ASTVผู้จัดการรายวัน- ปชป.จับตารัฐบาลสั่งย้ายเลขาฯ ปปท.ที่ออกมาแฉทุจริตงบน้ำท่วม ชี้หากเป็นจริงคงไม่งาม เพราะเลือกข้างชัดเจน ซัดรัฐบาล"จัดนิทรรศการน้ำ-ปล่อยน้ำเข้ากรุง" แค่แผนใช้พีอาร์นำการเมือง ด้าน"นายกฯปู" ขึงขัง ลั่นฟันไม่เว้น หากพบทุจริตเยียวยาน้ำท่วม พร้อมมอบนโยบายบริหารจัดการน้ำ ให้ผู้ว่าฯทั่วประเทศไปดำเนินการ ผู้ว่าฯกทม. พร้อมทดสอบแผนระบายน้ำ หวั่นฝนกระหน่ำซ้ำ เตือนอย่าเล่นการเมืองเพื่อสร้างปัญหาให้ประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท.) ตรวจสอบพบมีการทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วมในทุกโครงการที่ตรวจสอบวงเงินถึง 563 ล้านบาท ว่า อยากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้ ปปท. ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นจุดที่ย้อนกลับไปถึงการบริหารจัดการงบที่เหลือทั้งงบกลางและงบเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท จะต้องเพิ่มมาตรฐานของความโปร่งใส และการตรวจสอบด้วย โดยในส่วนของพรรคกว่าจะได้ข้อมูลก็ใช้เวลานานมาก จึงขอเรียกร้องว่าการติดตามตรวจสอบในส่วนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ใช้จ่ายรวมทั้งเงินกู้จะต้องมีมาตรฐานของการเปิดเผยข้อมูลที่ดีกว่านี้ ทั้งนี้ตนได้เตือนตั้งแต่แรกที่มีการจัดงบประมาณซึ้งเป็นงบที่ไม่มีรายละเอียดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้ทางพรรคจะติดตามข่าวการย้าย พ.ต.ท.ดุษฎี อารยะวุฒิ เลขาฯ ปปท. ออกจากตำแหน่งด้วย ว่ามีผลมาจากเรื่องนี้หรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่า จะมีการย้าย พ.ต.อ.ดุษฏี อารยะวุฒิ เลขาธิการ ปปท. ออกจากตำแหน่ง โดยจะให้ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ไปดำรงตำแหน่งแทน เนื่องจากพ.ต.อ.ดุษฎี ออกมาเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบการทุจริตในการเยียวยาน้ำท่วมปี 54 ในเกือบทุกโครงการของรัฐบาล ว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะตนทราบว่า ปปท. กำลังตรวจสอบ และเปิดการทุจริตในโครงการใช้งบประมาณน้ำท่วม เมื่อปี54 ว่ามีจำนวนมาก หากจะเอา พ.ต.อ.ประเวศน์ ไปนั่งเป็นเลขาฯปปท.จริง ก็ไม่สวยงามแน่ เพราะได้แสดงลักษณะท่าทางและจุดยืนชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไหน จึงอยากให้สังคมได้ช่วยกันติดตามตรวจสอบต่อไปด้วย
**"ปู"ลั่นถ้ามีคอร์รัปชันฟันไม่เว้น
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อทางปปท. มีข้อมูลอยู่แล้ว ก็คงต้องส่งเรื่องไปตามหน่วยงานราชการทีเกี่ยวข้อง ขอเรียนว่า เรื่องทุจริต คอร์รัปชันเราไม่เว้นอยู่แล้ว ต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้คำตอบ
ส่วนการทดสอบระบายน้ำ ทั้งฝั่งกรุงเทพฯด้านตะวันออก และตะวันตก ที่ประชาชนมีความวิตกกังวลนั้น ได้มอบให้คณะอนุกรรมการระบายน้ำ นำโดยนายรอยล จิตรดอน ที่จะทดสอบเรื่องการระบายน้ำ ได้ชี้แจงอย่างละเอียด ทุกเส้นทางที่มีการทดสอบการระบายน้ำ และจะให้เพิ่มเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือโทรมาตรวัดน้ำ เพื่อให้ประชาชน สามารถติดตามได้ด้วย
** ยันกบอ.มีอำนาจตัดสินใจระบายน้ำ
ส่วนที่กทม.ไม่เห็นด้วยกับการทดสอบระบายน้ำในครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อาจเป็นไปได้ ในฐานะที่กทม. เป็นเจ้าของพื้นที่ คงมีความเป็นห่วง ขอเรียนว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ถ้ากทม.มีความเป็นห่วงอย่างไร ก็มาคุยกัน ในหลักปฏิบัติการระบายน้ำคง ต้องนั่งอยู่ด้วยกันทั้งเจ้าหน้าที่ของกบอ. และกทม. ที่จะตัดสินใจร่วมกัน หากมีตรงไหนที่เป็นห่วง จะหยุดก็หยุด เพราะเราต้องการทดสอบเพื่อให้ทราบกำลังขีดความสามารถ แต่ถ้าเราไม่ทดสอบเลย ถึงเวลาถ้าเกิดอุทกภัยจริงเราจะไม่ทราบ และจะทำให้เกิดปัญหาดูแลประชาชนไม่ทั่วถึง
