กมธ.ชำเรา รธน.ตื่นไฟ เสนอ ส.ว.สรรหาห้ามขยับ อ้างกลัวม็อบถอด “ยิ่งลักษณ์”

การประชุม กมธ.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซีกเพื่อไทยตื่นไฟ เสนอห้าม ส.ว.สรรหาถอดถอน-แต่งตั้ง ระหว่างที่ ส.ว.เลือกตั้งหมดวาระปี 57 “สุนัย” จินตนาการบรรเจิด เดี๋ยวม็อบมายื่นถอดถอนยิ่งลักษณ์เดี๋ยวจะลักไก่พิจารณาได้เลย ด้าน “ชินวรณ์” ดักคอ เสนอห้าม ส.ส.-ส.ว.ชุดนี้ลงเลือกตั้ง 2 ปี ขจัดส่วนได้เสีย

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... มาตราที่ว่าด้วยการแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประธาน กมธ.เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระการประชุมได้มีการพิจารณาทบทวนในมาตรา 10 คือ เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขบังคับใช้ ให้ ส.ว.ทั้ง ส.ว.เลือกตั้งและสรรหา สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ แต่หากมีเหตุตำแหน่งว่างลงก่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ต้องดำเนินการเลือกตั้งซ่อม แต่ พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นเสน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ได้เสนอให้เพิ่มข้อความในมาตราดังกล่าว เพื่อจำกัดกรอบหน้าที่ของ ส.ว.สรรหาที่ยังอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระได้ ให้ไม่อาจพิจารณาถอดถอนหรือแต่งตั้งบุคคลในการดำรงตำแหน่งตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ จนกว่าจะได้ ส.ว.ชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข

นายสามารถ กล่าวว่า ในวันที่ 2 มี.ค. 2557 ส.ว.เลือกตั้งจะครบวาระดำรงตำแหน่ง ทำให้วุฒิสภาจะมีเพียง ส.ว.สรรหา จำนวน 75 คนที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไปอีก 3 ปี ดังนั้นข้อห่วงใยของ พล.ต.อ.วิรุฬ ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านระบบ ส.ว.ที่ไม่อยากให้ ส.ว.สรรหา ทำงานในภารกิจสำคัญ จึงต้องมีการตีกรอบอำนาจหน้าที่ไว้ โดย กมธ.เห็นด้วยกับข้อเสนอของ พล.ต.อ.วิรุฬ รวมถึง ส.ว.ที่เข้าร่วมการประชุม อาทิ นายสุรจิต ชิรเวทย์ ส.ว.สมุทรสงคราม, นายมงคล ศรีคำแหง ส.ว.จันทบุรี ที่จะให้ชะลอการพิจารณาการถอดถอนหรือแต่งตั้งบุคคลจนกว่า ส.ว.เลือกตั้งจะเข้ามาทำหน้าที่

ทางด้านนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการจำกัดกรอบดังกล่าว เพราะช่วงที่มีเพียง ส.ว.สรรหาทำหน้าที่นั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากมีการชุมนุมและมีการยื่นให้พิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือถอดถอนบุคคลสำคัญ แล้ว ส.ว.จะลักไก่พิจารณาถอดถอนได้เลย ซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้องเพราะอำนาจถอดถอนของ ส.ว.สรรหาไม่ได้มาจากอำนาจของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานในการพิจารณาดังกล่าว ได้มีการปรับแก้ถ้อยคำเพิ่มเติมกันอยู่หลายรอบ จนต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาในส่วนของถ้อยคำ ในท้ายสุดได้ข้อสรุป ว่า ให้นำข้อเสนอของ พล.ต.อ.วิรุฬ ไปต่อท้าย ในมาตรา 12 เรื่องการจำกัดอำนาจของ ส.ว.ชุดปัจจุบัน ในระหว่างที่ ส.ว.เลือกตั้งชุดที่มีอยู่นี้หมดวาระลง โดยให้ช่วงที่รอการเลือกตั้ง ส.ว.ชุดใหม่ ตามรัฐธรรมฉบับแก้ไขนี้ โดยเพิ่มเติมวรรคสองเข้ามา มีถ้อยคำ ว่า “เมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งวุฒิสภาเป็นการทั่วไป ตามวรรคหนึ่งแล้ว วุฒิสภาตามมาตรา 10 จะปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการพิจารณาให้บุคคลให้ดำรงตำแหน่ง หรือถอดถอนบุคคลใดออกจากตำแหน่ง ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมิได้ จนกว่าสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งทั่วไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่”

ทั้งนี้ กมธ.เสียงข้างน้อย ได้ขอสงวนคำแปรญัตติกันอยู่หลายคน อาทิ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้สงวนความเห็นในมาตรา 13 ว่าด้วยสมาชิกภาพของ ส.ว.เลือกตั้งและสรรหาที่มาก่อนรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้ โดยขอเพิ่มเติมถ้อยคำในวรรคสาม ดังนี้ “เพื่อประโยชน์แห่งการขจัดส่วนได้เสีย ห้ามมิให้ ส.ส. และ ส.ว.ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญนี้ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันพ้นจากตำแหน่ง”

จากนั้น นายสามารถ ได้นัดการประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 28 พ.ค.เพื่อทบทวน และให้ กมธ.ที่ได้สงวนคำแปรญัตติ ชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจะเชิญ ส.ส.ที่ได้เสนอคำแปรญัตติมาชี้แจงเหตุผลต่อ กมธ.อีกครั้ง หลังจากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557