ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เคยได้ยินกันแต่ว่าน้ำลดตอผุด แต่พ.ศ.นี้กลับกลายเป็นว่า น้ำท่วม(เจ๊)ด.โผล่ ออกอาละวาดแสดงพฤติกรรมที่ร่ำลือกันว่าสวาปามอย่างมูมมามจนอิ่มหมี พลีมันอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ใครขวางสั่งย้าย ใครปากโป้งอดได้งานได้เงิน จนสงสัยกันทั้งเมืองว่า ไฉนละเลงงบแก้น้ำท่วมนับแสนล้านแล้วแต่ ยังท่วมซ้ำซาก ใช่เพราะผลงานสุดห่วยของผู้รับเหมามือสมัครเล่นที่ได้งานเพราะวิ่งเต้นจ่ายให้เจ๊ด. อีกทั้งยังมีข้อกังขาว่ามีการอาศัยเหตุน้ำท่วมเร่งสร้างเขื่อนเพื่อรองาบหัวคิวคำโตหรือไม่
ขณะที่ชาวประชากำลังทุกข์ระทมจมน้ำท่วม ส่วนที่ยังไม่ท่วมต่างก็ลุ้นระทึกกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าจะรอดไม่รอด ไม่ว่าจะเป็นชาวกรุงเทพฯ ปริมณฑล คนเหนือ ใต้ ตะวันออก รวมถึงอีสานที่มีทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ล่าสุด อรัญประเทศ ท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ 15 จังหวัดจมบาดาลแล้วในเวลานี้ แต่กลับมีคนบางกลุ่มบางพวกที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจมองเห็นวิกฤตเป็นโอกาสโกงกินโดยไม่ละอายต่อบาป เที่ยวอาละวาดหักหัวคิวงบน้ำท่วมแบบโจ๋งครึ่มทิ้ง ร่องรอยหลักฐานไว้ประจานตัวเอง
การทุจริตงบน้ำท่วมมีเสียงครหาว่ากินกันอย่างเมามันมาตั้งแต่น้ำท่วมจนน้ำลดและน้ำท่วมซ้ำอีกครั้ง เรียกได้ว่ากินกันละเอียดทุกเม็ดในทุกกระบวนการ นับตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพตั้งแต่น้ำยังท่วมจนกระทั่งถึงการจ่ายเงิน เยียวยาผู้ประสบภัย และเงินก้อนใหญ่คือ งบบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขน้ำ ท่วม 3.5 แสนล้านที่หวานคอหมูตอนอยู่ในเวลานี้
ความฉาวโฉ่เรื่องทุจริตงบน้ำท่วมที่เกิดขึ้น เป็นผลสืบเนื่องจากการออกมาให้ข้อมูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หลังจากลงไปตรวจสอบเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาว่ามีการทุจริต จนเป็นเหตุให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการป.ป.ท. เจอคำสั่งเด้งจากเก้าอี้
ขณะเดียวกัน เครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ ก็ออกมาแฉละเอียดยิบ และล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทีไล่บี้ให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ “เจ๊ด.” หักหัวคิวน้ำท่วม 40 เปอร์เซ็นต์ ว่าจริงเท็จอย่างไร
มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลงมาติดตามปัญหาการทุจริตงบน้ำท่วมให้สมกับที่เพิ่งแสดงบทบาทว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยขอให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อติดตามโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้งบประมาณไป 8 หมื่นล้านบาทจากงบ 1.2 แสนล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดที่อยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งเวลานี้พบว่า มีปัญหาการทุจริตถึง 20 จังหวัด โดยเฉพาะสุโขทัยที่มีหลักฐานชัดเจนว่า มีการขุดลอกลำน้ำแค่ต้นน้ำและปลายน้ำเท่านั้น ส่วนกลางน้ำไม่มีการขุดลอก แต่กลับได้รับงบประมาณในการขุดลอกทั้งลำน้ำ ที่สำคัญ ยังพบว่าไม่มีการตอกเสาเข็ม ในการสร้างพนังกั้นน้ำ ทำให้ไม่สามารถต้านรับแรงดันน้ำได้
นอกจากนั้น มัลลิกา ยังเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่มีข่าวว่าเจ๊ด.หักหัวคิว 40 เปอร์เซ็นต์ ในการแจกงานให้กับส.ส.ในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถทำโครงการได้สำเร็จ และยังมีการหัก 10 เปอร์เซ็นต์ให้กับคนเซ็นโครงการ และอีก 3 เปอร์เซ็นต์ให้กับคนเขียนทีโออาร์ เท่ากับว่ามีการหักหัวคิวถึง 53 เปอร์เซ็นต์ ไม่ทราบว่าเจ๊ด. เป็นต้นเหตุทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก หรือไม่ เพราะผู้รับเหมามืออาชีพได้กำไรน้อย จึงไม่สนใจทำโครงการ ทำให้มีแต่ผู้รับเหมาที่ไม่ใช่มืออาชีพมาทำแทน พร้อมกันนี้ควรตั้งคณะกรรมการติดตามการใช้งบประมาณเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทด้วย
