รองโฆษก ปชป.เผยชาวนาเขตมีนบุรี กทม.ร้องเรียนถูก ธ.ก.ส.ปฏิเสธการจ่ายเงิน หลังเอาข้าวไปจำนำที่โรงสี 15 ตันครึ่ง ตีราคา 2 แสน นัดขึ้นเงิน 6 ก.ย. แต่อ้างรัฐบาลยังไม่โอนเงินมาให้ เผย “อภิสิทธิ์” สั่งสางทุจริตหรือไม่ ส่อนโยบายรับจำนำข้าวล้มเหลว
วันนี้ (18 ก.ย.) นายประมวล เอมเปีย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเขตมีนบุรีว่า ได้เอาข้าวไปจำนำที่โรงสี ของบริษัท ยี่สิบไพบูลย์พืชผล จำกัด ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 15 ตันครึ่ง ได้รับการประเมินราคารวมเป็นเงิน 2 แสนบาท โดยมีการออกหลักฐานเป็นใบชั่งน้ำหนักของโรงสีดังกล่าว โดยกำหนดให้นำหลักฐานมาขึ้นเงินในวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สาขามีนบุรี แต่ปรากฏว่าพอถึงวันนัด นายมูฮำหมัด แซะอารี เจ้าของข้าวเดินทางไปตามนัด แต่เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.กลับแจ้งว่าไม่มีเงินจ่ายให้ เพราะรัฐบาลยังไม่ส่งเงินเข้าธนาคาร และยังไม่มีกำหนดว่าจะสามารถมารับเงินได้เมื่อไหร่ ทำให้ส่งผลกระทบกับชาวนาต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่กู้ยืมนายทุนมาลงทุนทำนา รวมถึงการติดค้างค่ารถเกี่ยวข้าว และค่าแรงต่างๆ
นายประมวลกล่าวว่า ในเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบหมายให้ตนติดตามกรณีนี้ว่าเป็นการส่อทุจริตหรือไม่ อย่างไร ที่ ธ.ก.ส.จะไม่ได้รับอุดหนุนจากรัฐบาล ทั้งที่มีงบประมาณออกมาใช้ในโครงการจำนำข้าวมากถึง 3.4 แสนล้านบาท หรือเป็นการล้มเหลวจากนโยบายของรัฐบาล ที่ตีปี๊บทำโครงการดังกล่าว แต่เงินไม่ถึงมือชาวบ้านจริงตามที่โฆษณาหาเสียงไว้ หนำซ้ำยังมีหน้าประกาศว่าในฤดูทำนานี้จะจัดงบให้อีก 4.4 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าว ทั้งที่ประสบความล้มเหลว ชาวนาถูกชักหัวคิว หักราคาที่ความชื้นข้าว ได้เงินไม่ตรงตามกำหนด ได้เงินไม่ครบตามราคาจำนำ ซึ่งกรณีนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งยังมีอีกจำนวนมากที่มีชาวนาในพื้นที่ต่างๆมาร้องเรียนต่อพรรคว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการสวมสิทธิ์ เวียนเทียนข้าว รวมถึงการจ้างวานชาวบ้านที่ไม่ใช่ชาวนา เพื่ออ้างชื่อเป็นชาวนาเพื่อใช้ชื่อไปจำนำข้าวต่างชาติ โดยรับส่วนต่าง สารพัดวิธีทุจริต ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและพยาน