“หมวดเจี๊ยบ แวร์อาร์ยู” ย้ำรัฐบาลยืนยันปาฐกถานายกฯ ถูกต้องในจุดยืนประชาธิปไตยไทย อ้างล้างมลทินไม่ได้รับการยอมรับเวทีโลก เย้ยสมัย “มาร์ค” เคยได้ร่วมเวทีเกี่ยวประชาธิปไตยหรือไม่ “ภักดีหาญส์” ซัดหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ข้ามไม่พ้นนายใหญ่ ป้องไม่ได้ประณามชาติ ปัดฟอกผิดให้พี่ อ้างข้าวเน่า “มัลลิกา” แฉมีไม่มาก ลั่นจำนำข้าวไม่ได้ฆ่าคนไทย ไม่ได้มองชาวบ้านเป็นหมา
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงการปาฐกถาพิเศษ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวทีประชาคมประชาธิปไตย ครั้งที่ 7 ที่ประเทศมองโกเลีย ว่า รัฐบาลขอยืนยันว่าการกล่าวปาฐกถาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยของประเทศไทย ถือเป็นการลบล้างมลทินของประเทศไทยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกในเวทีที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตย เนื่องจากรัฐบาลเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เข้าสู่อำนาจโดยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำจดหมายชี้แจงไปยังองค์กรใดๆ ก็ตามถือเป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ทราบหรือว่าประชาคมโลกมีความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นของประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเบื้องหลังการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 ที่มีการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร การปราบปรามประชาชนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และหากที่ผ่านมาประชาคมโลกไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังทางการเมืองประเทศไทย เหตุใดรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่ได้เชิญไปเข้าร่วมการประชุมที่สำคัญระดับโลก โดยเฉพาะเวทีที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตย
“อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ลองถามตัวเองว่า สมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เคยได้รับเชิญไปร่วมในเวทีสำคัญ หรือได้รับเชิญไปเยือนประเทศที่มีการพัฒนาประชาธิปไตยในระดับสูงหรือไม่ พร้อมทั้งขอให้พรรคประชาธิปัตย์หยุดบิดเบือนว่าการปาฐกถาของนายกฯว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเจตนาของนายกฯ ต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าประเทศไทยมีเป้าหมายในการพัฒนาประชาธิปไตย ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว เป็นเรื่องส่วนรวมและเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ในประเทศ” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ยังคงความคิดเก่าๆ ไม่เคยก้าวผ่านตัว พ.ต.ท.ทักษิณได้ และสิ่งที่นายกฯได้กล่าวไปนั้น ได้สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่ยกประเด็นของครอบครัวชินวัตรขึ้นมา เชื่อได้ว่าเป็นประเด็นที่สามารถทำให้หลายคนเห็นภาพพ้องกัน ซึ่งไม่ได้เป็นการพูดเพื่อประณามประเทศให้คนอื่นฟัง และไม่ได้พูดเพื่อฟอกความผิดให้กับพี่ชายแต่อย่างใด แต่ต้องการนำมาเป็นอุทาหรณ์ เพื่อแสดงถึงความเป็นประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นในประเทศ และไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก ตนอยากจะขอให้นายอภิสิทธิ์ ทำความเข้าใจกับข้อมูลที่มีกับข้อมูลตามความจริงใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะมีเหตุผลที่ดีขึ้นไม่ใช่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรค ปชป.นำข้าวเน่าที่บรรจุถุงขายในร้านถูกใจ ย่านบางพลัด มาแถลงต่อสื่อมวลชน ว่า อาจจะเกิดความผิดพลาดบางอย่างขึ้น เพราะรัฐบาลได้รับจำนำข้าวมาและก็ระบายออกไปเป็นจำนวนมากแล้ว ไม่เกิดปัญหาอย่างกรณีดังกล่าวขึ้นแต่อย่างใด เพิ่งจะมีเหตุที่ข้าวเน่าและเป็นจำนวนข้าวที่ไม่มาก ทั้งนี้อาจเกิดปัญหาในจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจะต้องรอการตรวจสอบต่อไป
นายภักดีหาญส์ กล่าวอีกว่า การที่ นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี และอดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ออกมาระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลกำลังจะฆ่าคนไทยอย่างเลือดเย็นนั้น ตนขอชี้แจงว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะหยิบยื่นสิ่งไม่ดีให้กับประชาชนคนไทย ทราบกันดีว่าข้าวเป็นอาหารหลัก ใครจะกล้าที่จะนำสิ่งไม่ดีมอบให้กับประชาชน เพราะประชาชนคือพลังหลักของประเทศ เกิดจากการผิดพลาดบางอย่าง
“ขอบอกว่ารัฐบาลไม่เคยมองประชาชนเป็นหมา อย่างที่มีคนพูด รัฐบาลรู้ว่าข้าวคือปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่นำไปมอบให้ต้องเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจก็ต้องขอโทษพี่น้องประชาชน และจะรีบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขและหาสาเหตุดังกล่าวโดยเร็ว” นายภักดีหาญส์ กล่าว