"ขอกราบเรียนว่า รัฐบาลไม่ได้มองในจุดเรื่องการเมือง แต่มองด้วยเจตนารมณ์ที่อยากจะซ้อม อย่างกรณีการเกิดอัคคีภัย ยังต้องมีการซ้อม แต่น้ำเราไม่เคยรู้ว่าประสิทธิภาพคูคลองเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องซ้อม ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนใหม่ที่ไม่เคยมีใครซ้อมมาก่อน จึงเกิดความกังวลอันนี้ ยอมรับในความกังวลของประชาชน จะพยายามระมัดระวังอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีประเด็นเรื่องของการเมืองเลย" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศรับมือน้ำ
เมื่อเวลา 10 .00 น วานนี้ (3ก.ย.) ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังงานนิทรรศการ “มุ่งมั่นทำงาน บริหารจัดการน้ำเพื่อประชาชน” และได้มอบนโยบาย ชี้แจงขั้นตอนการบริการจัดการน้ำของรัฐบาล เมื่อประสบอุทกภัย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่มารับฟัง โดยรัฐบาลจะนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ แต่สิ่งที่ต้องทำต่อคือ การบูรณะ ซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆให้ใช้งานได้อย่างปกติ เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล และแม่น้ำสายหลักอย่างเร็วที่สุด ซึ่งทั้งสองส่วนนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องนำมาปฏิบัติเพื่อรับมือกับปัญหาอุทกภัยในปีนี้ ที่เป็นแผนระยะสั้น ในการป้องกันน้ำท่วม
“จากประสบการณ์ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าพอเราไม่ได้ประกาศ กว่าจะมีการมอบหมายงานนั้นทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่อง หน่วยงานที่จะรับผิดชอบก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร ซึ่งภายในสัปดาห์นี้เราจะเริ่มทำงานในระบบใหม่ โดยขอให้ทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.)ประสานกับกระทรวงมหาดไทยในการเขียนกระบวนการทำงานอย่างละเอียด โดยศูนย์ส่วนหน้าจะรวมอยู่ในทุกสถานการณ์ ทั้งการส่งข้อมูลให้กบอ. และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพราะการที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับศูนย์ส่วนหน้า และขอให้ทำการชี้แจงกับประชาชนในพื้นที่เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความสับสนด้วย จึงขอให้ศูนย์นี้ได้รวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะส่งข้อมูลด้วย เพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติมักจะมีความสับสนเกิดขึ้นตามมาเสมอ จึงขอให้ทำงานจากข้างล่างหรือแอเรียเบจต์ แอฟโพสต์(area base approach) ก่อนที่จะส่งข้อมูลมายังส่วนกลาง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
**กทม.ลั่นอย่าเอาน้ำมาเล่นการเมือง
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวหลังประชุมคณะผู้บริหารกทม. ถึงแผนการปล่อยน้ำของกบอ. ในวันที่ 5 และ 7 ก.ย.นี้ว่า กทม.มีความพร้อมในการทดสอบ ซึ่งพื้นที่ตะวันตก และตะวันออก มีการเตรียมอุปกรณ์ อาทิ เครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งตามจุดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และจะมีจนท.ของกทม. ลงพื้นที่จุดเสี่ยง เพื่อเฝ้าระวังการระบายน้ำ หากมีปัญหาจะรีบแก้ไขทันที และตนจะประจำที่สำนักงานระบายน้ำ กทม. 2 เขตดินแดง หากจำเป็นก็จะลงพื้นที่ ไปตรวจความเรียบร้อยของการะบายน้ำด้วย
