xs
xsm
sm
md
lg

“อุเทน” ชี้ รบ.ไม่ฟังจำนำข้าวเจ๊ง ติงจัดการน้ำเละพอกัน ท้อสื่อไม่ช่วยปกป้องชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานศปภ.(แฟ้มภาพ)
อดีต ปธ.ศปภ.เปรียบ “ธงทอง” แถลงคัดกลุ่มเพื่อประมูลจัดการน้ำ เหมือนรายการอาหารที่จัดฉาก ยั่วคนดูได้แต่กินไมได้ ย้ำโครงการทำชาติเสียหายหนัก แม่น้ำเจ้าพระยาลดกระทบ ปชช. รับท้อร่อน จม.เตือนนายกฯ ยังนิ่ง ติงสื่อสมัยนี้คุณภาพแย่ ไม่ศึกษาเพื่อรักษาประโยชน์ชาติ ชี้เรื่องใหญ่ไม่แพ้จำนำข้าว ขอศึกษาช่องลุยต่อ เผยเตือน พท.ขาดทุนจำนำข้าวแต่รั้น ตอกพวกได้ประโยชน์คอยหนุน แจงไม่รัดกุมทำเสียหาย

วันนี้ (9 มิ.ย.) นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการประธานผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวถึงกรณีที่นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย หรือโครงการน้ำตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท จะแถลงผลการจัดพิจารณาคัดเลือกกลุ่มบริษัทเอกชนที่จะผ่านเข้าไปในรอบของการเปิดซองราคาในวันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ว่า การถ่ายทอดสดที่จะเกิดขึ้นก็จะเปรียบเสมือนรายการทำอาหารรายการหนึ่ง ที่มีบทพูดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว มันสามารถยั่วน้ำลายคนดูได้ แต่กินไม่ได้จริง เพราะเป็นเพียงแค่การแสดงที่มีการจัดฉากเอาไว้ ซึ่งตนขอยืนยันว่าโครงการนี้จะทำให้ประเทศชายเสียหายอย่างหนัก และจะมีการสูญเสียทรัพย์ของแผ่นดินไม่ว่าจะเป็น ดิน หรือการผันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำทะเลหหนุน และส่งผลต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน เพราะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าผลที่ได้จากการยื่นจดหมายเสนอถึงแนวทางโครงการน้ำ ถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง นายอุเทนกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ผมยอมรับว่าเริ่มรู้สึกท้อ เรื่องนี้มีความคืบหน้ายาก เพราะไม่มีผู้สื่อข่าวสักคนที่จะซักถามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กบอ.หรือบริษัทผู้รับเหมาในโครงการ ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่มีใครตอบได้ อาจจะเป็นเพราะว่าสื่อเข้าใจเรื่องนี้น้อยมาก เพราะเป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครมองเห็น ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง จากเอกสารที่ตนส่งไป ถ้ามีคนเอาไปศึกษาก็จะช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติไว้ได้อีกมาก

“ผู้สื่อข่าวหน้าใหม่ๆ สมัยนี้คุณภาพแย่จากแต่ก่อนมาก คนที่ทำข่าวก็ทำต่อไป ส่วนคนที่นั่งก๊อบปี้ข่าวเขาก็ยังทำต่อไป จึงไม่ได้เกิดการพัฒนา จริงๆ ผมไม่ได้สนใจที่จะได้ออกสื่อโทรทัศน์ แต่ผมให้ความสำคัญกับสื่อหนังสือพิมพ์ เพราะการถ่ายทอดจากตัวหนังสือของผู้เขียนที่เข้าใจเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้จะสามารถทำให้ผู้อ่านเกิดอรรถรสและเข้าใจเรื่องดังกล่าวตามได้” นายอุเทนกล่าว

