เชียงราย - ยาบ้าชุกชุมหนัก แค่ส่งผู้ต้องขังจากเรือนจำไปขึ้นศาล ขากลับหนุ่มอาข่าชาวพม่า กลับนำยาบ้ายัดทวารหนักเข้าเรือนจำได้ถึง 2 พันเม็ด โชคดี จนท.ได้ข่าวก่อนล่วงหน้า จับแยกตรวจสอบจนพบ เผยในคุกขายเม็ดละเกินครึ่งพัน
วันนี้ (16 พ.ย.55) นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดจากการตรวจค้นภายในเรือนจำ ของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด โดยการตรวจยึดมีขึ้น เมื่อทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ตรวจสอบการเข้าออกของผู้ต้องขังอย่างเข้มงวด ต่อมาสืบทราบจะมีผู้ต้องขังชายคนหนึ่ง ซึ่งจะต้องเดินทางไปรับฟังคำพิจารณาคดีจากศาล จ.เชียงราย ถนนธนาลัย เทศบาลนครเชียงราย ห่างจากเรือนจำที่ตั้งอยู่ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จึงให้เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาผู้ต้องขังคนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าได้มีผู้ต้องขังชื่อนายอาผ่า บีแช ชาวเขาเผ่าอาข่า อายุ 25 ปี อาศัยอยู่ที่ประเทศพม่า แต่มาต้องคดีในฝั่งไทย และถูกส่งไปยังศาล จ.เชียงราย ก่อนถูกส่งขึ้นรถกลับเรือนจำตามปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแยกนายอาผ่า ออกจากนักโทษคนอื่นและค้นร่างกายปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด ถูกพันอยู่ในก้อนพลาสติกยัดอยู่ในทวารหนัก จึงได้ควบคุมตัวไปตรวจสอบต่อ เพราะสงสัยว่า น่าจะมีเพิ่มเติมอีก
กระทั่งรุ่งเช้าทางเจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็น น.ช.อาผ่า บีแช มีท่าทางพิรุธคล้ายพยายามจะดันสิ่งของกลับเข้าทางทวารหนักอีก จึงตรวจสอบพบมีก้อนพลาสติกที่บรรจุยาบ้าออกมาจากทวารหนักอีก 1,000 เม็ด จึงได้จับกุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายอีกกระทงหนึ่ง
สอบสวนทราบว่านายอาผ่า เคยถูกจับกุมดำเนินคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง จึงรู้จักกับคนในเครือข่ายเป็นอย่างดี สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้นายอาผ่า ก็สารภาพว่า ได้นำยาบ้าเข้ามาในเรือนจำเพื่อใช้หนี้เก่า เพราะก่อนหน้านี้เคยนำยาบ้าเข้ามา แต่ถูกจับได้เสียก่อน จึงต้องชดใช้ด้วยการขนครั้งใหม่
นายกฤช กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ต.ค.55 เป็นต้นมา ทางเรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย สามารถตรวจยึดของกลางยาบ้าได้ 7,000 เม็ด เฮโรอีน 20 กรัม ยาไอซ์ 25 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 160 เครื่อง โดยขบวนการลักลอบนำเข้าใช้สารพัดวิธีทั้งใช้เครื่องยิงแรงดันน้ำข้ามกำแพงเข้าไปหรือนำเข้าไปกับร่างกายของผู้ต้องขังที่จำเป็นต้องให้ออกจากเรือนจำ เพื่อไปศาลหรือทำงานด้านนอก โดยส่วนใหญ่ใช้วิธีการยัดในทวารหนัก เพราะอยู่ในร่างกายตรวจสอบภายนอกไม่ได้ และในเรือนจำก็ขายกันราคาแพงเม็ดละกว่า 500 บาท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดกวดขันอย่างหนักมากขึ้น