นครศรีธรรมราช - ครบ 1 ปีบุกตรวจค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ผบ.เผยย้ายผู้คุมแล้ว 65 ราย ให้ออกไว้ก่อน 5 ราย และไล่ออก 3 ราย ยันมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ รับยังมีโทรศัพท์มือถือตกค้าง โดยถูกซ่อนตามหลืบต่างๆ ส่วนยาเสพติดหมดแล้ว พร้อมให้ทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบ และตรวจปัสสาวะนักโทษ
วันนี้ (20 เม.ย.) นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนควบคุม พ.ต.ท.วิษณุ ชนะอักษร ผบ.ร้อยตชด.424 ร่วมกันแถลงเปิดใจในวันครบรอบ 1 ปี ของการเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง จนสร้างประวัติศาสตร์ของการตรวจค้นจับกุมเครือข่ายยาเสพติดภายในเรือนจำครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จนสามารถตรวจยึดสิ่งของต้องห้าม และยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากหลายร้อยรายการ หลังจากนั้น ได้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำ ซึ่งมีทั้งนักโทษ เจ้าหน้าที่ และผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชี จนสามารถยึดทรัพย์ตามมาได้อีกนับร้อยล้านบาท
ทั้งนี้ นายสุรพล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน จากร้อย ตชด.424 นำกำลัง 1 หมวดติดอาวุธเข้ามาตรึงพื้นที่รอบรั้วเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ป้องกันการลักลอบเข้ามาส่งสิ่งของต้องห้ามผ่านรั้วเรือนจำเข้าไปในเรือนจำ ซึ่งได้ร่วมเปิดเผยถึงสถานการณ์ภายในเรือนจำหลังจาก 1 ปีที่มีการตรวจค้น และยังคงมีกระแสข่าวของการสั่งซื้อยาเสพติดจากนักโทษในเรือนจำอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายสุรพล ระบุข่าวที่ถูกเผยแพร่ว่ามีการสั่งซื้อยาเสพติดมาจากนักโทษในเรือนจำ ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้รับผลกระทบในด้านขวัญกำลังใจอย่างมาก โดยขณะนี้ นักโทษได้ถูกคัดแยกพฤติการณ์ ทั้งสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ หรือลักลอบนำของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ โดยแยกควบคุมในเขตควบคุมพิเศษ
“มีการย้ายนักโทษไปคุมขังที่อื่น ขณะนี้ย้ายไปแล้วกว่า 260 ราย กระจายไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงต่างๆ ทั่วประเทศ และโดยเฉพาะผู้ที่มีความชัดเจน แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานจะย้ายไปไกล เช่น แม่ฮ่องสอน หรือเชียงราย ให้พ้นไปจากเครือข่ายที่นี่ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนพัวพัน แม้เพียงว่าได้รับทางการข่าว ได้มีคำสั่งย้ายไปแล้ว 65 ราย ให้ออกไว้ก่อน 5 ราย และไล่ออกไปแล้ว 3 ราย” นายสุรพลกล่าวละว่า
“สำหรับการดำเนินการตรวจค้นเรือจำแบบจู่โจม นับแต่เดือน พ.ค.2555 มาจนถึงปัจจุบันรวม 296 ครั้ง สามายึดยาเสพติได้เป็นจำนวนมาก ในช่วงระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ย.2555 และในส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นยึดได้ถึง 1,749 เครื่อง ซิมการ์ด 1,436 อัน ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูล แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลส่งกลับมาแต่อย่างใด”
ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ได้กำหนดวิธีการตรวจค้นการผ่านเข้าออกเรือนจำอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ทั้งเจ้าหน้าที่เอง และผู้ที่จะต้องเข้าไปส่งเครื่องอุปโภคบริโภคในเรือนจำอย่างเข้มงวด ขณะนี้มีนักโทษอยู่ภายใน 5,354 คน เจ้าหน้าที่มีเพียง 141 คนที่จะต้องดูแล โดยนักโทษที่ออกกองงานเรือนจำนั้นเรางดทั้งหมด ยังคงมีนักโทษที่เรือนจำเขาหมากเท่านั้นที่อยู่ในเรือนจำพิเศษแบบไม่มีรั้ว นักโทษที่ออกภายนอกเรือนจำได้คือ นักโทษต้องขึ้นศาล และเมื่อขึ้นศาลแล้วกลับมาจะถูกตรวจค้นอย่างละเอียด ระยะแรกพบว่า มีการซุกซ่อนยาเสพติดมาทางทวารหนัก จะถูกล้วงออกมาตรวจสอบ และมีประเภทที่กลืนเข้าไปแล้วแตกในท้องเสียชีวิตอีกด้วย
“ส่วนโทรศัพท์นั้น ยอมรับว่า ยังคงหลงเหลืออยู่ในเรือนจำ ที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้นได้พบว่าเป็นเครื่องเก่าเก็บมานาน และนักโทษใช้วิธีการโบกฝังในซีเมนต์ การส่งเข้าทางกำแพงน้อยลงมาก จากมาตรการเพิ่มสิ่งกีดขวาง และการ รปภ.ของเจ้าหน้าที่ มาจนถึงขณะนี้ ในเรื่องของยาเสพติดในเรือนจำยืนยันว่าลดลงไปอย่างมาก พร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสามารถเข้ามาตรวจสอบได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสามารถเรียกตรวจปัสสาวะนักโทษได้ทุกราย” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าวในที่สุด