xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” จ้อทีวีแจงปาฐกถามองโกเลีย อ้างแชร์ประสบการณ์ หวัง ปชต.ไทยเข้มแข็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“ยิ่งลักษณ์” ออกทีวึแจงปาฐกถาที่มองโกเลีย อ้างแค่แชร์ประสบการณ์ หวังเห็นประชาธิปไตยไทยเข้มแข็ง เหตุการณ์ม๊อบแดงป่วนเมืองปี 53 ถือเป็นอุทาหรณ์ โวเยือนมองโกเลีย เพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุน เล็งแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีผลิตผ้า “แคมเมียร์-ผ้าไหมไทย”



น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวชี้แจงถึงกรณีการกล่าวสุนทรพจน์เรื่องประชาธิปไตยที่ประเทศมองโกเลีย ผ่านรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” วันนี้ (4 พ.ค.) ว่า เป็นการแชร์ประสบการณ์ของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย โดยส่วนใหญ่จะเน้นให้เห็นถึงการที่ประชาชนได้ใช้สิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ ส่วนในประเด็นที่ตนเองกล่าวถึงพัฒนาการเรื่องประชาธิปไตยของไทยนั้น ได้เน้นย้ำให้เห็นว่า สำหรับประเทศไทย ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องใหม่ และแม้บางครั้งการที่เราเองมักจะพูดกันว่ารูปแบบการทำงานบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่จริงๆ แล้วต้องดูตั้งแต่ผลสุดท้ายของการทำงาน คือ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการมีประชาธิปไตยและพัฒนาการต่างๆ นั้น ต้องให้แน่ใจว่ากระบวนการต่างๆ เป็นไปตามหลักนิติธรรม และประชาชนมีความเข้าใจอย่างเพียงพอ และประชาชนได้ใช้สิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ นั่นคือผลของประชาธิปไตย ที่จะเจริญงอกงาม แต่หากมีการไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้เช่นกัน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า หลังจากประเทศไทยได้มีการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าได้รับประชาธิปไตยกลับคืนมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องให้แน่ใจว่ากระบวนการต่างๆ นั้นเป็นไปตามหลักกฎหมาย เป็นไปตามหลักนิติธรรม และที่สำคัญต้องมีการสร้างความสมดุลในแต่ละองค์กร เพื่อให้ประชาชนได้สิทธิเสรีภาพของตนเองอย่างเต็มที่ และเสมอภาคเท่าเทียมกัน

ส่วนการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว เป็นการเล่าให้ฟังถึงการพัฒนาการระบอบประชาธิปไตยของไทยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาว่าได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง และจุดยืนของนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่งว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มากขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ใช่ค่ะ และเราถือว่าเป็นหน้าที่และภารกิจของทุกฝ่าย ที่จะร่วมกันทำให้ประชาธิปไตยของประเทศมีความแข็งแรงมากขึ้น”

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ส่วนการสูญเสียชีวิตประชาชนไปในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 นั้น ถือเป็นบทเรียนสำคัญของการจะได้มาเพื่อประชาธิปไตยนั้น เราก็ไม่อยากให้ประชาชนเสียเลือดเนื้อ และขอให้เป็นอุทาหรณ์ที่เราจะได้ร่วมช่วยกันให้ประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแข็งแรง นั่นก็คือการที่จะทำอย่างไรให้กลไกทุกกลไกทำงานอย่างเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เพียงเมื่อเลือกตั้งจบก็เป็นประชาธิปไตย เพราะจริงๆ แล้ว มันมีขั้นตอนอีกมากมายที่จะให้แข็งแรงในทุกๆ มิติ ทุกขั้นตอน ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าในประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์นั้นก็จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ประเทศไทยเอง ก็ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง และให้เท่าทันโลก

