ข่าวปนคน คนปนข่าว
สิ้นสุดไปลงไปด้วยความชื่นใจ และมั่นใจจากชาวไทยว่าดินแดนอธิปไตยของชาติไทยจะไม่ถูกเฉือน ถูกแบ่งหายไปไหน หลังได้ชมได้ฟังการชี้แจงของทีมกฎหมายฝ่ายไทยที่ไปปฏิบัติการ “สู้เพื่อชาติ” ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ อย่างสมภาคภูมิ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนคนไทยกว่าครึ่งค่อนประเทศ ส่งกำลังใจไปยังทวีปยุโรปให้ทีมกฎหมายต่อสู้คดีพระวิหารของไทยประสบความสำเร็จ ได้รับชัยชนะในการปกป้องดินแดนของราชอาณาจักรไทย
เมื่อสดับตรับฟังด้วยความพินิจพิเคราะห์ ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าอยากจะไปลุกขึ้นยืนปรบมือดังๆ ยาวๆ ให้ทีมงานที่ไปปฏิบัติการเพื่อชาติถึงที่นั่น “วีรชัย พลาศรัย” เอกอัครราชทูตของไทยประจำกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ พร้อมทีมทนายชาวต่างชาติ ได้สร้างความประทับใจให้กับคนไทย จนเป็นฮีโร่หน้าใหม่ในสายตาของชาวสยาม
การขึ้นชี้แจงด้วยวาจาแต่ละครั้งคราวของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ กระชากหัวใจคนไทยให้ฮึกเหิม จนอยากจะย่ำยีบีทาชาติเขมรให้จมกองเท้าราบคาบติดดินไปเสียตอนนั้น
เพราะท่วงทำนองร้อยกับถ้อยคำ ล้วนชาญฉลาด ฉะฉาน กล้าหาญเด็ดเดี่ยว จนไม่สามารถคิดได้ว่าใครจะทำได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
ได้ใจคนไทยไปเต็มๆ และได้สร้างความเชื่อมั่นอย่างสุดประมาณว่าไทยจะไม่เพลี่ยงพล้ำบนเวทีนี้แน่นอน กระนั้นก็ตามถึงแม้ว่าจะพลาดท่าเสียทีอย่างไร ก็คงไม่มีใครกล้าไปตอกย้ำซ้ำเติมว่าเป็นความผิดพลาดของทีมทนายชุดนี้!!
ศาลโลกจะตัดสินอย่างไร จะรับคำร้องเอาไว้หรือไม่ ก็คงไม่เป็นไร และถึงแม้เลวร้ายที่สุดจะแพ้คดีครั้งนี้ ก็คงไม่มีใครกล้าโยนความผิดให้ “วีรชัย” และทีมงาน เพราะถือว่าได้ทำเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถแล้ว จะมีแต่เสียงชื่นชมที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้จิตสำนึกของข้าราชการที่ดี ข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผลจะเป็นอย่างไรยังต้องรอติดตาม แต่ที่ไม่ต้องรอคือชัยชนะของทีมทนายบนหัวใจของคนไทย ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถภาคภูมิใจว่าประเทศเรายังมีข้าราชการน้ำดีเช่นนี้อยู่ ไม่ได้ถูกกลืนกินไปกับผลประโยชน์ ไม่ได้เปลี่ยนสีไปตามนักการเมืองชั่วๆ ทั้งหมด
สำหรับต้นตอของปัญหานี้ถ้าพินิจพิเคราะห์แล้วล้วนมาจากฝ่ายการเมือง และฝ่ายผู้ถืออำนาจทั้งสิ้น ใครไปทำอะไรไว้ย่อมรู้แก่ใจดี การไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมก็ดี ฝ่ายทหารละเลยการปฏิบัติหน้าที่ก็ดี ปล่อยให้เขมรบุกเข้ามาปลูกสิ่งก่อสร้าง ตีตราความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในพื้นที่ทับซ้อน เป็นชนวนเหตุแห่งความขัดแย้ง ปะทะ เผชิญหน้า
ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ไม่มีการคิดถึงเหตุการณ์ในอนาคต เอาแต่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ ยอมขายชาติขายแผ่นดิน ปล่อยให้ปัญหาบานปลายลุกลามจนยากเกินแก้ ในที่สุดต้องเดือดร้อนขึ้นโรงขึ้นศาลประจานไปทั่วโลก
เอาประเทศชาติไปปู้ยี่ปู้ยำ สุดท้ายเมื่อจวนตัว ความฉิบหายจะพุ่งเข้าตัวก็ตาลีตาเหลือกแก้ไขกันพัลวัน การต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าชนะมาก็จะเป็นผลงาน เป็นเครดิต ของข้าราชการน้ำดี และคณะทีมกฎหมายไทย รับไปเต็มๆ ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล หรือพรรคเมืองใดๆ ทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ อย่ามาแอบอ้างเอาความชอบ!!
