มาแล้วกับงานแฟร์สำหรับคนรักสัตว์ Pet Expo Thailand 2013 ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อ Pet Pirate "การผจญภัยที่เพื่อนจะทำให้คุณสนุกไปตลอดการเดินทาง" โดยมีกิจกรรมแบบครบรส ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเลือกซื้อสินค้า และบริการใหม่ ๆ เพื่อสัตว์เลี้ยง จากแบรนด์ชั้นนำที่คัดสรรทั้งคุณภาพในราคาพิเศษกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด รวมไปถึงโซนสัตว์เลี้ยงหลากหลายประเภทที่รวบรวมเอาไว้เกือบครบทุกชนิด
ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวชมงาน และถือโอกาสเก็บภาพเคลื่อนไหวของ 5 สัตว์หาดูยากมาฝากให้ชมกัน ส่วนจะมีสัตว์ประเภทใดบ้างนั้น ตามไปดูกัน
สุนัขจิ้งจอกทะเลทราย
พบในทะเลทรายซาฮาร่า ทวีปแอฟริกาตอนเหนือ เป็นสุนัขจิ้งจอกขนาดเล็ก โตเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 1.6 กิโลกรัม ออกลูกได้ครั้งละ 2-4 ตัว ใบหูขนาดใหญ่ช่วยให้ได้ยินเสียงต่าง ๆ ได้ดี ส่วนขนสีน้ำตาลเหมือนสีของทรายของช่วยให้อำพรางตัวได้ในทะเลทราย นอกจากนี้แล้วยังหนาต่างจากสัตว์ที่อยู่ในทะเลทรายจำพวกอื่น ๆ โดยขนจะทำหน้าที่สะท้อนความร้อนจากแสงแดดในเวลากลางวันออกไป ส่วนตอนกลางคืนก็ทำหน้าที่สะสมความอบอุ่นไว้เพื่อต่อสู้กับความหนาวเย็น เนื่องจากเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน สามารถนำมาเลี้ยงให้เชื่องได้
แมงมุมสายพันธุ์ทารันทูรา
แมงมุมทารันทูราเป็นแมงมุมดึกดำบรรพ์ จากการสำรวจพบว่าแมงมุมทารันทูรา มีมากกว่า 700 ชนิด ทารันทูราแต่ละชนิดมีความเป็นอยู่หลากหลาย บางชนิด อยู่ในพื้นที่กึ่งทะเลทรายบางชนิดอาศัยในป่าร้อนชื้น บางชนิดอาศัยในรู และบางชนิดอยู่บนต้นไม้ ทารันทูราล่าเหยื่อด้วยการกัดบางชนิดสามารถป้องกันตัวโดยการเตะขนที่ก้น เพื่อให้ปลิวไปถูกศัตรูเพื่อให้เกิดอาการคัน ดังนั้นไม่ควรจับเล่นแม้แต่แมงมุมที่คิดว่าเชื่อง
วิสคาซ่า ชินชิล่ายักษ์
พบในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศอาเจนตินา อาศัยตามทุ่งหญ้า Grass Land เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมฟันแทะ มีขนสีเทา หางยาว เคลื่อนที่กระโดดคล้ายกับกระต่าย ซึ่งมีบันทึกไว้ว่าวิสคาซ่าที่เลี้ยงมีอายุได้ถึง 19.5 ปีเลยทีเดียว
แมงป่องเรืองแสง
แมงป่องต่างจากสัตว์มีเปลือกแข็งอื่น ๆ คือ จะมีสารฟลูออร์เรสเซ็นต์สีเขียวภายใต้แสงอุลตราไวโอเล็ต (UV) ด้วยความเข้มแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของแมงป่อง แมงป่องช้างเองก็เรืองแสงเช่นเดียวกันเมื่อส่องด้วยแสง UV ที่ความยาวคลื่น 366 นาโนเมตร ให้แสงสีเขียวความเข้มสูง การเรืองแสงเกิดเนื่องจากสารชนิดหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด ฝังตัวอยู่เป็นชั้นบาง ๆ ในเปลือกของแมงป่อง
ปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าประโยชน์ของการเรืองแสงของแมงป่อง แต่คาดว่าแมงป่องเป็นสัตว์ที่ออกหากินกลางคืน ไม่ชอบแสงสว่าง การเรืองแสงจึงมีไว้เพื่อช่วยตรวจวัดระดับของแสงอุลตราไวโอเล็ต หรืออาจใช้ในการจดจำชนิดเพื่อการผสมพันธุ์ก็อาจเป็นได้
งูหลามเขียวต้นไม้
