xs
xsm
sm
md
lg

“ปึ้ง” เบาใจ อ้างเขมรให้การเรื่องเดิม พร้อมตอบโต้แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และพลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต เข้ารับฟังการให้การโดยวาจาของฝ่ายกัมพูชาต่อศาลศาลโลก ที่กรุงเฮก วันนี้(15เม.ย.)
“สุรพงษ์” เผยไม่หนักใจ หลังฟังตัวแทนกัมพูชาให้การในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร อ้างฝ่ายเขมรเสนอตามความคาดหมายของไทย ไม่มีประเด็นใหม่ โวคณะทำงานเตรียมข้อมูลพร้อมตอบโต้แล้ว

เมื่อเวลา 20.26 น.วันนี้ (15 เม.ย.) กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ข่าวทางเว็บไซต์ www.phraviharn.org ว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้ารับฟังการให้การโดยวาจาของฝ่ายกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) โดยนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ในฐานะตัวแทนรัฐบาลกัมพูชา และคณะที่ปรึกษากฏหมายชาวต่างชาติของฝ่ายกัมพูชา ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505

หลังจากรับฟังถ้อยแถลงในช่วงแรกของฝ่ายกัมพูชา นายสุรพงษ์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสรุปคำให้การของฝ่ายกัมพูชาว่า นายฮอร์ นัมฮงได้พยายามชี้แจงต่อศาลฯ ยืนยันว่ามีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างไทยกับกัมพูชาเกี่ยวกับขอบเขตและความหมายของคำพิพากษาปี 2505 และการที่ไทยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาฯ ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ปะทะทางอาวุธบริเวณชายแดนในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ทำให้กัมพูชาต้องขอให้ศาลฯ ตีความคำพิพากษาฯ ให้ชัดเจน ส่วนคณะที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างชาติของกัมพูชาได้พยายามเสนอข้อมูลหักล้างเหตุผลและหลักฐานในคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรที่ไทยได้ยื่นต่อศาลฯ ก่อนหน้านี้

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่าไม่รู้สึกหนักใจ เพราะประเด็นต่างๆ ที่กัมพูชาได้นำเสนอเป็นไปตามความคาดหมายของฝ่ายไทย ไม่มีประเด็นใหม่ ซึ่งคณะทำงานของไทยมีความพร้อม โดยได้เตรียมข้อมูลตอบโต้ไว้แล้ว ทั้งนี้กระบวนการชี้แจงโดยวาจาเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ ไทยมีกำหนดจะชี้แจงท่าทีของไทยต่อศาลฯ ในวันที่ 17 เมษายน 2556

ต่อมา ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตามเวลาที่กรุงเฮก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้บรรยายสรุปแก่ผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการให้การทางวาจารอบแรกของฝ่ายกัมพูชา สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1. กัมพูชาได้นำเสนอข้อโต้แย้งและประเด็นหักล้างคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรของฝ่ายไทย โดยพยายามอธิบายว่ากัมพูชามิได้ขออุทธรณ์คดีฯ หรือเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาปี ๒๕๐๕ เพียงแต่ต้องการให้ศาลฯ ชี้ให้ชัดเจนว่าขอบเขตดินแดนของกัมพูชา และบริเวณใกล้เคียงปราสาทที่ระบุในคำพิพากษาฯ คืออะไร

2. กัมพูชาพยายามแสดงให้ศาลฯ เห็นว่ากัมพูชาและไทยมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับคำพิพากษาฯ และได้อธิบายว่า “แผนที่ภาคผนวก 1” เป็นส่วนของเหตุผลสำคัญที่ไม่อาจแยก (inseparable) จากคำพิพากษาเดิมได้ ดังนั้น คำขอของกัมพูชาจึงเข้าเงื่อนไขของการขอให้ศาลฯ ตีความคำพิพากษา

3. การตีความดังกล่าวจะทำไม่ได้หากไม่อ้างอิง “แผนที่ภาคผนวก 1” แนบท้าย คำฟ้องของกัมพูชาในคดีเดิม ซึ่งกัมพูชาเห็นว่าศาลฯ ได้ยอมรับแล้วว่าเส้นบนแผนที่ดังกล่าวเป็นเส้นเขตแดนระหว่างกัมพูชากับไทย

ในเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าการให้การทางวาจาของฝ่ายกัมพูชาข้างต้น เป็นไปตามที่ปรากฏในคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรของฝ่ายกัมพูชาที่ได้ยื่นต่อศาลฯ ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะหักล้าง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฯ เมื่อปี 2505 ที่ไทยได้ปฏิบัติตามอย่างครบถ้วนแล้ว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอธิบายเพิ่มเติมว่ากัมพูชาพยายามแสดง ให้ศาลฯ เชื่อว่าการปฏิบัติตามคำพิพากษาของฝ่ายไทยเมื่อปี 2505 เป็นการตีความคำพิพากษาตามความเข้าใจของไทยฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทพระวิหารตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2505 ซึ่งกัมพูชาไม่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม ไทยจะนำเสนอข้อมูลและเหตุผลซึ่งมีความชัดเจนและมีน้ำหนัก ในวันที่ 17 เมษายน 2556 ต่อไป
นายวีระชัย พลาศรัย เอกอกัคราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ตัวแทนฝ่ายไทยที่จะให้การโดยวาจาต่อศาลโลก จับมือกับนายฮอร์นัมฮง รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และพลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต  พูดคุยกับนายฮอร์นัมฮง รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม





กำลังโหลดความคิดเห็น