อย่างไรก็ตามกทม. ยังกังวลเรื่องฝนและระดับน้ำทะเลที่อาจสูงขึ้น เพราะล่าสุดมีรายงานว่า จะมีร่องฝน 3 แห่งเข้ามาในพื้นที่ภาคกลางคือ 1.ทางเหนือ 2. ภาคกลางจากฝั่งอันดามัน 3. จากฟิลิปปินส์ ผ่านทะเลจีนใต้ ขณะเดียวกัน ยังมีการพยากรณ์อากาศว่าวันที่ 2- 8 ก.ย. จะมีฝน 90 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ และอาจมีพายุเข้ามาด้วย หากมีฝนตกน้ำทะเลหนุน และการปล่อยน้ำ เข้ามาในกทม. เวลาเดียวกันก็อาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้
" ผมไม่อยากให้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขอให้เป็นเรื่องเทคนิค เป็นเรื่องขรก.ประจำอย่างเดียว อย่าให้มีความเสี่ยงเรื่องการเมือง หากประชาชน ทุกข์เพราะมีการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมจะรับไม่ได้ " ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
**'กรณ์'โวยคลองลาดพร้าวยังไม่ได้ลอก
นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะ ได้ลงเรือตรวจสอบสถานการณ์น้ำในคลองลาดพร้าว โดยเริ่มที่คลองหน้าวัดบางบัว เขตบางเขน ซึ่งเป็นจุดที่จะใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำเข้ากรุงเทพ ฯ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ยังไม่มีการขุดลอกคูคลอง และไม่มีการจัดเก็บขยะ นอกจากนี้ยังพบปัญหาเรื่องการสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลำคลองด้วย ซึ่งสิ่งที่พบเห็น ตรงกันข้ามกับที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ฯ ในฐานะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการขุดลอกคูคลอง ออกมาระบุว่า มีการขุดลอกคูคลองและสิ่งปฏิกูลตลอดลำคลองไปแลัว เพราะสภาพที่เห็นยังเต็มไปด้วยวัชพืช ขณะที่มีเรือดันน้ำซึ่งมีการจัดซื้อใหม่ลอยอยู่ 3 ลำ แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่ประจำการเรือระบุว่า เรือดังกล่าวยังไม่สามารถใช้งานได้จริง เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันให้
นายกรณ์ กล่าวว่า การที่นายปลอดประสพ ออกมาระบุว่า ยังไม่สามารถขุดลอกคูคลองและเจรจากับชาวบ้านที่รุกลำคลองได้ เป็นเพราะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขัดขวางการทำงานนั้น ตนเห็นว่าคงไม่มีใครมีอิทธิพลเกินนายปลอดประสพ เพราะเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่รัฐบาลรับปากแต่ทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงอยากเห็นรัฐบาลดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในคลองให้มีความพร้อม เพราะหากมีปัญหาเรื่องน้ำประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อน
ขณะที่นายอุกฤษ กลิ่นสุคนธ์ หัวหน้ากลุ่มงานกองระบบอาคารบังคับน้ำ 1 กล่าวว่า สถานีสูบน้ำคลองทรงกระเทียม ที่ตังอยู่ในวัดลาดพร้าว เป็นสถานีระบบปิด ที่ระบายน้ำจากคลองลาดพร้าวไปยังคลองแสนแสบ พระรามเก้า และต่อไปยังบึงพระราม 9 เพื่อผันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ขณะนี้ระบบการระบายน้ำยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดความกังวลกรณีที่รัฐบาลจะทดสอบการระบายน้ำเข้ากรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่าถ้าระบายน้ำไม่ทันบวกกับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลาดพร้าว