“ทูตวีรชัย”เป็นตัวอย่างข้าราชการที่ดีที่สุด แม้จะโดนพิษการเมืองโยกย้าย กลั่นแกล้งอย่างไร แต่ก็ไม่ท้อถอย สุดท้ายก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ ไม่มีมีเกี่ยงงอน มโนสำนึกยอดเยี่ยม เป็นตัวอย่างของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยแท้
สะท้อนให้เห็นชัดเจนอย่างหนึ่งว่า ถ้าตราบใดไม่ยอมตกเป็นขี้ข้านักการเมือง ก้มหน้าก้มตาทำงานตามความรับผิดชอบของตัวเองให้เต็มความสามารถ วันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง วันนั้นก็จะสามารถแสดงศักยภาพ ให้คนไทย หรือแม้กระทั่งชาวโลกได้เห็น จนต้องนึกเสียดายว่า ใครหนอช่างกล้า ขว้างเพชรเม็ดงามลงสู่โคลนตม
“ทูตวีรชัย”กลายเป็นวีรบุรุษที่คนยกย่องเชิดชู สวนทางกับนักการเมืองที่เป็นผู้ทิ้งขว้างของมีค่าไปด้วยจิตใจสกปรก น่านับถือ “ทูตวีรชัย” เป็นอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่งเคยถูกนพดล ปัทมะ ในขณะเป็น รมว.ต่างประเทศ ย้ายจาก อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง และที่ปรึกษากฎหมายปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
โทษฐานคัดค้านการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา หนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว!!
พอมาถึงรัฐบาลนี้ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เสนอครม.ถอด “ทูตวีรชัย” ออกจากการเป็นกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หลังจากที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เข้าบริหารประเทศเพียงเดือนเศษเท่านั้น
เป็นตลกร้ายที่วันนี้รัฐบาลเหมือนต้องพึ่งพาคนที่เคยรังแกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นอย่ามาสะเออะอ้างเอาความดีความชอบกันเลยดีกว่า เห็นแล้วมันคลื่นไส้จริงๆ ให้ตายเถอะ!!
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตาบนกระดานการเมืองต่อไป หลังศึกเลือกตั้งซ่อมส.ส.เชียงใหม่เขต 3 ซึ่ง "เจ๊แดง" เยาวภาหน้าซาลาเปา เข้าวินได้เป็นส.ส.เดินส่ายสะโพกเข้าสภา จะเข้ามามีบทบาทในสนามการเมืองหน้าฉากอย่างไร ก่อนหน้านี้อยู่หลังฉากมาตลอด และข่าวลือสารพัดสารพัน โดยเฉพาะเรื่องเก็บเปอร์เซ็นต์ไปอู้ฟู่แทบทุกงาน
เฉพาะหน้า "เยาวภา" ถูกวางตัวให้มาเป็นแม่ทัพคุมเกมในสภา เป็นครูใหญ่ถือไม้เรียวคอยไล่หวดก้นส.ส.ไม่โดดประชุมจนสภาล่มซ้ำซากน่าอดสูเหมือนเก่าก่อน
จากนั้นก็จะขยับเข้าสู่ฝ่ายบริหาร เป็นรัฐมนตรี หรือแม้แต่ นายกรัฐมนตรีสำรอง!!
อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าคนรอบข้างใกล้ชิดนักโทษหลบหนีคดี "ทักษิณ ชินวัตร" จะมีทำยาได้สักกี่คน สำคัญกว่านั้นคือไว้ใจได้กี่คน ระยะหลัง "ทักษิณ" พูดแกมน้อยใจเสมอๆ ว่า ตัวเองเหมือนคนลอยคอกลางทะเล ไม่ได้กลับบ้าน คนที่อยากจะช่วยให้กลับบ้านจริงๆ จังๆ จะมีสักกี่คน ส่วนใหญ่กลัวตัวเองกลับไปมากกว่า เพราะถ้ากลับไปตัวเขาจะหมดค่า
"ทักษิณ" รู้ทัน รู้ว่ามีคนคิดแบบนี้อยู่ไม่น้อย ในรอบๆตัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเลยตามเลย ฉะนั้นการส่ง "เยาวภา" ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เข้ามาช่วยงานน้องสาวปูกรรเชียงอีกรายย่อมเป็นหนทางที่ดี ต้องเอาคนไว้ใจเข้ามาทำอะไรบางอย่าง
เพราะตอนนี้ "ทักษิณ" ส่งสัญญาณลุยแตกหักอีกครั้ง สั่งส.ส.ลุยผ่านกฎหมายทุกฉบับ เบื้องต้นยังแตะเบรกชะลอไว้หน่อย รอให้กฎหมายเกี่ยวกับการเงินผ่านไปก่อน หลังจากนั้น กฎหมายแก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษ ปรองดอง มาเป็นชุดแน่
งานนี้แว่วว่าเดิมพันหมดหน้าตัก สั่งชนแหลก ถ้าไม่ไหวก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เดี๋ยวก็กลับมา!!