โฆษกประชาธิปัตย์โต้ “สุรนันทน์” ชี้เป็นเครื่องยืนยันกั๊กสื่อมะกันสัมภาษณ์จริง ซัดใช้อำนาจกดดันเสนอประโยชน์ต่อรอง จวกยิ่งตอกย้ำเผด็จการชัด จ่อร้องผู้ตรวจฯ ฟันแน่ สับ “ปลอดประสพ” จุดเสื่อมเพื่อไทย
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาชี้แจงเรื่องที่ตนนำอีเมลการติดต่อระหว่างตัวแทนของยูเอสเอทูเดย์ที่ติดต่อขอสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่มีการยกเลิกในภายหลัง โดยมีการระบุชัดเจนในการติดต่อภายในของกลุ่มตัวแทนยูเอสเอทูเดย์ว่า นายสุรนันทน์แจ้งว่าหากมาพบนายอภิสิทธิ์จะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำชี้แจงของนายสุรนันทน์ถือว่าไม่มีสาระ นอกจากเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่ตนเปิดเผยต่อสาธารณะนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะนายสุรนันทน์ยอมรับว่ามีการติดต่อกับตัวเองเพื่อสัมภาษณ์คนในรัฐบาล โดยมีการติดต่อผ่านอีเมล แต่สิ่งที่น่าละอายคือ ความพยายามที่จะบิดเบือนแบบไร้สาระในการให้ข้อเท็จจริงต่อสังคม โดยอ้างว่าไม่ได้แทรกแซงสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นพนักงานบริษัทประชาสัมพันธ์ ตนไม่เคยเห็นคำพูดแก้ตัวของนักการเมืองที่ไร้สาระ แย่ได้มากเท่่านี้มาก่อน
“ผมเชื่อว่านายสุรนันทน์ไม่ใช่คนไร้สติปัญญา ต้องรู้ว่าสาระของเรื่องนี้คือการปิดกั้นไม่ให้มีการสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ แต่นายสุรนันทน์ใช้อำนาจหน้าที่เลขาธิการนายกฯ กดดันไม่ให้สัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ โดยเสนอผลประโยชน์การสนับสนุนจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นข้อต่อรอง จึงเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะไม่ว่าจะเป็นพนักงานประชาสัมพันธ์หรือสื่อมวลชนนายสุรนันทน์ก็ไม่ควรแทรกแซง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการตีแผ่พฤติกรรมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปากยกย่องตัวเองเป็นนักประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมมีจิตใจเป็นเผด็จการ ไม่รับฟังความเห็นต่าง ปิดกั้นช่องทางการสื่อสาร ปิดกั้นแทรกแซงสื่อมวลชน เป็นความอัปยศที่ประชาชนไม่ควรก้มหัวให้กับพฤติกรรมของรัฐบาลที่ลุแก่อำนาจใช้อำนาจเกินขอบเขต” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าจะไม่ฟ้องร้องตนนั้นก็เพราะฟ้องไม่ได้ เนื่องจากเป็นความจริงว่านายสุรนันทน์แทรกแซงสื่อมวลชนหรือบริษัทประชาสัมพันธ์ที่จะสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ ขอให้นายสุรนันทน์นำเรื่องนี้ไปฟ้องได้เลย ทั้งนี้พรรคจะยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่านายสุรนันทน์มีพฤติกรรมขัดต่อประมวลจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ออกมาข่มขู่ภาคประชาชนที่จะชุมนุมประท้วง การประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชียแปซิฟิก โดยเหยียดหยามว่าเป็น “ขยะ” แต่รัฐบาลกลับให้ท้ายคนเสื้อแดงในการคุกคามฝ่ายต่างๆ รวมทั้งตุลาการ สะท้อนว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน เพราะใครที่คิดต่าง ทำต่าง เห็นต่าง จะถูกคุกคามโดยอำนาจรัฐทันที นี่เป็นจุดเสื่อมของรัฐบาลเพื่อไทยอย่างร้ายแรง และถ้ายังเดินหน้าต่อในลักษณะนี้ ประชาชนอาจต้องลุกขึ้นปกป้องสิทธิของตัวเองตามรัฐธรรมนูญ อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพราะพฤติกรรมทั้งของนายสุรนันทน์ และนายปลอดประสพ เป็นไปในลักษณะปากว่าตาขยิบทั้งสิ้น จึงไม่ควรกล่าวอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยอีกต่อไป
