รองโฆษก ปชป.ร้องผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนกู้ 3.5 แสนล้านจัดการน้ำให้ข้อมูลป้องโกง หลังสอบพบพิรุธใน จ.นนท์ชัด ส่อใช้งบไร้ประสิทธิภาพ แถมมีเอกชนไม่กี่รายได้งาน บ.ร้างที่เอี่ยว รบ. ทั้งที่ข้อมูล บ.ไม่ชัด คุมงานแยะสุด ยอด 30 ล้านกว่า ตอกเชื่อได้อย่างไรโครงการอื่นโปร่งใส ปลุก ปชช.สอบ ดักไว้ใจไม่ได้ลุยงานต่อ
วันนี้ (6 พ.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แผนการลงทุนการบริหารจัดการน้ำ ที่ใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นงบเงินกู้ก้อนใหญ่ที่ต้องตรวจสอบหนักมากขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนช่วนกันให้ข้อมูลและสกัดกั้นการทุจริตอย่างรุนแรง โดยขอตั้งข้อสังเกตเรื่องความโปร่งใสว่าล่าสุดได้พบหลักฐานจากการร้องเรียนของประชาชน ประกอบกับการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และการรายงานข่าวของสำนักข่าวอิศรา พบข้อมูล คือ งบน้ำท่วมใหญ่ 1.2 แสนล้าน ส่วนหนึ่งมี ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) “ร้าง” รับงานขุดลอกคลอง 32 ล้านบาท ที่จังหวัดนนทบุรี โดยเป็นงบฯ จากโครงการแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลักฐานสำคัญที่พบ คือ นายทะเบียนขีดชื่อออกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 แต่เข้าทำสัญญาว่าจ้าง ต้นปี พ.ศ. 2555
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า สิ่งที่ปรากฏชัดเจนในขณะนี้ คือ การใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ในช่วงหลังเกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงปลายปี 2554 ได้เกิดปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณที่ส่อว่าจะไม่มีประสิทธิภาพ และเกิดการรั่วไหลชัดเจน เพราะในการดำเนินงานโครงการ ขุดลอกคูคลอง จังหวัดนนทบุรี จำนวนกว่า 32 สัญญา รวมวงเงินกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 งบกลางของนายกรัฐมนตรี รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ โครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship) พื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัย มีเอกชนเพียงไม่กี่รายที่ได้รับงานนี้
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทเอกชนที่ได้รับงานไปจำนวนมากที่สุด คือ บริษัทร้างที่นายทะเบียนขีดชื่อออกนั่นเอง โดยได้รับงานทั้งสิ้น 8 สัญญา รวมวงเงิน 32,841,000 บาท ทำงานโครงการขุดลอกคลองเจ๊ก อ.บางบัวทอง วงเงิน 6,138,000 บาท, โครงการขุดลอกคลองสามวัง อ.บางบัวทอง วงเงิน 1,220,000 บาท, โครงการขุดลอกคลองลำรี อ.บางบัวทอง วงเงิน 12,430,000 บาท, โครงการขุดลอกคลองเจ๊กเล็ก อ.บางบัวทอง วงเงิน 3,000,000 บาท, โครงการปรับปรุงซ่อมแซมแหล่งน้ำ ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง วงเงิน 2,000,000 บาท, โครงการขุดลอกคลองเส้นทางที่กีดขวางทางน้ำ คลองตะเคียน, คลองใหญ่, คลองงิ้วค่อม, คลองขวางศาลากลาง, คลองบ้านกล้วย, คลองบางพลู, คลองบ้านดอน, คลองเขมร วงเงิน 4,445,000 บาท โครงการขุดลอกคลองยายด๊ะ อ.บางบัวทอง วงเงิน 608,000 บาท โครงการขุดลอกคลองสาธารณะ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง วงเงิน 3,000,000 บาท
แต่จากการรายงานของสำนักข่าวแห่งหนึ่งระบุว่า การตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า หจก.ที่รับงานนั้น จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2544 แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทุนจดทะเบียน 750,000 บาท ตั้งอยู่ที่ อ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี แต่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ห้างหุ้นส่วนนี้เป็นห้างหุ้นส่วนร้าง ซึ่งนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว ตามความในมาตรา 1273/3 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 น่าสังเกตว่าการลงนามในสัญญาว่าจ้าง หจก.นี้ให้รับงานว่าจ้าง ขุดลอกคูคลอง จำนวนหลายสิบล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2555 หลังจากที่ หจก.แห่งนี้ ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็น หจก.ร้าง
“คำถามคือ แล้วโครงการอื่นๆ ในเงิน 1.2 แสนล้านมีโครงการใดโปร่งใสบ้างหรือไม่ การส่อทุจริตและทุจริตลงไปกับงบขุดลอกหรือขุดแปะในแต่ละพื้นที่นั้นเอามาถลุงหากินกับความเดือดร้อนของประชาชนใช่หรือไม่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ขุดลอกช่วยกันตรวจสอบหาหลักฐานส่ง สตง.หรือส่งมาที่พรรคประชาธิปัตย์ จากนี้ไปงานที่ใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทจะไปต่อหรือไม่ก็ไว้วางใจไม่ได้เลย เหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว ฟาดเรียบปากมันเลย” น.ส.มัลลิกากล่าว