นายอุเทนกล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนจะแถลงข่าวหรือยื่นหนังสือไปที่ใดก็คงไม่เกิดประโยชน์ เพราะไม่มีใครสนใจ หรือเอาเรื่องนี้ไปเล่นก็เล่นแบบกล้าๆ กลัวๆ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นสมบัติของชาติ แต่กลับถูกเอาไปปู้ยี่ปู้ยำ และไม่รู้ว่าจะโดนเอาไปขายให้ใครต่อหรือไม่ อย่างโครงการก่อสร้างทางผันน้ำฝั่งตะวันตกของเจ้าพระยาที่กำหนดไว้มีความยาว 300 กิโลเมตรนั้นจะมีความกว้าง ความลึก และมีความลาดเอียงเท่าไร รวมทั้งปริมาณดินที่ขุดออกจากพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดมีปริมาณเท่าไร และจะนำดินเหล่านั้นไว้ที่ไหนและเป็นของใคร รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ไม่มีปรากฏในทีโออาร์ที่นำมาใช้ในการประมูลโครงการ

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า จากนี้ไปจะมีแผนในการเดินหน้าเริ่องนี้อย่างไร นายอุเทนกล่าวว่า ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเดินหน้าต่อไป หรือจะหยุดบ้าดี เพราะตอนนี้ดูเหมือนเป็นคนที่บ้าอยู่คนเดียว แต่ก็คิดแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ได้แพ้โครงการจำนำข้าวเลย จึงกำลังศึกษาเรื่องเกี่ยวข้องข้อกฎหมายในประมวลกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าว พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน ประมาณ 11 ข้อ และจะรอจังหวะที่จะยื่นเรื่องนี้ผ่านทางช่องทางใดช่องทางหนึ่งที่มีอำนาจในการจัดการได้ หรืออีกแนวคิดหนึ่งก็จะเดินสายไปตามสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อให้ข้อมูลถึงสำขักข่าวเลย ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ได้

นายอุเทนกล่าวถึงกรณีโครงการรับจำนำข้าวว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการกำหนดนโยบาย ตนเคยพูดกับคนในพรรคเพื่อไทยแล้วว่า ให้ระวังข้าวจากประเทศอินเดียและเวียดนามที่มีข้าวจำนวนมาก และไม่จำเป็นจะต้องกำหนดราคาให้ถึง 1.5 หมื่นบาทต่อตัน เพียงแค่เราเพิ่มจากเดิมสัก 2,000 บาท ชาวนาก็ดีใจแล้ว รัฐบาลก็จะไม่ต้องแบกรับภาวะขาดทุนมหาศาลด้วย แต่กลับไม่มีใครเชื่ออ้างกันแต่ว่า ประกาศหาเสียงไปแบบนี้แล้ว สุดท้าย 2 เรื่องที่ตนเสนอะแนะนำไปกำลังจะทำให้รัฐบาลไปไม่รอด

นายอุเทนกล่าวต่อว่า รัฐบาลเสียหายสิ้นเปลืองงบ แต่มีคนได้ประโยชน์ ด้วยผลประโยชน์ที่แตกต่างกันคือ จำนำข้าวชาวนาได้ผลประโยชน์มากกว่าเดิมรัฐฯเสียหายมากเพราะกระบวนการรับจำนำไม่ดีพอมี ช่องโหว่มากทุกขั้นตอนจึงเกิดความสูญเสียสร้างความเสียหาย บางคนสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล และต่อว่าคนที่บอกว่าการจำนำข้าวขาดทุน หาว่าดีแต่พูดค้าน ตนคิดว่าพวกที่สนับสนุนก็เพราะเป็นพวกขายข้าวถุง ไม่ต้องมีไซโลเก็บไม่ต้องลงทุนมากไม่เสี่ยงข้าวเสียหาย เพราะรัฐบาลรวมข้าวสต็อคข้าวเอาไว้ให้ ถึงเวลาจะใช้ก็ไปประมูลเอามา ตนรู้ว่าระบบจำนำดีกว่าประกันข้าว แต่ตอนนี้ที่เสียหายเป็นเพราะกระบวนการจำนำ ที่รัฐบาลทำนั้นมันไม่รัดกุม มันรั่วไหลมีจุดอ่อนมากมายเช่น พื้นที่ปลูก การประเมินผลผลิตข้าว จึงรั่วไหล ไม่ตรงตามจริง เช่นเดียวกับโครงการแก้ปัญหาน้ำ 3.5 แสนล้านนั้น ประชาชนทั่วไปและประเทศชาติไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง แต่จะมีคนกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์


กำลังโหลดความคิดเห็น