ฝ่ายค้านซัด รบ.โวปราบโกง แต่ขวางสอบ แฉ “หัวขาว-เจ๊ ด.” กินหัวคิวงบน้ำท่วม

“นิพิฏฐ์” ย้อน “ปู” แถลงนโยบายจี้ปราบทุจริตแต่ดันย้ายคนสอบโกง เหตุโยงเจอ “เจ๊แดง” ตั้งพวกสั่งได้ทำแทน ชี้ “คนหัวขาวใน มท.-เจ๊แดง” เก็บค่าหัวคิว 30% สร้างถนนฟื้นฟูน้ำท่วม จากงบ 1.2 แสนล. กินพุงกาง 3-4 หมื่นล. “นิพนธ์” ซัดตั้งราคากลางฟื้นฟูน้ำท่วมสูง ทำโกงแหลก อัดบริษัทรับเหมามีงบ 1 ล.กลับได้งาน 100 ล. แถมจดทะเบียนแค่ 1 เดือน เผยแจง กมธ.อ้างเป็นญาติ รมว.คมนาคม อัด “ปู” นิ่งปล่อยโกง “วิรัช” แฉ มท.โยนงบทางหลวงชนบท ปั่นราคากลางเอื้อผู้รับเหมาคนสนิท มั่วสร้างถนนในที่น้ำไม่ท่วม ชี้บริษัทพ่ออดีตเลขาฯ รมช.คมนาคม ด้าน “ประชา” แจง “ดุษฎี” ย้ายตามวาระ ยันไม่นิ่งปราบโกง ส่วนทุจริตงบน้ำท่วมรอ ป.ป.ท.ตัดสิน

วันนี้ (27 พ.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า นายกฯ แถลงนโยบายต่อสภาเรื่องการปราบปรามการทุจริตว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง จะปลูกฝังจิตสำนึกค่านิยมให้คนไทยฝักใฝ่ความซื่อสัตย์ ถูกต้อง มีการพูดถึงการปราบปรามทุจริตแค่สองครั้ง ล่าสุดบอกว่าต้องปลุกจิตสำนึกประชาชนไม่ให้เห็นว่าการเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับ แต่ผลสำรวจกลับพบว่าคนไทยยอมรับการทุจริตถึง 63 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังปล่อยให้มีขบวนการขัดขวางการตรวจสอบการทุจริต อาทิ กรณีการโยกย้ายอดีตเลขาธิการ ป.ป.ท. เนื่องจากทำการตรวจสอบการทุจริตคดีลักลอบนำเข้ารถหรู เพราะสาวไปพบบุตรชายนักการเมือง คือ เจ๊แดง เข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากนั้นก็ถูกโยกย้ายในลักษณะไม่ถูกต้องถามหลักเกณฑ์ รัฐบาลไม่จริงใจต่อการปราบปรามการทุจริต หน่วยไหนใช้งานไม่ได้ก็ย้ายแล้วเอาหัวที่สั่งการได้มานั่งแทน

นอกจากนี้ยังมีความไม่โปร่งใสงบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาทในงบก่อสร้างถนนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากใครต้องการสร้างถนนต้องเอาเงิน 30 เปอร์เซ็นต์มาวางจึงได้งานไป มีคนหัวขาวนั่งทำงานที่กระทรวงมหาดไทยเป็นคนเก็บค่าหัวคิว โดยเฉพาะงบฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท มีการเบิกไปแต่ไม่มีการดำเนินการจริง โดยเฉพาะเกือบทุกพื้นที่ในภาคอีสาน เช่น จ.อุดรธานี จ.บึงกาฬ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ท.ไปสุ่มตรวจ 56 สัญญา พบมีการทุจริตทุกสัญญา แต่ละโครงการมีผลงานแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ถูกคนหัวขาวหักไป 30 เปอร์เซ็นต์ องค์กรท้องถิ่น 15 เปอร์เซ็นต์ จนเป็นเหตุให้ พ.ต.อ.ดุษฎีถูกโยกย้าย รวมถึงงบฟื้นฟูแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ ที่ จ.ขอนแก่น จำนวน 21 สัญญา วงเงิน 50.9 ล้านบาท พบทุจริตถึง 20 สัญญา มีการเบิกงบการขุดดินไปทิ้งทั้งที่ไม่มีการขุดดินไปทิ้งเลย

“นี่แค่โครงการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 4 ถูกนักการเมืองกินหัวคิวเป็นพันล้าน ถ้าโครงการฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้านจะมีการทุจริตขุดลอกแหล่งน้ำไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นล้าน เงินจำนวนนี้ไปอยู่ที่ 2 คน คือ 1. เจ๊แดง 2. คนหัวขาว ซึ่งนายกฯ ไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ ยืนยันว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ของงบฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้านมีการทุจริต และกินหัวคิว” นายนิพิฏฐ์กล่าว

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงการทุจริตในงบฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาทในส่วนการกำหนดราคากลางว่าไม่ตรงกัน เช่น งบซ่อมแซมแหล่งน้ำที่ จ.สุพรรณบุรี มีการกำหนดราคากลางงานขุดลอกโดยเครื่องจักรต่างกัน คือ ราคาต่ำสุด 33.49 บาทต่อลูกบาศก์เมตร และสูงสุดคือ 54.80 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งที่เป็นพื้นที่เดียวกัน เนื้องานเหมือนกัน แต่มีราคากลางต่างกัน 20 กว่าบาท ทำให้เกิดการทุจริต สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 3 ที่ได้รับการจัดสรรโครงการ 171 โครงการ พบว่ามีห้างหุ้นส่วน พิตรพิบูล เพียงแห่งเดียวได้งานถึง 43 โครงการ ในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จ.มุกดาหาร 26 โครงการ จ.เลย 8 โครงการ จ.อุดรธานี 5 โครงการ จ.สกลนคร และ จ.นครพนม อย่างละ 2 โครงการ ทั้งที่มีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท แต่รับงานมีมูลค่ารวมกันกว่า 100 กว่าล้านบาท จึงสงสัยว่าจะทำงานให้เสร็จตามระยะเวลาได้อย่างไร

“ห้างหุ้นส่วนนี้เพิ่งจดทะเบียนเพียงเดือนเดียว คือ ม.ค. พอเดือน ก.พ.ก็ได้งานทันที 43 โครงการ ตรวจพบว่ามีผู้ถือหุ้น 2 คน คือ นางนิลรัตน์ สิทธิพันธุ์ และ น.ส.ชนิตา บุญชื่น ถือหุ้นคนละ 5 แสนบาท โดยนางนิลรัตน์ยอมรับในชั้นกรรมาธิการฯ ว่าเป็นญาติกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายกฯ ปล่อยปละละเลยให้คนใกล้ชิดเอื้อพวกพ้อง ปู้ยี่ปู้ยำงบแผ่นดิน เอื้อให้เกิดการทุจริต” นายนิพนธ์กล่าว

ขณะที่ นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงโครงการยกระดับถนนสาย นย 2011 จ.นครนายก ระยะทาง 7.200 กิโลเมตร งบประมาณ 47 ล้านบาทเศษ เดิมอยู่ในงบของมหาดไทย แต่มีการส่งไปที่งบกรมทางหลวงชนบท มีการทำราคากลางกิโลเมตรละ 5 ล้านบาท แต่ทำจริงเฉลี่ยกิโลเมตรละ 2.7 ล้าน และยังมีการให้ใช้วิธีพิเศษเพื่อคนพิเศษ เรียกผู้รับเหมาที่ตนพอใจมาคุยตกลงราคา มีคนยื่นซองประกวดราคา 2 ราย สรุป หจก.วิสิทธิชัยได้ไป ทั้งที่โครงการนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงบน้ำท่วมเลยเพราะถนนสายนี้น้ำไม่ท่วม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าวเป็นของนายสิทธิชัย กิตติธเนศวร บิดานายเกรียงไกร กิตติธเนศวร อดีตเลขานุการนายชัชชาติ สมัยเป็น รมช.คมนาคม หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นความสำคัญและจริงใจต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างแท้จริงตั้งแต่ต้นจะสามารถควบคุมปัญหาเหล่านี้ได้หมด

ด้าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ชี้แจงพร้อมเปิดคลิปการแถลงข่าวของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการ ป.ป.ท.ที่ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง และยินดีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมกับระบุว่าการย้ายเลขาธิการ ป.ป.ท.เป็นการโยกย้ายตามวาระประจำปี ส่วนการทุจริตงบน้ำท่วม และการนำเข้ารถหรูจากต่างประเทศ ตนไม่ได้วางใจ หลังมีข่าวนายกฯ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด สั่งให้ปราบปรามให้ได้ และกำชับให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการอย่างโปร่งใส การบอกว่า ป.ป.ท.พบการทุจริตนั้นอาจจะไม่จริง เนื่องจากประธานกรรมการ ป.ป.ท.ทำหนังสือตอบมายังตนว่า เรื่องนำเข้ารถหรูส่งให้ ป.ป.ช.แล้ว ส่วนการทุจริตงบน้ำท่วม 6จังหวัดอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ เพราะอาจผิดกฎหมาย การเปิดเผยอะไรต้องขอความเห็นชอบจากกรรมการ ป.ป.ท.