xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เชื่อ “แม้ว” ส่งซิกแตกหัก เย้ยชนะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ลบคำพิพากษาไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” ห่วงชาวบ้านเริ่มทนไม่ไหวรัฐบาล จี้สนใจปัญหาประชาชนมากกว่าสร้างปมเพิ่ม เชื่อ “ทักษิณ” เร่งเผชิญหน้าส่งสัญญาณแตกหัก แนะทบทวนท่าที หวั่นโลกมองไทยวุ่นไม่รู้จบ แต่ไม่รู้ “ยิ่งลักษณ์” เข้าใจประชาธิปไตยจริงหรือไม่ วอนแดงอย่ายกระดับกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เย้ย “นช.แม้ว” จะชนะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ลบคำพิพากษาไม่ได้



วันนี้ (5 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเป็นห่วงกรณีที่มีหลายภาคส่วนเริ่มเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจกับพฤติกรรมของรัฐบาลที่ไม่ยอมรับอำนาจศาล รวมถึงการเคลื่อนขบวนประชาชนของภาคีเครือข่ายประชาชน ที่นำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อต่อต้านรัฐบาล หลังมีหลายฝ่ายที่ต้องการเคลื่อนไหว หน้าที่ของรัฐบาลคือทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ประเทศชาติสงบ และแก้ปัญหาให้กับประชาชน ตนจึงเรียกร้องให้รัฐบาลกลับมาให้ความสนใจกับปัญหาของประชาชน ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ราคาแก๊สที่จะมีการปรับขึ้น พืชผลการเกษตรที่ตกต่ำทั้งยางพาราและปาล์ม อยากให้รัฐบาลใส่ใจในเรื่องเหล่านี้มากกว่าที่จะเดินหน้าสร้างบรรยากาศการเผชิญหน้า เพราะหากลุกลามบานปลายออกไปก็จะยิ่งทำให้ปัญหาอื่นๆ ไม่ได้รับการแก้ไข

นายอภิสิทธิ์ วิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลนำสังคมไปสู่การเผชิญหน้าว่า เป็นเพราะได้รับสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้ทุกอย่างถูกเร่งเร้าในขณะนี้ จนบรรยากาศการเผชิญหน้าเกิดขึ้นไปทั่ว ทั้งกับศาล ธนาคารแห่งประเทศไทย และกลุ่มมวลชนด้วยกันเอง ซึ่งกลายเป็นสัญญาณแตกหักที่ไม่เป็นผลดีกับใครเลย เพราะฉะนั้นอยากให้รัฐบาลทบทวนท่าทีนี้ เพราะหากไม่ทบทวนก็น่าเป็นห่วงว่าจะนำสังคมไปสู่ความแตกหักในที่สุด เนื่องจากหลายฝ่ายก็ต้องการแสดงออกถึงจุดยืนของตัวเอง

ส่วนกรณีที่นายเจิมศักดิ์ ปินทอง อดีต ส.ว. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายคมสัน โพธิคง อาจารย์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ไปยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษหนีคดีสไกป์สั่งการรัฐบาลเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้ทุกฝ่ายเคารพการใช้สิทธิของคนอื่น เพราะศาลก็จะพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย ถ้าศาลปฏิบัติหน้าที่มิชอบก็มีสิทธิถอดถอน แต่ไม่มีเหตุผลที่จะใช้วิธีข่มขู่ คุกคาม กดดันจนทำให้เสียบรรยากาศของบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดสภาพที่ควบคุมไม่ได้เหมือนปี 53 จะเกิดอะไรกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ห่วงรัฐบาล แต่ห่วงว่าในสายตาของประชาคมโลกจะมองว่าบ้านเมืองของเรากลายเป็นประเทศที่มีแต่ความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทั้งที่รัฐบาลได้อำนาจมาจากการเลือกตั้ง มีโอกาสเดินหน้าแก้ปัญหาเพื่อประชาชน ควรใช้โอกาสทำเพื่อประชาชน อย่านำบ้านเมืองกลับไปสู่จุดเดิมที่เคยมีความขัดแย้งอีก ทั้งนี้ตนไม่แน่ใจว่านางสาวยิ่งลักษณ์ จะมีความเข้าใจต่อระบอบประชาธิปไตยจริงหรือไม่ เพราะจากการไปพูดบิดเบือนที่มองโกเลียนั้น มีความคลาดเคลื่อนหลายอย่าง แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารต้องดูแลให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า สงบ และแก้ปัญหาของประชาชน เพราะในขณะนี้นักลงทุนมีความกังวลเรื่องการเมืองสูงขึ้น ทั้งๆ ที่ฝ่ายค้านเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานเต็มที่ หากไม่มายุ่งกับเรื่องการทำลายระบบบ้านเมืองให้เกิดความเสียหาย รัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ผลักดันให้บ้านเมืองให้เกิดความเจริญก้าวหน้ามากกว่า

สำหรับการยกระดับการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 พ.ค.56 ที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องว่าอย่าทำเลย เพราะมีแต่จะสร้างความกังวล ความไม่มั่นใจและความเครียดให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความมั่นใจว่าชนะการเลือกตั้งอีกนั้น ตนไม่กังวลว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะประชาชนเป็นคนตัดสินเพื่อให้อำนาจเข้ามาบริหารประเทศ แก้ปัญหาให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ไม่มีผลลบล้างสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดและมีการตัดสินไปแล้วได้ ดังนั้นหากมีความเข้าใจตรงนี้บ้านเมืองก็จะไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามหากอำนาจกลับไปอยู่ในมือประชาชนอีกครั้งก็อยากให้ประชาชนประเมินผลงานของรัฐบาลชุดนี้เกือบสองปีที่ผ่านมาว่า ทั้งเศรษฐกิจ และปากท้องของประชาชนดีขึ้นจริงหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่แถลงผลงานครบรอบ 1 ปี ต่อสภา แต่จะออกเป็นเอกสารแทน สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่นิยมเวทีที่เป็นประชาธิปไตยที่สามารถให้คนโต้แย้ง วิพากษ์วิจารณ์ แลกเปลี่ยนกันได้


กำลังโหลดความคิดเห็น