“นพดล” ปัดแถลงร่วมฯ สละสันปันน้ำ โอ่เป็นประโยชน์แต่ใช้ไม่ได้

อดีต รมว.กต.บ่นเบื่อถูกใส่ร้าย ยันเขียนแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมร ไม่ได้สละสันปันน้ำ โอ่เป็นประโยชน์จนทนายสยามอยากใช้ แต่ทำไม่ได้ เหตุศาลปกครองสั่งโมฆะ ไล่ไปขอความรู้จาก “ทูตวีรชัย” อย่าเชื่อเพื่อนบ้านมาฆ่าคนไทยด้วยกัน โวกัมพูชาไม่ได้ใช้เพราะเป็นประโยชน์ต่อไทย ด้าน “ดีเจแดง” โวรัฐถ่ายสดทำถูกต้อง ชัดปราสาทไม่ใช่ของเรา ป้องยุคสมัครไม่ได้ประเคนซากให้

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตนรู้สึกเบื่อหน่ายกับการใส่ร้ายเท็จแบบแผ่นเสียงตกร่องของนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าคำแถลงการณ์ร่วมสมัยรัฐบาลสมัคร เป็นการสละเส้นสันปันน้ำ ซึ่งเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะไม่มีข้อความตอนใดเลยของคำแถลงการณ์ร่วมที่ระบุเช่นนั้น คำแถลงการณ์ร่วมเป็นสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และคณะทนายความไทยในศาลโลกก็อยากใช้คำแถลงการณ์ร่วมในการต่อสู้คดีในครั้งนี้ แต่เพราะศาลปกครองเคยสั่งห้ามใช้ประโยชน์และอ้างอิง และสั่งให้เป็นโมฆะไปแล้ว ทีมทนายของไทยในศาลโลกจึงไม่ได้ใช้ ดังนั้นระหว่างความเห็นนายชวนนท์ กับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศระดับโลกที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แต่งตั้งมา ผมว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อความเห็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมากกว่าความเห็นนายชวนนท์

“นายชวนนท์ ถ้าไม่มีความรู้ ก็ขอความรู้จากท่านทูตวีรชัย ไม่ใช่เชื่อคำพูดของทนายเขมรแล้วมาด่าคนไทยด้วยกันเอง แต่พอเขมรบอกว่ารัฐบาลยุคอภิสิทธิ์ไปรุกรานเพื่อนบ้าน ทำไมคุณถึงเลือกที่จะไม่เชื่อ แล้วเรียกร้องให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไปแก้ต่างให้ แต่พอเขมรพูดถึงรัฐบาลสมัคร กลับเอาคำพูดของเขามาใส่ไฟคนไทยด้วยกัน ผมขอย้ำว่าคำแถลงการณ์ร่วมได้ปกป้องพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เอาไว้ และเป็นของดี แต่ศาลปกครองสั่งเป็นโมฆะไปแล้ว เขมรจึงไปอ้างอิงใดๆ ไม่ได้ และเขาก็ไม่ได้อ้างอิงในการต่อสู้คดีในศาลโลก ที่ผ่านมาเพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย” นายนพดลกล่าว

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแถลงคดีปราสาทพระวิหารด้วยวาจาต่อศาลโลก ว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการจัดให้มีการถ่ายทอดสดกลับมายังประเทศไทย เพราะจะทำให้คนที่ตกเป็นเหยื่อวาทกรรมอำพราง จากฝ่ายต่อต้านรัฐ ได้เข้าใจเสียทีว่า ปราสาทพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา ตั้งแต่ 51 ปีที่แล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่กลุ่มพันธมิตรฯคลั่งชาติต่างๆ จะกล่าวหาว่ารัฐบาลพลังประชาชน ยกปราสาทให้กัมพูชา ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไทยแพ้คดีจนสูญเสียปราสาท ให้ไปถามพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอดีตหัวหน้าพรรคถึง 2 คน เกี่ยวข้องกับการสู้คดีในช่วงนั้น วาทกรรมอำพรางที่หลอกกลุ่มต่อต้านรัฐอีกอันหนึ่ง คือกัมพูชาได้ไปเฉพาะซากหิน ผืนดินใต้ปราสาทยังคงเป็นของเรา ในการถ่ายทอดเราก็ได้เห็นทีมทนายไทยได้ย้ำตลอดว่า ไทยได้ส่งมอบปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา พร้อมล้อมรั้วรอบตัวปราสาทไว้ แสดงว่าเราได้ส่งมอบไปครบถ้วน แล้วรัฐบาสมัครจะไปยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาซ้ำอีกได้อย่างไร ดังนั้นความรู้ที่ได้จากการถ่ายทอดสดครั้งนี้ จึงน่าจะทำให้พี่น้องร่วมชาติที่หลงมัวเมาถูกครอบงำจากวาทกรรมอำพรางมานาน ได้ตาสว่างเสียที