“ดิฉันเคยทวิตเตอร์ ถามพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปลายปี 54 ว่า จงใจทำน้ำท่วม กทม.เพื่อที่จะของบเงินกู้น้ำท่วมจริงหรือไม่ วันนี้ก็ได้คำตอบแล้วแม้จะช้าไป ถึงวันนี้ถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่ตรวจสอบ เรื่อง เจ๊ ด. 40 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นใคร เรื่องนี้ก็ชัดเจนในคำตอบเพราะสามารถต่อจิ๊กซอว์ได้แล้วว่า ใครสั่ง ใครวางแผน การที่ทำให้น้ำท่วมสุโขทัยสองครั้งใน รอบสัปดาห์นั้น เป็นแผนอันอำมหิตโหดเหี้ยมของรัฐบาลในการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยที่ไม่รอการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จริงหรือไม่ นี่คือคำตอบที่จะรอฟังจากปากนายกรัฐมนตรี” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาซัดเข้าเต็มๆ
การออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของเจ๊ ด. งาบงบแก้น้ำท่วมนั้น ก่อนหน้านี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการรภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ระบุว่า งบประมาณโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท เป็นวงเงินทุจริตถึง 2.5 แสนล้านบาท แต่เนื้องานจริงๆ ไม่ถึง 1 แสนล้านบาท ในการขุดลอกคูคลองต่างๆ ที่ระบุว่ามีการขุดคลองความลึก 8 เมตร แต่ขุดจริงๆไม่ถึง 8 เมตร
งานนี้มีคุณนาย “ด” เป็นผู้แบ่งงานรับเหมาทั้งหมดให้กับกลุ่ม ส.ส.ในกลุ่มก๊วนตัวเอง และถ้าใครจะไปรับขุดลอกคูคลองก็จะต้องจ่ายให้กับคุณนาย "ด" ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ และถ้ากลุ่มก๊วนของคุณนาย "ด" ทำไม่ไหว ก็จะนำไปขายต่อให้กับพรรคฝ่ายค้านทำอีก 25 เปอร์เซ็นต์ จึงจะเห็นได้ว่ารัฐบาลยุคนี้เป็นยุคกินแบ่งได้ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
“การทุจริตครั้งนี้ทำกันเป็นขบวนการ โดยมีคุณนาย "ด" เป็นหัวหน้าแบ่งงานรับเหมาและจัดสรรงบประมาณทั้งหมด ซึ่งคุณนาย "ด" จะได้มากที่สุดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาก็จะเป็นรัฐมนตรี 2 กระทรวง ซึ่งถ้าเจ้ากระทรวงคนไหนเป็นผู้เซ็นลงนามอนุมัติงบประมาณ ก็จะได้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ จากวงเงินงบประมาณของแต่ละโครงการ หน้าห้องรัฐมนตรีได้ 3 เปอร์เซ็นต์ สำนักงบประมาณได้ 2 เปอร์เซ็นต์ อธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีจะได้ 7 เปอร์เซ็นต์ ส่วน ส.ส.ในกลุ่มก๊วนได้ 3-5 เปอร์เซ็นต์ และผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ผอ.สำนักได้ 3 เปอร์เซ็นต์ และหน่วยงานในพื้นที่จะได้ 2 เปอร์เซ็นต์ คณะกรรมการร่างทีโออาร์ได้ 2 เปอร์เซ็นต์ สุดท้าย อบต.ได้ 30 เปอร์เซ็นต์
“การทุจริตครั้งนี้มีทั้งคนในรัฐบาล คนในพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้องประมาณ 30 คน เบื้องต้นมีรายชื่อชัดเจนประมาณ 10 คน ซึ่งมีอักษรย่อ อาทิ คุณนาย “ด” ส่วนรัฐมนตรีเข้าไปมีส่วนข้องข้องด้วยเบื้องต้นทราบว่ามีถึง 5 คน นอกจากนี้ยังมีอดีตนักการเมืองชื่อดังอักษรย่อ “น” ร่วมด้วย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จากหลักฐานข้อมูลทราบว่ามี ส.ส.ของพรรค อักษรย่อชื่อ ส. และ ศ. เข้าไปร่วมด้วย
“สำหรับเงินที่ได้จากการทุจริตน้ำท่วมส่วนหนึ่ง คุณ นาย ด.จะนำไปเก็บไซฟอนที่เจียมซาจุ่ย ซึ่งเป็นย่านธุรกิจในฮ่องกง โดยเจรจาผ่านนายหน้า พร้อมกับฝากเป็นรหัสลับ ขณะนี้คาดว่ามีเงินที่นำไปเก็บไว้ประมาณกว่าหมื่นล้านบาท เงินอีกส่วนหนึ่ง คุณนาย ด.จะนำไปซื้อที่ดินที่ภูเก็ต ซึ่งการที่คนที่ทำหน้าที่ป้องกันการโกงอย่าง พ.ต.อ.ดุษฎีกลับถูกย้ายออกไปนั้นก็เชื่อว่าเป็นการล้วงลูกของคุณนาย "ด" ทั้งสิ้น” เลขาธิการ ภตช.ระบุ
นอกเหนือจากนั้น นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการติดตามการใช้งบประมาณแก้ปัญหาน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท และเงินกู้ 3.5 แสนล้านในคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารการใช้งบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาแถลงว่า จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พบว่า มียอดรับบริจาครวม 1,226,723,345 บาท แต่จากการตรวจสอบยอดล่าสุดจนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2555 พบว่ายังมียอดเงินคงเหลือ 673,907,255 บาท ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เงินบริจาคจากผู้บริจาคมีความตั้งใจให้นำไปช่วยผู้ประสบภัยเดือดร้อนไม่มีข้าวจะกิน แต่กลับพบว่ามีการนำเงินบริจาคไปใช้ไม่ถึงครึ่ง ซึ่งอาจหวังผลว่าต้องการเก็บไว้เพื่อเอาดอกเบี้ย
การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ล้มเหลวของรัฐบาลยัง เป็น 1 ใน 19 เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นแบล็กลิสต์ โกหกสีขาว 19 เรื่องของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยพรรคฝ่ายค้าน ชี้ว่า รัฐบาลได้อ้างความเร่งด่วนพ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านหลอกศาล หลอกสภา หลอกประชาชน อ้างความจำเป็นเร่งด่วนว่าหากไม่สามารถได้งบประมาณ 3.5แสนล้านบาทจะทำให้ไม่สามารถวางระบบป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศ พร้อมกับแจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าหากไม่อนุมัติเป็นพ.ร.ก.เงินกู้ก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ และรัฐบาลก็มีความพร้อมที่จะดำเนินการป้องกันปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ทราบถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ด้วย
แต่จนถึงขณะนี้กว่า 8 เดือนมีน้ำท่วม 22 จังหวัด รัฐบาลก็ไม่มีมาตรการที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของรัฐบาลในการป้องกัน ปัญหาน้ำท่วม เป็นการโกหกประชาชนว่าจะไม่มีน้ำท่วมอีกแล้วหากได้รับ งบประมาณจากพ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท รวมทั้งไม่สามารถดำเนินการตามที่รับปากต่อสภาและโกหกศาลรัฐธรรมนูญว่าได้เตรียมพร้อมโครงการทั้งหมดไว้แล้ว หากศาลอนุมัติก็ดำเนินการได้ทันที
นอกจากนั้น ยังมีโครงการปลูกป่ากันน้ำท่วมใน 3 เดือน ถึงวันนี้ยังไม่มีสักต้นเดียว เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้อง แถลงว่า การเกิดมหาอุทกภัยเพราะป่าต้นน้ำถูกทำลาย จึงจะมีการเร่งฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 แสนไร่ใช้งบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท แต่ถึงขณะนี้ระยะเวลากว่า 7 เดือนก็ยังไม่มีการปลูกต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว
ความจริงเรื่องนี้นายกฯหลอกตัวเอง เพราะควรจะรู้ว่าการปลูกต้นไม้ไม่สามารถทำได้ใน 3 เดือน เพราะต้องหาและเตรียมพื้นที่ปลูกอีกทั้งต้องใช้เวลาในการเพาะชำ ขณะเดียวกันก็หลอกราชการ เพราะกบอ.ไม่ได้จัดสรรงบประมาณในการปลูกต้นไม้ สุดท้าย นายกฯก็หลอกประชาชนที่หวังว่านายกฯจะแก้ไขปัญหาโดยการฟื้นฟูป่าต้นน้ำดังที่เคยป่าวประกาศ
หากพรรคฝ่ายค้านเอาจริงเอาจังในการตรวจสอบการทุจริตงบน้ำท่วมและการโกหกสีขาวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คราวนี้คงได้เห็น “น้ำท่วม ด.โผล่” กันทั่วประเทศ และคงได้ฟังคำโกหกรายวันจนหมดสิ้นศรัทธานายกฯ พริตตี้ เป็นแน่แท้
หมายเหตุ : ขณะนี้ 'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' มีเว็บเพจแล้วนะครับ ขอเชิญท่านผู้อ่านร่วมพูดคุยและแสดงความคิดเห็นได้ที่ http://www.facebook.com/#!/Astvmanagerweekend