โชคชัย 4 ส่วนปัญหาหลักอีกประเด็นในคลองลาดพร้าว คือ เรื่องการปลูกสร้างบ้านเรือนประชาชนที่รัฐบาลยังไม่เข้าไปเจรจาเพื่อให้มีการรื้อถอนจากการรุกพื้นที่ลำคลอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท.) ตรวจสอบพบมีการทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วมในทุกโครงการที่ตรวจสอบวงเงินถึง 563 ล้านบาท ว่า อยากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้ ปปท. ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นจุดที่ย้อนกลับไปถึงการบริหารจัดการงบที่เหลือทั้งงบกลางและงบเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท จะต้องเพิ่มมาตรฐานของความโปร่งใส และการตรวจสอบด้วย โดยในส่วนของพรรคกว่าจะได้ข้อมูลก็ใช้เวลานานมาก จึงขอเรียกร้องว่าการติดตามตรวจสอบในส่วนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ใช้จ่ายรวมทั้งเงินกู้จะต้องมีมาตรฐานของการเปิดเผยข้อมูลที่ดีกว่านี้ ทั้งนี้ตนได้เตือนตั้งแต่แรกที่มีการจัดงบประมาณซึ้งเป็นงบที่ไม่มีรายละเอียดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้ทางพรรคจะติดตามข่าวการย้าย พ.ต.ท.ดุษฎี อารยะวุฒิ เลขาฯ ปปท. ออกจากตำแหน่งด้วย ว่ามีผลมาจากเรื่องนี้หรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่า จะมีการย้าย พ.ต.อ.ดุษฏี อารยะวุฒิ เลขาธิการ ปปท. ออกจากตำแหน่ง โดยจะให้ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ไปดำรงตำแหน่งแทน เนื่องจากพ.ต.อ.ดุษฎี ออกมาเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบการทุจริตในการเยียวยาน้ำท่วมปี 54 ในเกือบทุกโครงการของรัฐบาล ว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะตนทราบว่า ปปท. กำลังตรวจสอบ และเปิดการทุจริตในโครงการใช้งบประมาณน้ำท่วม เมื่อปี54 ว่ามีจำนวนมาก หากจะเอา พ.ต.อ.ประเวศน์ ไปนั่งเป็นเลขาฯปปท.จริง ก็ไม่สวยงามแน่ เพราะได้แสดงลักษณะท่าทางและจุดยืนชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายไหน จึงอยากให้สังคมได้ช่วยกันติดตามตรวจสอบต่อไปด้วย
**"ปู"ลั่นถ้ามีคอร์รัปชันฟันไม่เว้น
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อทางปปท. มีข้อมูลอยู่แล้ว ก็คงต้องส่งเรื่องไปตามหน่วยงานราชการทีเกี่ยวข้อง ขอเรียนว่า เรื่องทุจริต คอร์รัปชันเราไม่เว้นอยู่แล้ว ต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้คำตอบ
ส่วนการทดสอบระบายน้ำ ทั้งฝั่งกรุงเทพฯด้านตะวันออก และตะวันตก ที่ประชาชนมีความวิตกกังวลนั้น ได้มอบให้คณะอนุกรรมการระบายน้ำ นำโดยนายรอยล จิตรดอน ที่จะทดสอบเรื่องการระบายน้ำ ได้ชี้แจงอย่างละเอียด ทุกเส้นทางที่มีการทดสอบการระบายน้ำ และจะให้เพิ่มเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือโทรมาตรวัดน้ำ เพื่อให้ประชาชน สามารถติดตามได้ด้วย
** ยันกบอ.มีอำนาจตัดสินใจระบายน้ำ
ส่วนที่กทม.ไม่เห็นด้วยกับการทดสอบระบายน้ำในครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อาจเป็นไปได้ ในฐานะที่กทม. เป็นเจ้าของพื้นที่ คงมีความเป็นห่วง ขอเรียนว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ถ้ากทม.มีความเป็นห่วงอย่างไร ก็มาคุยกัน ในหลักปฏิบัติการระบายน้ำคง ต้องนั่งอยู่ด้วยกันทั้งเจ้าหน้าที่ของกบอ. และกทม. ที่จะตัดสินใจร่วมกัน หากมีตรงไหนที่เป็นห่วง จะหยุดก็หยุด เพราะเราต้องการทดสอบเพื่อให้ทราบกำลังขีดความสามารถ แต่ถ้าเราไม่ทดสอบเลย ถึงเวลาถ้าเกิดอุทกภัยจริงเราจะไม่ทราบ และจะทำให้เกิดปัญหาดูแลประชาชนไม่ทั่วถึง