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงการเดินทางเยือนมองโกเลียซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทยและมองโกเลียครบรอบ 40 ปีโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ไทยและมองโกเลีย เป็นเวลากว่า 40 ปี ครั้งนี้ถือเป็นการเยือนครั้งแรกซึ่งพบว่า ประเทศมองโกเลียมีสภาพ เศรษฐกิจ ทรัพยากร เหมืองแร่ ทองคำ โลหะหายาก จำนวนมาก เนื่องจาก มองโกเลียมีการสนับสนุน ด้าน พลังงานน้ำ พลังงานลม แสงอาทิตย์และความร้อนในพื้นดิน เป็นสิ่งที่เรามองว่าน่าสนใจ การมาครั้งนี้นำธุรกิจภาคเอกชนมาหารือกัน

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ครั้งนี้ประสบความสำเร็จที่เราตกลงกันว่าอยากเห็นมูลค่าการค้าการลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้าเพิ่ม 1-2 เท่า ขณะที่เอกชนก็เห็นศักยภาพของมองโกเลีย ทั้งกลุ่มพลังงาน ภาคเกษตร การเงิน โรงพยาบาล สถานศึกษา ในด้านการค้าการลงทุน หารือกันว่าภาคธุรกิจอยากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ คือ ลงนามเอ็มโอยูในการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนก็ได้รับการตอบรับจากมองโกเลีย คาดว่าจะได้เห็นความร่วมมือนี้เกิดขึ้น และเวทีความร่วมมือทางการค้า ที่จะหารือว่ามีสินค้าไหนจะส่งไปมองโกเลียหรือนำเข้ามาจากมองโกเลีย และความร่วมมืออื่นๆ ทางวิทยาศาสตร์ วิชาการ การศึกษา สาธารณสุขและท่องเที่ยวที่ทางมองโกเลียต้องการความร่วมมือจากไทย

ส่วนโอกาสที่จะนำทรัพยากรของมองโกเลียมาใช้ให้เกิดประโยชน์นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสเข้ามาลงทุนก็จะช่วยด้านอุตสาหกรรมต่างๆ และด้านการส่งออก อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ เราอาจจะส่งชิ้นส่วนมาประกอบที่นี่ได้

สำหรับด้านท่องเที่ยว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า มองโกเลียได้ขอมาในเรื่องเปิดเส้นทาง ต้องไปศึกษาดูว่าถ้ามีเส้นทางบินตรงได้ก็จะเป็นโอกาสมากขึ้น และอีกอย่างคือ เรื่องพลังงานทดแทน ที่นี่เขาก็จะมีเรื่องพลังงานทดแทน มีการคุยกันเรื่องงานวิจัย ไทยทำเรื่องกังหันลม ก็อาจจะมาช่วยเขาในการศึกษาเรื่องพลังงานลมและด้านอื่นๆ เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่เรามองเห็น ซึ่งทางมองโกเลียก็อยากจะได้มีการติดต่อทำธุรกรรม ทำกิจกรรมต่างๆกับอาเซียน สิ่งที่ได้คุยกันอีกเรื่องคือ เนื่องจากที่นี่บางครั้งอากาศหนาว ลมแรง ที่นี่จะมีแคชเมียร์ส่งออก 40% ประเทศไทยเราก็มีผ้าไหมไทย นายกฯก็ขอมาว่าน่าจะร่วมมือผลิตผ้าแคมเมียร์กับผ้าไหมไทย หรือแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี ดิฉันก็มีโอกาสได้ไปชมโรงงาน ก็เห็นว่าเครื่องจักรเขาก็มีการพัฒนาไปมาก

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า ในด้านข้าว มองโกเลียเคยซื้อข้าวไทยอยู่แล้ว ก็ถือโอกาสมาขอบคุณ และหวังว่าจะสั่งซื้อข้าวต่อไป รวมทั้งสินค้าเกษตรอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังได้ เชิญนายกฯ มองโกเลียมาเยือนไทยก็จะได้ติดตามความคืบหน้าในการเดินทางมาครั้งนี้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น