอย่างแท้จริง จึงอยากให้มีการติดตามตรวจสอบปัญหาดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นางวราภรณ์ ตั้งภากร และนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ ในฐานะทีมโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2557 แถลงถึงความคืบหน้าการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมาธิการส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงสาธารณสุขน่าจะได้งบประมาณมากกว่านี้ เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสุขภาพของประชาชน อีกทั้งต้องเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยการจัดทำงบประมาณในปี 2257 ได้เพิ่มให้กับ 2 หน่วยงาน คือ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพของภูมิภาค

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังมีการประชาสัมพันธ์เบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1669 ของกรมการแพทย์ฉุกเฉินด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการขอความช่วยเหลือ


กำลังโหลดความคิดเห็น