"ขอกราบเรียนว่า รัฐบาลไม่ได้มองในจุดเรื่องการเมือง แต่มองด้วยเจตนารมณ์ที่อยากจะซ้อม อย่างกรณีการเกิดอัคคีภัย ยังต้องมีการซ้อม แต่น้ำเราไม่เคยรู้ว่าประสิทธิภาพคูคลองเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องซ้อม ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนใหม่ที่ไม่เคยมีใครซ้อมมาก่อน จึงเกิดความกังวลอันนี้ ยอมรับในความกังวลของประชาชน จะพยายามระมัดระวังอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีประเด็นเรื่องของการเมืองเลย" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศรับมือน้ำ
เมื่อเวลา 10 .00 น วานนี้ (3ก.ย.) ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังงานนิทรรศการ “มุ่งมั่นทำงาน บริหารจัดการน้ำเพื่อประชาชน” และได้มอบนโยบาย ชี้แจงขั้นตอนการบริการจัดการน้ำของรัฐบาล เมื่อประสบอุทกภัย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่มารับฟัง โดยรัฐบาลจะนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ แต่สิ่งที่ต้องทำต่อคือ การบูรณะ ซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆให้ใช้งานได้อย่างปกติ เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล และแม่น้ำสายหลักอย่างเร็วที่สุด ซึ่งทั้งสองส่วนนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องนำมาปฏิบัติเพื่อรับมือกับปัญหาอุทกภัยในปีนี้ ที่เป็นแผนระยะสั้น ในการป้องกันน้ำท่วม
“จากประสบการณ์ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าพอเราไม่ได้ประกาศ กว่าจะมีการมอบหมายงานนั้นทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่อง หน่วยงานที่จะรับผิดชอบก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร ซึ่งภายในสัปดาห์นี้เราจะเริ่มทำงานในระบบใหม่ โดยขอให้ทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.)ประสานกับกระทรวงมหาดไทยในการเขียนกระบวนการทำงานอย่างละเอียด โดยศูนย์ส่วนหน้าจะรวมอยู่ในทุกสถานการณ์ ทั้งการส่งข้อมูลให้กบอ. และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพราะการที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับศูนย์ส่วนหน้า และขอให้ทำการชี้แจงกับประชาชนในพื้นที่เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความสับสนด้วย จึงขอให้ศูนย์นี้ได้รวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะส่งข้อมูลด้วย เพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติมักจะมีความสับสนเกิดขึ้นตามมาเสมอ จึงขอให้ทำงานจากข้างล่างหรือแอเรียเบจต์ แอฟโพสต์(area base approach) ก่อนที่จะส่งข้อมูลมายังส่วนกลาง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
**กทม.ลั่นอย่าเอาน้ำมาเล่นการเมือง
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวหลังประชุมคณะผู้บริหารกทม. ถึงแผนการปล่อยน้ำของกบอ. ในวันที่ 5 และ 7 ก.ย.นี้ว่า กทม.มีความพร้อมในการทดสอบ ซึ่งพื้นที่ตะวันตก และตะวันออก มีการเตรียมอุปกรณ์ อาทิ เครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งตามจุดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และจะมีจนท.ของกทม. ลงพื้นที่จุดเสี่ยง เพื่อเฝ้าระวังการระบายน้ำ หากมีปัญหาจะรีบแก้ไขทันที และตนจะประจำที่สำนักงานระบายน้ำ กทม. 2 เขตดินแดง หากจำเป็นก็จะลงพื้นที่ ไปตรวจความเรียบร้อยของการะบายน้ำด้วย