พบได้ในหลายพื้นที่ของเกาะนิวกินีตลอดจนหลายเกาะของอินโดนีเซียจนถึงรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย สามารถพบได้ทั้งในป่าพรุ ป่าดิบแล้ง ตลอดจนถึงพื้นที่ทำการเกษตร โดยสามารถพบได้จนถึงพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร สำหรับงูชนิดนี้ เมื่อตอนเป็นลูกงูจะมีสีเหลือง หรือสีเขียวสดใส แต่เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะมีสีของช่วงหลังเป็นสีเขียวสดใสหรือสีฟ้าเป็นแต้ม และช่วงท้องเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวตลอดแนวกระดูกสันหลัง มีความยาวเต็มที่ประมาณ 120-160 เซนติเมตร อายุเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี จัดว่าเป็นงูหลามโดยมากจะหาอาหารในเวลากลางคืน ได้แก่ กิ้งก่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โดยจะหากินหลักบนต้นไม้ จัดเป็นงูชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงกันเป็นสัตว์เลี้ยง
นอกจากนั้น ยังมี โซน Rubbit & Cavy Land จัดแสดงกระต่ายสายพันธุ์ English Lop ที่มีหูยาวที่สุดในโลก French Lop กระต่ายสายพันธุ์ยักษ์ที่มีความฉลาดและตัวใหญ่ที่สุดในโลก หนูเควี่ (กินี่พิก) สายพันธุ์แท้มากมายหลากหลายสายพันธุ์ รวมไปถึงโซนพิเศษใหม่ล่าสุดของงานในปีนี้ ก็คือ Pet Village เป็นโซนที่รวมเอาสัตว์ที่เคยเลี้ยงอยู่ในฟาร์ม อาทิ หมูแคระ วัวจิ๋วดงประดู่ แพะ แกะ ที่จะมาอวดโฉมให้ชมกันอย่างจุใจ
สำหรับค่าบัตรผ่านประตู จำหน่ายในราคา 20 บาท ซึ่งเงินรายได้จากส่วนนี้ จะนำไปให้แก่ 2 โครงการ คือ โครงการส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งให้ความช่วยเหลือเรื่องเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นต่อสุนัขที่เจ็บป่วย ของโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงการร่วมรณรงค์ โรงพยาบาลฯ ขอรับบริจาคโลหิตจากสุนัขที่แข็งแรงให้แก่สุนัขที่เจ็บป่วย และมูลนิธิเพื่อนช้างในโครงการ "เพื่อนตัวเล็ก ช่วยเพื่อนตัวใหญ่"
ท่านใดที่สนใจมาชมกันได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2556 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ที่อาคารแสดงสินค้า โซน C ชั้น 2 โซนเอเทรียม และโซนพลาซ่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-203-4212-6 หรือเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ www.petexpothailand.net
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวชมงาน และถือโอกาสเก็บภาพเคลื่อนไหวของ 5 สัตว์หาดูยากมาฝากให้ชมกัน ส่วนจะมีสัตว์ประเภทใดบ้างนั้น ตามไปดูกัน
สุนัขจิ้งจอกทะเลทราย
พบในทะเลทรายซาฮาร่า ทวีปแอฟริกาตอนเหนือ เป็นสุนัขจิ้งจอกขนาดเล็ก โตเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 1.6 กิโลกรัม ออกลูกได้ครั้งละ 2-4 ตัว ใบหูขนาดใหญ่ช่วยให้ได้ยินเสียงต่าง ๆ ได้ดี ส่วนขนสีน้ำตาลเหมือนสีของทรายของช่วยให้อำพรางตัวได้ในทะเลทราย นอกจากนี้แล้วยังหนาต่างจากสัตว์ที่อยู่ในทะเลทรายจำพวกอื่น ๆ โดยขนจะทำหน้าที่สะท้อนความร้อนจากแสงแดดในเวลากลางวันออกไป ส่วนตอนกลางคืนก็ทำหน้าที่สะสมความอบอุ่นไว้เพื่อต่อสู้กับความหนาวเย็น เนื่องจากเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน สามารถนำมาเลี้ยงให้เชื่องได้
แมงมุมสายพันธุ์ทารันทูรา
แมงมุมทารันทูราเป็นแมงมุมดึกดำบรรพ์ จากการสำรวจพบว่าแมงมุมทารันทูรา มีมากกว่า 700 ชนิด ทารันทูราแต่ละชนิดมีความเป็นอยู่หลากหลาย บางชนิด อยู่ในพื้นที่กึ่งทะเลทรายบางชนิดอาศัยในป่าร้อนชื้น บางชนิดอาศัยในรู และบางชนิดอยู่บนต้นไม้ ทารันทูราล่าเหยื่อด้วยการกัดบางชนิดสามารถป้องกันตัวโดยการเตะขนที่ก้น เพื่อให้ปลิวไปถูกศัตรูเพื่อให้เกิดอาการคัน ดังนั้นไม่ควรจับเล่นแม้แต่แมงมุมที่คิดว่าเชื่อง
วิสคาซ่า ชินชิล่ายักษ์
พบในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศอาเจนตินา อาศัยตามทุ่งหญ้า Grass Land เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมฟันแทะ มีขนสีเทา หางยาว เคลื่อนที่กระโดดคล้ายกับกระต่าย ซึ่งมีบันทึกไว้ว่าวิสคาซ่าที่เลี้ยงมีอายุได้ถึง 19.5 ปีเลยทีเดียว
แมงป่องเรืองแสง
แมงป่องต่างจากสัตว์มีเปลือกแข็งอื่น ๆ คือ จะมีสารฟลูออร์เรสเซ็นต์สีเขียวภายใต้แสงอุลตราไวโอเล็ต (UV) ด้วยความเข้มแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของแมงป่อง แมงป่องช้างเองก็เรืองแสงเช่นเดียวกันเมื่อส่องด้วยแสง UV ที่ความยาวคลื่น 366 นาโนเมตร ให้แสงสีเขียวความเข้มสูง การเรืองแสงเกิดเนื่องจากสารชนิดหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด ฝังตัวอยู่เป็นชั้นบาง ๆ ในเปลือกของแมงป่อง
ปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าประโยชน์ของการเรืองแสงของแมงป่อง แต่คาดว่าแมงป่องเป็นสัตว์ที่ออกหากินกลางคืน ไม่ชอบแสงสว่าง การเรืองแสงจึงมีไว้เพื่อช่วยตรวจวัดระดับของแสงอุลตราไวโอเล็ต หรืออาจใช้ในการจดจำชนิดเพื่อการผสมพันธุ์ก็อาจเป็นได้
งูหลามเขียวต้นไม้
พบได้ในหลายพื้นที่ของเกาะนิวกินีตลอดจนหลายเกาะของอินโดนีเซียจนถึงรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย สามารถพบได้ทั้งในป่าพรุ ป่าดิบแล้ง ตลอดจนถึงพื้นที่ทำการเกษตร โดยสามารถพบได้จนถึงพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร สำหรับงูชนิดนี้ เมื่อตอนเป็นลูกงูจะมีสีเหลือง หรือสีเขียวสดใส แต่เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะมีสีของช่วงหลังเป็นสีเขียวสดใสหรือสีฟ้าเป็นแต้ม และช่วงท้องเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวตลอดแนวกระดูกสันหลัง มีความยาวเต็มที่ประมาณ 120-160 เซนติเมตร อายุเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี จัดว่าเป็นงูหลามโดยมากจะหาอาหารในเวลากลางคืน ได้แก่ กิ้งก่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โดยจะหากินหลักบนต้นไม้ จัดเป็นงูชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงกันเป็นสัตว์เลี้ยง
นอกจากนั้น ยังมี โซน Rubbit & Cavy Land จัดแสดงกระต่ายสายพันธุ์ English Lop ที่มีหูยาวที่สุดในโลก French Lop กระต่ายสายพันธุ์ยักษ์ที่มีความฉลาดและตัวใหญ่ที่สุดในโลก หนูเควี่ (กินี่พิก) สายพันธุ์แท้มากมายหลากหลายสายพันธุ์ รวมไปถึงโซนพิเศษใหม่ล่าสุดของงานในปีนี้ ก็คือ Pet Village เป็นโซนที่รวมเอาสัตว์ที่เคยเลี้ยงอยู่ในฟาร์ม อาทิ หมูแคระ วัวจิ๋วดงประดู่ แพะ แกะ ที่จะมาอวดโฉมให้ชมกันอย่างจุใจ
สำหรับค่าบัตรผ่านประตู จำหน่ายในราคา 20 บาท ซึ่งเงินรายได้จากส่วนนี้ จะนำไปให้แก่ 2 โครงการ คือ โครงการส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งให้ความช่วยเหลือเรื่องเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นต่อสุนัขที่เจ็บป่วย ของโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงการร่วมรณรงค์ โรงพยาบาลฯ ขอรับบริจาคโลหิตจากสุนัขที่แข็งแรงให้แก่สุนัขที่เจ็บป่วย และมูลนิธิเพื่อนช้างในโครงการ "เพื่อนตัวเล็ก ช่วยเพื่อนตัวใหญ่"
ท่านใดที่สนใจมาชมกันได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2556 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ที่อาคารแสดงสินค้า โซน C ชั้น 2 โซนเอเทรียม และโซนพลาซ่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-203-4212-6 หรือเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ www.petexpothailand.net
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
