นายก อบจ.นำทีมบุกทำเนียบจี้รัฐจัดงบฯ ปี57 เป็นร้อยละ 30 ขู่ทำเฉยมาอีกสิ้นเดือนนี้ “วราเทพ” โผล่รับข้อเสนอ ขอชง ครม.ก่อน แต่รับยากเหตุวงเงินก้าวกระโดดเกิน ด้านนายกเมืองร้อยเอ็ดเผยส่อยอมที่ร้อยละ 27.77 ซัดประเมินตัวเลขเก็บรายได้ท้องถิ่นเกินจริง พร้อมให้จ่ายชดเชยค่าแรง 300 ป.ตรีหมื่นห้าด้วย
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยจำนวนมาก นำโดยนายธนภณ กิจการญจน์ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ได้ชุมนุมเพื่อเรียกร้องขอให้รัฐบาลทบทวนการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ 2557 จาก ร้อยละ 27.28 ของรายได้สุทธิของรัฐบาล เป็นร้อยละ 30
ทางแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมปราศรัยบนเวทีระบุว่า นโยบายท้องถิ่นของรัฐบาล แทนที่จะใช้งบประมาณจากส่วนกลาง กลับใช้งบของท้องถิ่นในการดำเนินการทำให้ไม่สามารถนำงบประมาณของท้องถิ่นไปการดำเนินนโยบายของท้องถิ่นเองได้จึงต้องมาชุมนุมในครั้งนี้ และหากรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในการตอบสนองข้อเรียกร้องจะเดินทางมาชุมนุมที่ที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค.อีกครั้ง จากนั้นตัวแทนผู้ชุมนุมได้เข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
โดยนายวราเทพกล่าวภายหลังการรับข้อเรียกร้องว่า ข้อเสนอที่ผู้ชุมนุมต้องการให้รัฐบาลทบทวนการจัดสรรงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นร้อยละ 30 ของเงินรายได้รัฐบาล จากที่สำนักงบประมาณได้พิจารณาการจัดสรรไว้ที่ร้อยละ 27.28 ตนจะนำข้อเสนอดังกล่าวเสนอต่อ ครม.ว่าจะทบทวนได้หรือไม่ หรืออาจจะเป็นตัวเลขที่คณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ที่เสนอไว้ที่ร้อยละ 27.77 ซึ่งก็ต้องดูว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีความเห็นอย่างไร ส่วนข้อเสนอที่ต้องการให้รัฐบาลถอดภารกิจที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ออกจากสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นนั้นก็ต้องมีการหารือกัน และในการพิจารณางบปี 58 ตนในฐานะ ประธานอนุกรรมการด้านการเงินการคลัง ใน กกถ.ก็จะมีการทบทวนการกำหนดสัดส่วนรายได้และภารกิจต่างๆ ก่อนที่จะพิจารณาออกเป็นกฎหมาย ทั้งนี้หากจะให้ทำตามข้อเรียกร้องทันทีคงเป็นไปได้ยาก เพราะหากดำเนินการจากข้อเรียกร้องวงเงินจะก้าวกระโดดมาก และงบประมาณในปีนี้ ที่สำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณมาแล้วคงจะแก้อะไรได้ไม่มากนัก และอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีส่วนหนึ่ง ก็อยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรที่จะแปรญัตติปรับเพิ่มด้วย
เมื่อถามว่า ที่ผู้ชุมนุมระบุว่าหากยังไม่มีความชัดเจน ในวันที่ 28 พ.ค.นี้จะยกระดับการชุมนุม นายวราเทพกล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นเพราะการหารือก็เป็นไปด้วยดี และมีตัวแทนท้องถิ่นทำงานร่วมกับรัฐบาลตลอด ตนก็คิดว่าไม่น่าจะบานปลาย
ด้านนายบรรจง โฆษิตจีรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะประธานอนุกรรมการการเงินการคลัง สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อปี56 มีการจัดสรรรายได้ให้ท้องถิ่นร้อยละ 27.27 แต่ปี 2557 จะเพิ่มให้เพียงร้อยละ 0.01 ท้องถิ่น มองว่าจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลประชาชนได้ และจากการเจรจาจึงยื่นขอให้รัฐบาลทบทวนให้จัดสรรตามมติของ กกถ.ที่ร้อยละ 27.77 จากข้อเรียกร้องเดิมจะขอที่ร้อยละ 30
นายบรรจงกล่าวถึงข้อเรียกร้องอีกว่า ในส่วนของการประมาณการการจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่นที่ปี 57 รัฐบาลประมาณการว่าท้องถิ่นจะจัดเก็บรายได้ประมาณ 56,000 ล้านล้านบาท ซึ่งตามสถิติที่ผ่านมาที่จัดเก็บได้ประมาณ 40,000-45,000 ล้านบาท และอัตราเติบโตอยู่ที่ปีละ 2,000-2,500 ล้านบาท และคาดว่าปี 57 จะจัดเก็บได้ประมาณ 46,000 ล้านบาทเท่านั้น