อย่างไรก็ตามกทม. ยังกังวลเรื่องฝนและระดับน้ำทะเลที่อาจสูงขึ้น เพราะล่าสุดมีรายงานว่า จะมีร่องฝน 3 แห่งเข้ามาในพื้นที่ภาคกลางคือ 1.ทางเหนือ 2. ภาคกลางจากฝั่งอันดามัน 3. จากฟิลิปปินส์ ผ่านทะเลจีนใต้ ขณะเดียวกัน ยังมีการพยากรณ์อากาศว่าวันที่ 2- 8 ก.ย. จะมีฝน 90 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ และอาจมีพายุเข้ามาด้วย หากมีฝนตกน้ำทะเลหนุน และการปล่อยน้ำ เข้ามาในกทม. เวลาเดียวกันก็อาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้
" ผมไม่อยากให้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขอให้เป็นเรื่องเทคนิค เป็นเรื่องขรก.ประจำอย่างเดียว อย่าให้มีความเสี่ยงเรื่องการเมือง หากประชาชน ทุกข์เพราะมีการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมจะรับไม่ได้ " ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
**'กรณ์'โวยคลองลาดพร้าวยังไม่ได้ลอก
นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะ ได้ลงเรือตรวจสอบสถานการณ์น้ำในคลองลาดพร้าว โดยเริ่มที่คลองหน้าวัดบางบัว เขตบางเขน ซึ่งเป็นจุดที่จะใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำเข้ากรุงเทพ ฯ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ยังไม่มีการขุดลอกคูคลอง และไม่มีการจัดเก็บขยะ นอกจากนี้ยังพบปัญหาเรื่องการสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลำคลองด้วย ซึ่งสิ่งที่พบเห็น ตรงกันข้ามกับที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ฯ ในฐานะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการขุดลอกคูคลอง ออกมาระบุว่า มีการขุดลอกคูคลองและสิ่งปฏิกูลตลอดลำคลองไปแลัว เพราะสภาพที่เห็นยังเต็มไปด้วยวัชพืช ขณะที่มีเรือดันน้ำซึ่งมีการจัดซื้อใหม่ลอยอยู่ 3 ลำ แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่ประจำการเรือระบุว่า เรือดังกล่าวยังไม่สามารถใช้งานได้จริง เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันให้
นายกรณ์ กล่าวว่า การที่นายปลอดประสพ ออกมาระบุว่า ยังไม่สามารถขุดลอกคูคลองและเจรจากับชาวบ้านที่รุกลำคลองได้ เป็นเพราะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขัดขวางการทำงานนั้น ตนเห็นว่าคงไม่มีใครมีอิทธิพลเกินนายปลอดประสพ เพราะเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่รัฐบาลรับปากแต่ทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงอยากเห็นรัฐบาลดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในคลองให้มีความพร้อม เพราะหากมีปัญหาเรื่องน้ำประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อน
ขณะที่นายอุกฤษ กลิ่นสุคนธ์ หัวหน้ากลุ่มงานกองระบบอาคารบังคับน้ำ 1 กล่าวว่า สถานีสูบน้ำคลองทรงกระเทียม ที่ตังอยู่ในวัดลาดพร้าว เป็นสถานีระบบปิด ที่ระบายน้ำจากคลองลาดพร้าวไปยังคลองแสนแสบ พระรามเก้า และต่อไปยังบึงพระราม 9 เพื่อผันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ขณะนี้ระบบการระบายน้ำยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดความกังวลกรณีที่รัฐบาลจะทดสอบการระบายน้ำเข้ากรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่าถ้าระบายน้ำไม่ทันบวกกับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลาดพร้าว โชคชัย 4 ส่วนปัญหาหลักอีกประเด็นในคลองลาดพร้าว คือ เรื่องการปลูกสร้างบ้านเรือนประชาชนที่รัฐบาลยังไม่เข้าไปเจรจาเพื่อให้มีการรื้อถอนจากการรุกพื้นที่ลำคลอง