“รังสิมา” ส.ส.ปชป. นำชาวแม่กลองบุกทำเนียบฯ จี้นายกฯ เร่งช่วยเหลือชาวประมง หลังสัตว์น้ำในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนตาย ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติสาธารณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชน เข้าข่ายต้องช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน เหตุร้องเรียนมา 3 เดือนเรื่องเงียบ
ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (12 มี.ค.) น.ส.รังสิมา รอดรัสมี จ.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมประชาชนจาก จ.สมุทรสงคราม จำนวนกว่า 100 คนเดินทางเข้าติดตามเรื่องร้องเรียนกรณีขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยกรณีสัตว์น้ำชายฝั่งตายในพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 56 กลุ่มเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่อคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีมติว่ากรณีสัตว์น้ำตายจำนวนมากในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน เป็นภัยพิบัติเข้าลักษณะสาธารณภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งในการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงเพื่อประกอบพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามสมควร
น.ส.รังสิมากล่าวว่า ขณะนี้เรื่องร้องเรียนดังกล่าวได้ล่วงเลยเวลามา 3 เดือนแล้วหลังจากที่พื้นที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน ทั้งในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.อัมพวา แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าและยังไม่มีการดำเนินงานช่วยเหลือจากหน่วยงานแต่อย่างใดอย่างเป็นทางการในการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับทำให้ประชาชนผู้ที่ไม่มีพื้นที่ทำมาหากินประสบภาวะหนี้สินล้นตัว ทำให้พื้นที่ใน จ.สมุทรสงครามประสบภัยทางเศรษฐกิจมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในการช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนโดยเร็วที่สุด
ด้านนายไชยรัตน์ ไทยเจียมอารีย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลออกมารับร้องเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ระบุว่าเรื่องร้องเรียนจะกลับเข้าไปสู่กระบวนการภายใน 2 สัปดาห์ แต่ทางผู้ร้องเรียนจะต้องกลับไปเตรียมข้อมูลเอกสารต่างๆ ให้ถูกต้อง เพราะขณะนี้ปัญหาพบว่าข้อมูลในการเสียหายมีความแน่นอน แต่ทางด้านตัวเลขผู้เสียหายและจำนวนกลับมีความไม่แน่นอน ซึ่งหากภายใน 2 สัปดาห์จะต้องนำเอกสารและข้อมูลที่ถูกต้องมายื่น จึงจะนำเรื่องให้กับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับทราบตามกระบวนการต่อไป ก่อนที่จะมีการนำเสนอเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรอการอนุมัติทางกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อน