เป็นฉันมันผิดตรงไหน รองนายกฯ ขอโทษพูดหยาบไม่เข้าหู แถใช้ภาษาโบราณ เหตุพูดเล่นกับคนกันเอง รับจะระวังปาก โอดที ปชป.พูดหยาบคนไม่สนใจ ชิ่งหน้ากากขาวบุกทำเนียบไล่ อ้างติดงานศพที่เชียงใหม่ ยันไม่ไปแจงโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านแก่ ป.ป.ช.อ้าง เผาศพ “พ่อสุพจน์” ส่ง “ธงทอง” ไปแทน
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เดินทางไปปราศัยในการจัดเวที “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยพรรคเพื่อไทย ณ โรงยิมเนเซียม 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเนื้อหา และคำพูดที่ไม่เหมาะสมว่า ไม่เห็นมีอะไรก็เห็นเขาปราศรัยกันแบบนี้ เป็นการปราศรัยกับคนเสื้อแดงอย่างที่เคยพูดเล่นกัน ก็พูดกันอย่างนี้ทุกที ไม่ได้พูดกลางแจ้งอะไร อาจจะให้คำศัพท์โบราณสักหน่อย และทำไมนายอดิศร เพียงเกษ ที่พูดก่อนตนก็พูดเหมือนตนทำไมไม่เห็นใครไปว่าอะไรเลย
“ใครฟังแล้วไม่เข้าหูก็ขอโทษที่พูดยังงั้น ที่ทำให้หูไม่สบายใจ แต่ที่พูดมันเป็นเนื้อหาจริงๆ นะ ยืนยันว่าถ้อยคำก็ไม่ได้รุนแรงอะไร และยืนยันว่าไม่ได้พูดคำว่าเหี้ย ผมบอกว่าผมคิดในใจไม่กล้าพูดกลัวเขาจะฟ้อง ผมเป็นคนพูดเองอัดเทปเองว่าผมไม่กล้าพูดผมคิดในใจ” นายปลอดประสพ กล่าว
นายปลอดประสพ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีเป็นคนเหมือนพวกท่าน ไม่ได้มีอะไรหรอก ตนไม่เอาคำว่า “รองนายกรัฐมนตรี” มาเป็นเกณฑ์สำคัญ ตนก็เป็นตน ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะระมัดระวังหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “อ่ะๆๆ ระมัดระวังก็ได้ ฮ่าๆๆ” อย่างไรก็ตาม ท่านอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตยกตัวอย่างเพราะสนิทกัน ท่านก็เคยพูดขึ้นมึงขึ้นกูเหมือนตนในตอนที่มีตำแหน่ง ยังไม่เคยมีใครว่าอะไรเลย
“ผมก็พูดแบบนี้มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว มีอะไรใจก็พูดออกมาไม่มีจริตจะก้าน และนายกฯ ก็ไม่ได้สอบถามเรื่องนี้เพราะผมไปทำงานพรรค ส่วนจะมีผลต่อการปรับ ครม.หรือไม่ก็ไม่รู้ไม่เกี่ยว” นายปลอดประสพ กล่าว
เมื่อถามว่า บุคลิกแบบนี้ไม่กลัวหรอว่าจะมีผลต่อการปรับ ครม.รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่เกี่ยว อย่างไรก็ตาม คิดว่าแบบนี้คนเสื้อแดงเขาไม่ชอบหรอ เพราะเสื้อแดงเขาเป็นพวกเดียวกัน ไปพูดให้ฟังมันจะผิดอะไร และพูดให้พวกท่านไม่ชอบก็ไม่เห็นจะผิดอะไรเลย ดังนั้นไม่เกี่ยวกับการว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ใน ครม. และผมไม่พูดพวกท่านก็ไม่ชอบอยู่แล้ว”
รองนายกฯ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มหน้ากากขาว จะมาขับไล่หน้าทำเนียบฯในวันที่ 6 มิ.ย.นั้น ยังไงเขาก็ไม่ชอบตนอยู่แล้ว จะทำอะไรก็ตามวิถีทางของท่านเถอะ เขาตรงข้ามกับตนยังไงก็มาขับไล่อยู่แล้ว แต่ใส่หน้ากากแล้วไปกล่าวหาใครตนไม่แน่ใจว่า ตามกฎหมายแล้วถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น ทำไมไม่เปิดเผยหน้าเหมือนตน จะมาก็ขอให้เปิดเผย เห็นหน้าค่าตาจะปิดซ่อนเร้นทำไม
“พรุ่งนี้มาผมก็ไม่อยู่ เรื่องอะไรผมจะอยู่ เพราะผมจะไปร่วมพิธีเผาศพคุณพ่อของนายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ จ.เชียงใหม่ แต่ถึงอยู่ผมก็ไม่อยู่พบ เพราะมาพบก็คงมาด่าผมแน่ และก็คงสู้ไม่ไหวเพราะมาเยอะกว่า” นายปลอดประสพ กล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ใส่หน้ากากสู้เลยละ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นหิดเป็นเหาถึงจะต้องใส่ต้องปิดหน้าปิดตา ขนาดใส่แว่นตาดำไปในที่สำคัญเขายังไม่ให้ใส่เลยมันไม่สมควร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสัมภาษณ์นายปลอดประสพ หันมาคุยหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวแล้วถามว่า “มีหน้ากากสักอันไหมจะเอามาใส่” เมื่อถูกถามว่าหน้ากากอะไรดี นายปลอดประสพ ตอบว่า “หน้ากากเสือก็เข้าท่านะ แต่กำลังจะไปหาหน้ากากอินทรีแดงมาใส่ แต่ยืนยันว่า จะไม่ไปพบกลุ่มหน้ากากขาวแน่นอน ทั้งนี้ มันเป็นสีสันอย่าไปสนใจเลย
นายปลอดประสพ ในฐานประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนวันนำรายชื่อบริษัทที่ได้รับการพิจารณาดำเนินการในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 18 มิ.ย.ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคทั้งเรื่องของการเอกสารทางด้านเทคนิค ซึ่ง นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกฯ ได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วตลอดเวลา
ทั้งนี้ นายธงทอง รายงานมาแล้วว่าเอกสารอ่านเยอะ ไม่มีอะไร แต่ทุกอย่างก็เป็นไปทันเวลาป้องกันน้ำท่วมได้ ขณะเดียวกัน ในวันที่ 6 มิ.ย.ตนไม่ได้เดินทางไปหารือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะติดภารกิจต้องเดินทางไปร่วมงานศพบิดาของนายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ จ.เชียงใหม่
ประธาน กบอ.กล่าวว่า อย่างไรก็ตามยุโรปที่ว่าแน่ๆ ในหลายประเทศตอนนี้เจอแม่น้ำไรน์อาละวาดก็ท่วมเช่นกัน ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยาใหญ่กว่าตั้งเยอะ อยากจะบอกว่าท่านที่บอกว่าต้องใจเย็นๆ ต้องทำการศึกษา ต้องเรียนว่าขอให้เปิดทีวีดูข่าวต่างประเทศบ้าง