xs
xsm
sm
md
lg

“เต้น” ยอมจำนำข้าวเจ๊งเพื่อชาวนา ดื้อลุยต่อพร้อมตระเวนแจง โยน กขช.ไข้ข้อข้องใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.พาณิชย์(แฟ้มภาพ)
“ไพร่เทียม” ย้ำชาวนาพอใจจำนำข้าว ลั่นลุยต่อ เตรียมเดินสายแจง ท่องบทปัดปกปิดตัวเลขขาดทุน อ้างยังไม่ได้ข้อยุติ โยน กขช.ถกข้อสรุป เผยไต๋โครงการเจ๊งไม่เป็นไร ขอแค่เงินถึงมือชาวนาพอ ติง “กรณ์” แฉเอกสาร บี้ปล่อยตามกระบวนการ เชิดชูจำนำข้าวทำชาวนาลืมตาอ้าปาก ไม่ล้มเหลวโกงมีตรวจสอบ เชื่อกระดูกสันหลังชาติหนุน พร้อมทำตามสั่งหากปรับ ครม.

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสการขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักคือเกษตรกรชาวนาและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการมีการส่งตัวแทนเข้ามาสังเกตการณ์ในโครงการอย่างครบถ้วน และเมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) ตนมีโอกาสสนทนากับตัวแทนชาวนาซึ่งได้ข้อสรุปตรงกันว่าเกษตรกรชาวนาตัวจริงมีความพึงพอใจกับการเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวและพร้อมสนับสนุนในการดำเนินโครงการต่อไป ดังนั้นโครงการในรูปแบบนี้จะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องและครั้งต่อไปตนจะมีโครงการสัญจรรับฟังความคิดเห็นของชาวนาที่ จ.อุบลราชธานี ในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรและมีการนำข้าวเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากและจะเดินสายไปยังจังหวัดในภาคกลาง โดยยึดหลักในการที่จะจัดในพื้นที่ที่มีการนำเข้ารับจำนำข้าวเป็นจำนวนมากก่อน

รมช.พาณิชย์กล่าวต่อว่า เรื่องตัวเลขที่เป็นงบประมาณที่รัฐบาลนำไปอุดหนุนรายได้ของชาวนาไม่ใช่เรื่องความลับและรัฐบาลไม่มีเจตนาจะปกปิด แต่กระบวนการทำงานยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะไปตอบรับตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งไม่ได้ คณะอนุกรรมการปิดบัญชีเมื่อทำงานแล้วจะต้องส่งเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และเมื่อเห็นชอบตัวเลขใดแล้วจึงจะได้ผลสรุปที่เป็นการรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินโครงการ และเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะเดินหน้าต่อโดยการปิดลับข้อมูลเหล่านี้ ทุกอย่างจะต้องเปิดเผย เพียงแต่กระบวนการยังไม่ยุติ เหตุที่มันยุ่ง เพราะมีคนบางกลุ่มไปหยิบเอาตัวเลขและอ้างว่าเป็นรายงานของอนุกรรมการปิดบัญชี จึงกลายเป็นความสับสน จะต้องรอว่าการประชุมกขช.ที่จะประชุมกันในสัปดาห์นี้แล้วมีข้อยุติอย่างไรประชาชนก็จะได้รับข้อสรุป

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนเชื่อว่าตั้งแต่มีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลทุกชุด ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนมีผลกำไรอยู่แล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวก็ไม่มีเป้าหมายเพื่อผลกำไรอยู่แล้ว ดังนั้นคำว่ากำไรหรือขาดทุนจึงไม่ใช่ผลสำเร็จของโครงการ แต่ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการคือเม็ดเงินที่รัฐบาลใช้ไปถึงมือเกษตรกรชาวนาซึ่งเป็นคนระดับล่างมากน้อยแค่ไหน และเกิดพัฒนาการทางเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศอย่างไร ในชั้นนี้ 6 แสนกว่าล้านที่โอนตรงจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึงบัญชีชาวนาก็เห็นผลแล้วว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องมีเม็ดเงินงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ก็ทำให้การบริโภคจากระดับฐานล่างมีการหมุนเวียน มีการสูบฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและมีความแข็งแรงของเศรษฐกิจอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนตัวเลขว่ามีการนำงบประมาณชดเชยในโครงการเท่าไหร่นั้นก็เป็นเรื่องที่จะต้องอธิบายต่อประชาชนอีกครั้งหนึ่งเมื่อทุกขั้นตอนยุติ ส่วนข้าวที่เข้าโครงการนั้นจะมีการขายไปกับใครหรือกระจายไปที่ไหนบ้างนั้น เป็นเรื่องของคณะทำงานเรื่องการระบายข้าว ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปดูในส่วนนั้น แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาคณะทำงานกลุ่มนี้จะออกมาให้ข้อมูลเอง

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหลังจากการประชุม กขช.ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้จะมีความชัดเจนขึ้นและยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนรายงานที่มีการอ้างถึงนั้นมีการลงนามในวันที่ 23 พ.ค. และต้องผ่านที่ประชุม กขช.ก่อนหลังจากนั้นจึงจะมีข้อสรุปออกมา ซึ่งหนังสือรายงานดังกล่าวนั้นมีการตีตราลับ แต่นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กลับมีการโพสต์ลงเฟซบุ๊กลงตัวเลขของรายงานฉบับนั้นในวันเดียวกับที่มีการลงนามของประธานอนุกรรมการ จึงมีความสับสน ควรจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันการจัดเวทีโครงการจำนำข้าวสัญจรนั้นไม่ได้เป็นการซื้อเวลา แต่เป็นการสื่อสารความเข้าใจเพราะโครงการจำนำข้าวไม่ได้มีเพียงเรื่องตัวเลขกำไรขาดทุน แต่มีการโจมตีในหลายแง่มุม จึงต้องมีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหลักให้มีความเข้าใจและมีข้อเท็จจริงที่ตรงกันและหลังจากที่มีการชี้แจงแล้วปฏิกิริยาที่กลับมาก็เป็นไปในทางบวกและตนก็ทำหน้าที่ชี้แจงตามบทบาทหน้าที่ของตน

“ผมยืนยันว่านโยบายจำนำข้าวไม่ใช่ข้อผิดพลาด แล้วนโยบายจำนำข้าวเกิดประโยชน์แท้จริงกับชาวนา นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ดำเนินการแล้วพี่น้องชาวนาเห็นอนาคตตัวเอง ลืมตาอ้าปากได้ ส่วนการบริหารจัดการจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องอธิบายให้ความชัดเจนกันต่อไป ถ้าถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตก็ต้องมีการตรวจสอบ พบเห็นก็ต้องมีการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด แต่โดยตัวหลักคิด หลักนโยบาย ผมยืนยันว่าโครงการนี้ชาวนาส่วนใหญ่แทบ100 เปอร์เซ็นของประเทศขานรับแน่นอน” นายณัฐวุฒิกล่าว

ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์เนื่องมาจากโครงการจำนำข้าวนั้น นายณัฐวุฒิระบุว่า ตนยังไม่ทราบกระแสข่าว แต่ตนเป็นคนทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเหมือนนักฟุตบอลที่ผู้จัดการทีมบอกว่าให้ลงเล่นนาทีที่เท่าไหร่ก็ต้องลง บอกว่าออกมาพักนาทีที่เท่าไหร่ก็ว่าไปตามนั้น ตนคงไม่ไปก้างล่วงดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี


กำลังโหลดความคิดเห็น