นายกฯ ยินดีฟังข้อเสนอม็อบ อ้างไม่ได้ฟัง “ปลอดประสพ” ด่าชาวบ้าน จ่อถามเจ้าตัว แนะเปิดทางประชุมน้ำ สั่ง “กิตติรัตน์” ประชุมแก้บาทแข็งต่อเนื่อง หวังประชุมร่วมผู้ว่าฯ แบงก์ชาติแล้วจะทำงานร่วมกันได้ ก่อนชิ่งสื่อซักปรับ ครม.
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ประกาศสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมในงานประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ว่าเรื่องผู้ชุมนุมเรายินดีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอต่างๆ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดเป็นครั้งที่ 2 ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นของทางสหประชาชาติโดยหัวข้อที่จะหารือจะครอบคลุมไม่ได้ดูแค่การแก้ปัญหาจัดการน้ำเรื่องอุทกภัยอย่างเดียว แต่จะดูเรื่องน้ำที่จะใช้ในภาคการเกษตร น้ำเพื่อบริโภค และจะทำอย่างไรให้น้ำสะอาดใช้สำหรับการบริโภคได้อย่างปลอดภัย รวมถึงความร่วมมือทางด้านเทคนิค ซึ่งการประชุมครั้งนี้หลักๆ จะเป็นความร่วมมือด้านเทคนิค จะเป็นการคุยแก้ไขปัญหาโดยรวม จะไม่เป็นหัวข้อโดยตรง เรื่องการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยินดีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนเสมอและตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำพูดของนายปลอดประสพถือว่าสวนทางกับแนวคิดของรัฐบาลในเรื่องสนับสนุนสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ฟังที่นายปลอดประสพให้สัมภาษณ์ ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐบาลไม่ได้ขัดขวางใคร แต่สิ่งที่จะต้องขอความร่วมมือคือเรื่องการจัดประชุมมีผู้นำระดับประเทศมาร่วมประชุมถึง 9 ประเทศ และยังมีระดับคณะรัฐมนตรีด้วย จึงอยากฝากว่าการเรียกร้องเรายินดี แต่คงต้องเปิดเวทีให้กับทางผู้นำเพราะอาจจะไม่ใช่เวทีที่เราจะมาปราศรัยในส่วนตรงนั้น แต่เวทีรับฟังยังคงยินดีหากมีข้อคิดเห็นต่างๆ มากมาย จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปรับเรื่องราวและลงไปสำรวจในพื้นที่ด้วย
เมื่อถามว่า การพูดของนายปลอดประสพเหมือนเป็นการเรียกแขก และกลายเป็นว่าจะไม่ได้รับความร่วมมือของภาคประชาชนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องถามนายปลอดประสพว่าหมายความเจตนาอย่างไร เพราะที่จริงแล้วอาจเป็นวิธีการพูด แต่เจตนาเชื่อว่าเราทุกคนยินดีรับฟัง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทว่า ทางสื่อมวลชนคงติดตามการหารือระหว่างนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาคอุตสาหกรรม รวมถึงคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่หารือกันเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้ชี้แจงมาตรการในส่วนของรัฐบาลไปแล้วและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ได้สั่งให้นายกิตติรัตน์ให้เรียกประชุมอย่างต่อเนื่องในส่วนที่ภาคเอกชนร้องขอและรวมถึงการติดตามแก้ปัญหาการเงินการคลังต่อไป เพราะเราห่วงเรื่องเสถียรภาพของค่าเงินบาท ซึ่งเราเข้าใจปัญหาของเอกชนโดยเฉพาะผู้ส่งออก และความผันผวนนี้เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันติดตามแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด หวังว่าทุกหน่วยงานที่รับฟังปัญหาของเอกชนคงจะนำข้อคิดหรือข้อเรียกร้องต่างๆ ไปแก้ในส่วนของผู้ที่รับผิดชอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าหลังการพูดคุยดังกล่าวจะทำให้การแก้ปัญหาเกิดการบูรณาการที่ดีขึ้นหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็หวังเพราะเราอยากเห็นการแก้ปัญหาด้วยกัน เพราะถ้าต่างคนต่างแก้คงไม่สามารถทำงานสัมพันธ์กันได้ โดยเฉพาะผู้ที่เดือดร้อน คงคาดหวังและอยากเห็นการทำงานร่วมกัน แต่ขอเรียกว่าต้องแยกบทบาท เพราะในฐานะรัฐบาลโดยนายกิตติรัตน์มีหน้าที่ดูองค์รวมแต่รายละเอียดการปฏิบัติในส่วนของมาตรการการเงินคงเป็นเรื่องของทาง ธปท.ที่จะหารือในวิธีการแต่เราต้องการเห็นเป้าหมายเดียวกันคือการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและเสถียรภาพค่าเงินบาท
เมื่อถามว่า ดูเหมือนเวลานี้สองฝ่ายมีความเข้าใจไม่ตรงกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นั่นคือวิธีการ แต่เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นผลเหมือนกัน แต่วิธีการอาจจะต่างกัน ซึ่งเราหวังว่าวิธีการนั้นจะนำมาสู่ผลเดียวกัน จึงขอฝากประเด็นนั้น เมื่อถามว่า วันนี้รัฐบาลยังรับมือได้กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ผันผวนเป็นระยะ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็ทำอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ นายกฯ ไม่ตอบคำถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเดินผ่าวงสื่อมวลชนไปขึ้นรถทันที