“ซึ่งตัวเลขประมาณการของรัฐบาลเกินกว่าความเป็นจริง เป็นตัวเลขลมที่ไม่สามารถไปสู่ท้องถิ่นได้จริง รวมทั้งนโยบายแห่งรัฐเรื่อง อสม.เชิงรุกที่จ่ายให้ อสม.600 บาท/เดือน ซึ่งปีนี้รัฐบาลตั้งงบไว้ 7.6 พันล้านบาท ทั้งที่มติ ครม.ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ จัดหารายได้เพื่อทำโครงการนี้ โดยไม่ให้รวมในสัดส่วนของท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา แต่ยังมีการรวมอยู่ในนี้ด้วย จึงขอให้ถอดโครงการนี้ออกจากสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นด้วย” นายบรรจงกล่าว
นายกเมืองร้อยเอ็ดกล่าวอีกว่า ข้อเรียกร้องเรื่องต่อไปคือเรื่องของนโยบายพัฒนา อปท.กรณีเร่งด่วน วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ที่มีการอุดหนุนเฉพาะกิจจะทำให้การจัดสรรกระจุกตัว เลือกปฏิบัติ และข้อเรียกร้องสุดท้าย คือ การชดเชยค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาท/วัน และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 15,000 บาท/เดือน ที่มีการระบุว่าจะมีการชดเชยให้กรณีที่ที่ท้องถิ่นรับผลกระทบ คิดเป็นเงินประมาณ 6,200 ล้านบาท ในงบประมาณปี 2556 โดยให้ท้องถิ่นนำเงินค่าอุดหนุนทั่วไปของท้องถิ่นมาชดเชยก่อน แต่ปรากฏว่าตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีการชดเชยคืนมา
“หากวันนี้ไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ ท้องถิ่นทั้ง 3 สมาคมจะนำไปหารือกันและจะมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค.เพื่อติดตามความก้าวหน้า ส่วนวันนี้จะรอผลมติ ครม.ถึงเวลา 12.00 น.เท่านั้น” นายบรรจงกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา ประมาณ 12.00 น. ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงชุมนุมเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นไปหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี
โดย บรรจง โฆษิตจีรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด ในฐานะประธานอนุกรรมการการเงินการคลัง สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางผู้ชุมนุมได้รับการประสานงานจาก นายจารุพงศ์ เรื่องสุวรรณ รมว.มหาดไทย เพื่อให้แกนนำได้เข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับข้อเรียกร้องต่างๆ พร้อมกับจะมี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมหารือด้วย แต่ปรากฏว่า เมื่อพวกตนก็ได้เข้าไปรอในห้องประชุมที่ตึกบัญชาการ เวลานานแต่ก็ไม่ได้พบกับ นายจารุพงศ์ หรือนายวราเทพ พวกตนจึงได้ปรึกษากันและเดินออกจากห้องประชุมดังกล่าว
จากนั้นแกนนำผู้ชุมนุมได้ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยนายพรชัย โค้วสุรัตน์ นายก อบจ.อุบลราชธานี ได้กล่าวต่อผู้ชุมนุมว่า พวกตนเข้าไปแล้วแต่ไม่พบใคร เมื่อไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับข้อเรียกร้องก็จะยกระดับการชุมนุม โดยจะเริ่มจากการใส่เสื้อสีดำทำงาน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะจัดทำป้ายสัญลักษณ์ติดตามหมู่บ้านต่างๆ พร้อมทั้งกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับการรวมศูนย์บริหารงาน ต้องการนำเงินภาษีของประชาชนมาช่วยประชาชน และจะมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค. นี้ ที่บริเวณรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง และรอต้อนรับบรรดา ส.ส.ที่จะมาประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่าย เพื่อจะดูว่ามีการแก้ไขตามข้อเรียกร้องหรือไม่ โดยการชุมนุมในวันดังกล่าวจะมีผู้ร่วมชุมนุมกว่า 1 แสนคน
ผู้สื่อข่าวรายงานระหว่างการปราศรัย ได้มีเสียงโห่ร้องสนับสนุนจากผู้ชุมนุมเป็นระยะ ก่อนที่จะมีการประกาศยุติการชุมนุม