ศูนย์ข่าวศรีราชา - หน่วยงานรัฐในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ตั้งธงสกัดปวงชนเข้าร่วมการชุมนุมองค์การพิทักษ์สยามทุกวิถีทาง ทั้งปล่อยข่าวเตือนความรุนแรง ตั้งด่านสกัดบนเส้นทางสายสำคัญ พร้อมส่งทีมสืบสวนตามประกบแกนนำผู้เข้าชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (23 พ.ย.) หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้พยายามใช้สารพัดวิธีในการหยุดยั้ง หรือสกัดกั้นมวลชนในพื้นที่ไม่ให้เดินทางเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพิทักษ์สยาม ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งด่านสกัด เพื่อถ่วงเวลาให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมไม่ได้รับความสะดวกบนถนนสายสำคัญต่างๆ ตลอด 24 ชม.โดยเฉพาะบนเส้นทางก่อนเข้าสู่ตัวกรุงเทพฯ เช่น บริเวณด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนครเนื่องเขต ถนนสายสุวินทวงศ์ (304) บริเวณหลัก กม.ที่ 72 ที่พบว่า มีกำลังตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ตั้งด่านสกัดกั้นจำนวนมาก
เช่นเดียวกับที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) และถือเป็นจุดผ่านเข้ากรุงเทพฯ อีกเส้นทางหนึ่ง และยังสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-พัทยา) ถนนสาย 34 บางนา-ตราด รวมไปถึงถนนสุขุมวิทสายเก่า (สาย 3) พบว่า มีกำลังเจ้าหน้าจากสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ ตั้งด่านสกัดอีกหนึ่งจุดเช่นกัน
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ยังได้ออกข้อความเตือนประชาชนในพื้นที่ โดยระบุใจความว่า
“ตามที่ได้ปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ จะเดินทางไปเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในวันเสาร์ที่ 24 พ.ย.55 ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพฯ นั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ตรวจสอบ และรายงานข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการจัดชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันดังกล่าวว่า ได้มีการเตรียมการก่อเหตุความรุนแรงในระหว่างการชุมนุม เพื่อให้นำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งหากกรณีเกิดเหตุการณ์โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี สร้างสถานการณ์ในบริเวณจัดการชุมนุมดังกล่าว อาจทำให้พี่น้องประชาชนตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย หรืออาจถือได้ว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และกระทำผิดกฎหมายไปด้วย”
โดยข้อความดังกล่าวได้ถูกนำเผยแพร่ไปยังเครือข่ายสถานีวิทยุชุมชนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 40 แห่ง และส่งข้อความผ่านทางเอสเอ็มเอส เผยแพร่ไปยังทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อออนไลน์ที่เป็นเครื่องมือของรัฐอีกทางหนึ่งด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงาน ยังได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือในส่วนกลางให้ติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้รับคำสั่งตรงจากผู้มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ชุดฝ่ายสืบสวนในทุกท้องที่เฝ้าติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหว และตามประกบประชาชนที่จะออกเดินทางมาร่วมชุมนุม โดยให้รายงานชื่อที่อยู่ของแกนนำ จำนวนมวลชนที่จะมาเข้าร่วม และจำนวนยานพาหนะ ชนิดรถยนต์ที่จะใช้ในการเดินทาง โดยให้เจ้าหน้าที่บางส่วนฝังตัวปะปนเข้าไปอยู่ในกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาด้วย
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน จากสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ถูกระดมกำลังส่งเข้าไปยังกรุงเทพฯ แล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 1 กองร้อย โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกนายเตรียมสัมภาระให้สามารถปักหลักอยู่ได้อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน นอกจากนี้ ยังได้มีการสั่งการกองร้อยควบคุมฝูงชนกองร้อยที่ 2 เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (23 พ.ย.) หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้พยายามใช้สารพัดวิธีในการหยุดยั้ง หรือสกัดกั้นมวลชนในพื้นที่ไม่ให้เดินทางเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพิทักษ์สยาม ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งด่านสกัด เพื่อถ่วงเวลาให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมไม่ได้รับความสะดวกบนถนนสายสำคัญต่างๆ ตลอด 24 ชม.โดยเฉพาะบนเส้นทางก่อนเข้าสู่ตัวกรุงเทพฯ เช่น บริเวณด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนครเนื่องเขต ถนนสายสุวินทวงศ์ (304) บริเวณหลัก กม.ที่ 72 ที่พบว่า มีกำลังตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ตั้งด่านสกัดกั้นจำนวนมาก
เช่นเดียวกับที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) และถือเป็นจุดผ่านเข้ากรุงเทพฯ อีกเส้นทางหนึ่ง และยังสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-พัทยา) ถนนสาย 34 บางนา-ตราด รวมไปถึงถนนสุขุมวิทสายเก่า (สาย 3) พบว่า มีกำลังเจ้าหน้าจากสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ ตั้งด่านสกัดอีกหนึ่งจุดเช่นกัน
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ยังได้ออกข้อความเตือนประชาชนในพื้นที่ โดยระบุใจความว่า
“ตามที่ได้ปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ จะเดินทางไปเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในวันเสาร์ที่ 24 พ.ย.55 ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพฯ นั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ตรวจสอบ และรายงานข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการจัดชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันดังกล่าวว่า ได้มีการเตรียมการก่อเหตุความรุนแรงในระหว่างการชุมนุม เพื่อให้นำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งหากกรณีเกิดเหตุการณ์โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี สร้างสถานการณ์ในบริเวณจัดการชุมนุมดังกล่าว อาจทำให้พี่น้องประชาชนตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย หรืออาจถือได้ว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และกระทำผิดกฎหมายไปด้วย”
โดยข้อความดังกล่าวได้ถูกนำเผยแพร่ไปยังเครือข่ายสถานีวิทยุชุมชนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 40 แห่ง และส่งข้อความผ่านทางเอสเอ็มเอส เผยแพร่ไปยังทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อออนไลน์ที่เป็นเครื่องมือของรัฐอีกทางหนึ่งด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงาน ยังได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือในส่วนกลางให้ติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้รับคำสั่งตรงจากผู้มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ชุดฝ่ายสืบสวนในทุกท้องที่เฝ้าติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหว และตามประกบประชาชนที่จะออกเดินทางมาร่วมชุมนุม โดยให้รายงานชื่อที่อยู่ของแกนนำ จำนวนมวลชนที่จะมาเข้าร่วม และจำนวนยานพาหนะ ชนิดรถยนต์ที่จะใช้ในการเดินทาง โดยให้เจ้าหน้าที่บางส่วนฝังตัวปะปนเข้าไปอยู่ในกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาด้วย
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน จากสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ถูกระดมกำลังส่งเข้าไปยังกรุงเทพฯ แล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 1 กองร้อย โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกนายเตรียมสัมภาระให้สามารถปักหลักอยู่ได้อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน นอกจากนี้ ยังได้มีการสั่งการกองร้อยควบคุมฝูงชนกองร้อยที่ 2 เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา