ป.ป.ช.เผยมีสารพัดวิธีคุกคามศาลการเมือง ทั้งเชิญกินข้าว ไปหาโดยไม่รู้ตัว หวังวิ่งเต้นขอให้ช่วยนักการเเมืองหลุดคดี มีทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เหตุกลัวหมดทางทำมาหากิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดประชุมเสวนาเรื่อง “บทบาทของฝ่ายตุลาการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” โดยนายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอโครงการวิจัยบทบาทของฝ่ายตุลาการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีศึกษาเปรียบเทียบกับต่างประเทศ กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีข้อเสนอหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการจัดตั้งศาลอุทธรณ์ในแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขึ้นมา เพื่อให้ผู้ต้องคำพิพากษามีสิทธิอุทธรณ์ โดยลดองค์คณะเหลือเพียง 5 คน จากเดิมที่มีอยู่ 9 คน แต่หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ให้ผู้ต้องคำพิพากษามีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญาศาลฎีกา แต่เฉพาะข้อขัดแย้งในทางกฎหมายเท่านั้น
ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า คดีของนักการเมืองมีความซับซ้อนตั้งแต่เริ่มระบบการสรรหาไต่สวน เนื่องจากมีอำนาจอิทธิพลกดดันคณะกรรมการ หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่เข้าใจ ก็อาจจะตัดสินคดีได้ไม่ตรงตามเจตนารมณ์การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดังนั้นจะแยกกระบวนการส่วนหนึ่งส่วนใดออกจากกันไม่ได้
นายวิชาระบุด้วยว่า ผู้ดำรงตำแหน่งพิพากษาศาลฎีกาถูกคุกคาม บางครั้งไม่ได้คุกคามโดยตรง แต่อาจจะมาในรูปแบบของการเชิญไปกินข้าว หรือไปหาโดยไม่รู้ตัว เพื่อมาขอให้ช่วยนักการเมือง เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล เพราะกลัวถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการตัดทางการทำมาหากิน